สหรัฐฯ วอนทั่วโลกร่วมมือยับยั้งอีโบลา ก่อนเป็นภัยคุกคามโลก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กรมควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ เตือนทั่วโลกช่วยยับยั้งอีโบลาระบาด ชี้เป็นปัญหาของทั้งโลก
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2557 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ผู้อำนวยการกรมควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ออกมากระตุ้นเตือนให้ทั่วโลกช่วยกันยับยั้งการระบาดของเชื้ออีโบลาในแอฟริกาตะวันตก ย้ำนี่ไม่ใช่ปัญหาของแอฟริกาตะวันตก แต่เป็นปัญหาระดับโลก
โดยนายโทมัส ฟรีเดน ผู้อำนวยการกรมควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ได้เปิดเผยหลังจากไปเยี่ยมศูนย์กักกันผู้ป่วยอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกว่า ยังมีหน้าต่างแห่งโอกาสที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาได้ แต่หน้าต่างนั้นถูกปิดอยู่ ทั้งโลกต้องช่วยกันเปิดหน้าต่างนั้นออกได้แล้ว การระบาดของอีโบลาในตอนนี้ ถือว่าเป็นการระบาดที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 40 ปี นับตั้งแต่ค้นพบเชื้อไวรัสอีโบลา เพราะว่าอีโบลาได้ระบาดไปหลายประเทศในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ต่างจากที่ผ่านมาที่มีการระบาดในวงแคบ ๆ เท่านั้น และตอนนี้ตัวเลขผู้ป่วยได้พุ่งแตะ 3,000 รายแล้ว การดำเนินการอย่างล่าช้าได้ทำให้การระบาดของอีโบลาเริ่มควบคุมได้ยากขึ้นทุกวัน
"นี่ไม่ใช่ปัญหาของแอฟริกาเท่านั้น แต่อีโบลาคือปัญหาของโลก และทั่วโลกจะต้องร่วมมือกันยับยั้งมัน" ฟรีเดน กล่าว พร้อมบอกด้วยว่า การไม่พยายามยับยั้งการระบาดอย่างจริงจังจะทำให้อีโบลาระบาดไปยังประเทศอื่น ๆ และระบาดได้ง่ายขึ้น อาจบานปลายกลายเป็นภัยคุกคามโลก
เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ได้ออกมาแถลงถึงสถานการณ์อีโบลาอันน่าเป็นห่วงในลักษณะเดียวกัน โดยเตือนว่าอีโบลาได้ระบาดอย่างรวดเร็ว และจำนวนผู้ป่วยอาจจะพุ่งสูงแตะ 20,000 ราย ในอีก 9 เดือนข้างหน้า
อนึ่ง สำหรับสถิติผู้ป่วยอีโบลาล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก ระบุตัวเลขผู้ป่วยอยู่ที่ 3,062 ราย เสียชีวิตแล้ว 1,552 ราย ขณะที่เชื้ออีโบลาอีกสายพันธุ์หนึ่งก็เริ่มระบาดแล้วที่คองโก ตัวเลขผู้ป่วยตอนนี้อยู่ที่ 52 ราย เสียชีวิตแล้ว 31 ราย
