เผยข้อมูลความคืบหน้าและข้อปฏิบัติตัวในสถานการณ์วิกฤตหมอกควันภาคใต้ เพื่อป้องกันและดูแลตัวเองให้ปลอดภัย จะมีวิธีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน
จากสถานการณ์เกิดไฟไหม้บนเกาะสุมาตรา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ทำให้หมอกควันจากไฟป่าพัดข้ามแดนเข้ามาปกคลุมในหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยการบิน รวมถึงสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเริ่มอึดอัด หายใจไม่ออก แสบจมูก-ตา
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2558 พบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่าระหว่าง 47-201 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยมีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ดังนี้
1. จ.สุราษฎร์ธานี
2. จ.ภูเก็ต
3. จ.สงขลา
4. จ.ยะลา
5. จ.นราธิวาส
6. จ.สตูล
7. จ.ปัตตานี
สำหรับวิธีการปฏิบัติตัวในวิกฤตหมอกควัน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำไว้ดังนี้
1. เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยง กิจกรรมในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม หากไม่จำเป็นก็ขอให้อยู่ในบ้าน เนื่องจากปริมาณฝุ่นในบ้านจะต่ำกว่านอกบ้านประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์
2. หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก เพื่อป้องกันสูดฝุ่นละอองควันไฟ หากไม่มีหน้ากากอนามัย สามารถใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำหมาด ๆ ปิดจมูก จะช่วยป้องกันได้
3. ดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อให้ทางเดินหายใจชุ่มชื้น และขับฝุ่นละอองได้ง่ายขึ้น
4. ในกลุ่มที่ใช้รถจักรยานยนต์ จัดว่าเป็นกลุ่มที่มีโอกาสสูดฝุ่นละอองควันไฟขณะขับขี่ได้มาก จึงควรสวมหมวกกันน็อกชนิดที่มีฝาครอบกันลมด้านหน้าจะช่วยได้มากและสวมแว่นกันลม รวมทั้งคาดหน้ากากอนามัยป้องกันด้วย
5. ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากภาคราชการอย่างต่อเนื่อง
6. หากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์
ภาพจาก ครอบครัวข่าว 3
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก กระทรวงสาธารณสุข
