ประโยชน์ของขิง สรรพคุณบรรเทาอาการป่วย

ประโยชน์ของขิง ที่ช่วยบรรเทาอาการป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้สารพัด ถ้าใช้ถูกวิธีก็จะได้สรรพคุณยาดี ๆ จากขิง

เราคงคุ้นเคยกับการใช้ขิงเป็นส่วนประกอบของอาหาร แต่ยิ่งกว่านั้น "ขิง" ยังเป็นสมุนไพรใกล้ตัวที่นำมาบรรเทาอาการเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ของร่างกายได้สารพัดด้วยนะคะ ถ้ารู้จักใช้ให้ถูกตำรับ "ขิง" ก็เหมือนเป็นยาสามัญประจำบ้านแบบธรรมชาติอีกหนึ่งชนิดที่ต้องมีติดไว้ในครัวเลย มาดูกันว่า ขิงบำบัดบรรเทาอาการอะไรได้บ้าง

สูตรน้ำขิงแก้คลื่นไส้-อาเจียน

สูตรที่ 1 : นำขิงแก่สด ขนาดหัวแม่มือ (ประมาณ 5 กรัม) มาทุบให้แตก แล้วต้มดื่มตอนท้องว่าง

สูตรที่ 2 : นำขิงแห้งประมาณ 5-7 ชิ้น มาต้มกับน้ำดื่ม

สูตรที่ 3 : นำขิงสด 3 หัว หัวโตยาวประมาณ 5 นิ้ว ใส่น้ำ 1 แก้ว ต้มจนเหลือครึ่งแก้ว ต้มประมาณ 15-20 นาที หลังจากเดือดแล้ว จึงรินเอาน้ำดื่ม

สูตรน้ำขิงแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ

สูตรที่ 1 : นำขิงประมาณ 30 กรัม มาชงในน้ำเดือด 500 มิลลิลิตร แช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วกรองน้ำมาดื่ม ครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ

สูตรที่ 2 : นำขิงแก่มาต้มกับน้ำร้อน 1 ถ้วยกาแฟ เคี่ยวให้เหลือครึ่งเดียว ดื่มหลังอาหารจะช่วยแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ได้ดี

สูตรที่ 3 : นำผงขิงแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ ต้มกับน้ำ เติมน้ำตาลแล้วดื่ม

สูตรขิงแก้ไข้

นำขิงแก่ขนาด 1 หัวแม่มือทุบพอแตก นำไปต้มผสมน้ำตาลทรายแดง ใช้น้ำ 1 ถ้วยกาแฟเคี่ยวให้เหลือครึ่งเดียว ดื่มลดไข้ แต่ถ้ามีไข้สูงมาก ให้บดขิงจนละเอียดแล้วต้มผสมน้ำตาลทรายแดง กรองเหลือแต่น้ำ ดื่มเพื่อลดไข้และขับเหงื่อ

สูตรขิงแก้หวัด แก้ไอ ขับเสมหะ

หากเป็นหวัดควรใช้ขิงสด เพราะจะมีน้ำมันหอมระเหยอยู่มากจึงช่วยบรรเทาอาการหวัด

สูตรที่ 1 : ใช้ขิงสดฝนกับน้ำมะนาว ผสมเกลือเล็กน้อย ใช้กวาดคอหรือจิบบ่อย ๆ จะช่วยให้อาการไอดีขึ้น เพราะนอกจากขิงแล้ว น้ำมะนาวและเกลือก็มีส่วนช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอได้ดี

สูตรที่ 2 : ใช้เหง้าขิงสดอายุ 11-12 เดือน ขนาดเท่าหัวแม่มือ มาทุบให้แตก แล้วต้มเอาน้ำมาดื่ม จิบบ่อย ๆ แทนน้ำจะช่วยให้อาการหวัดหายเร็วขึ้น แต่ถ้ามีอาการไอให้ผสมน้ำผึ้งและเกลือลงในน้ำขิงด้วย

สูตรขิงช่วยให้เจริญอาหาร

สูตรที่ 1 : นำเหง้าขิงสดมารับประทานสด ๆ คู่กับอาหาร

สูตรที่ 2 : นำขิงแก่ขนาดหัวแม่มือมาอังไฟจนสุก ตำผสมน้ำปูนใส คั้นเอาแต่น้ำ ผสมน้ำร้อน 1 ถ้วยกาแฟ ดื่มก่อนอาหารประมาณ 30 นาที จะช่วยเรียกน้ำย่อย แก้เบื่ออาหาร

สูตรขิงแก้ปวดประจำเดือน

นำขิงแก่มาต้มกับน้ำ หรือน้ำตาลทรายแดง ดื่มเป็นประจำในช่วงก่อนประจำเดือนจะมา หรือช่วงมีประจำเดือน ความเผ็ดร้อนของขิงจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น บรรเทาอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อทั้งในมดลูกและทางเดินอาหาร จึงช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนของผู้หญิงได้ดี

สูตรน้ำขิงลดความดันโลหิต

นำขิงสดมาฝานแล้วต้มกับน้ำดื่มวันละแก้ว จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดความดันโลหิต

สูตรรักษาผมร่วงด้วยขิง

น้ำมันจากขิงจะช่วยให้รากผมที่อ่อนแอกลับมาแข็งแรงขึ้น และถ้าทำเป็นประจำจะกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผมด้วย โดยมีหลายสูตรให้เลือกไปลองใช้ดู

สูตรที่ 1 : นำขิงแก่ 1 แง่ง ไปอิงไฟจนอุ่น จากนั้นนำไปตำให้ละเอียด เสร็จแล้วห่อด้วยผ้าขาวบางทำเป็นลูกประคบ นำมาประคบลงบนโคนผมให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วสระผมให้สะอาด

สูตรที่ 2 : นำขิงมาปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก จากนั้นนำไปปั่นให้ละเอียดแล้วคั้นเอาน้ำ นำไปผสมกับน้ำมันมะพร้าว คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำน้ำขิงที่ผสมน้ำมันมะพร้าวมาหมักผมทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออก

สูตรที่ 3 : เป็นสูตรจากรายการคนสู้โรค ช่อง ThaiPbs โดยต้องเตรียมขิง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และหอมแดง

- นำขิงแก่ 1-2 ขีดมาหั่นให้บาง ๆ แล้วเคี่ยวกับน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น โดยใส่น้ำมันมะพร้าวให้พอท่วมขิง ตั้งไฟทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจนขิงสลด หรือน้ำมันมะพร้าวเปลี่ยนสี ก็จะได้น้ำมันขิง ให้เก็บใส่ขวดไว้

- จากนั้นให้นำหอมแขก หรือหอมแดง 3-4 หัวมาหั่นเป็นแว่น ใส่น้ำ 1 แก้ว (ประมาณ 200 ซี.ซี) ปั่นให้ละเอียดแล้วกรองน้ำออก จะได้น้ำหอมแดง

- เวลาจะใช้ ให้ผสมน้ำมันขิง 1 ช้อนโต๊ะ กับ น้ำหอมแดง 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำมาชโลมเส้นผม นวดเบา ๆ โดยเฉพาะบริเวณที่ผมบาง แล้วนำหมวกคลุมผมมาครอบทิ้งไว้สัก 15 นาที จึงค่อยล้างออก น้ำมันขิงที่ซึมเข้าสู่หนังศีรษะจะช่วยให้เส้นผมกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง แต่ขอย้ำว่าไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 15 นาที เพราะความร้อนของขิงจะทำให้หนังศีรษะระคายเคืองได้ สามารถทำได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อแก้ปัญหาผมร่วง

สูตรขิงแก้ปวดข้อ

สูตรที่ 1 : นำขิงสดมาคั้นน้ำแล้วผสมกาวหนังวัว เคี่ยวให้ข้น จากนั้นนำไปพอกบริเวณที่ปวด

สูตรที่ 2 : นำเหง้าขิงสดไปย่างแล้วนำไปตำ ผสมน้ำมันมะพร้าว คนให้เข้ากันแล้วใช้ทาบริเวณที่ปวด

ข้อควรระวังในการดื่มน้ำขิง

          - หากเพิ่งเริ่มดื่มน้ำขิง แนะนำให้คั้นในปริมาณน้อย ๆ ก่อน อย่าเพิ่งใช้ปริมาณที่เข้มข้นเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการร้อนในหรืออักเสบ อีกทั้งอาจทำให้มีฤทธิ์รุนแรงเกินไปจนกระทบกับสุขภาพได้

          - ขิงมีฤทธิ์ร้อน จึงไม่เหมาะกับคนที่มีความร้อนภายในร่างกายอยู่แล้ว เช่น มีอาการตาแดง ร้อนใน ตัวร้อน เหงื่อออกมาก เจ็บคอ มีเสมหะออกเหลือง เหนียวข้น หากทานขิงอาจมีอาการทรุดลง

          - ผู้ทีมี่อาการเลือดออกผิดปกติ หรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด รวมทั้งยาต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เช่น แอสไพริน ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขิง เพราะขิงมีสรรพคุณต้านการแข็งตัวของเลือด

          - หญิงตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานขิงเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ

          - ผู้ป่วยนิ่วในถุงน้ำดีไม่ควรทานขิง เพราะขิงมีฤทธิ์ขับน้ำดี

          - ขิงอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหารควรระมัดระวังในการทานขิง

          ทั้งนี้หากไม่สะดวกที่จะต้มน้ำขิงไว้ดื่มเอง ก็สามารถทานขิงผงสกัดสำเร็จรูปได้เช่นกัน โดยสรรพคุณอาจจะด้อยกว่าเล็กน้อย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรเลือกชนิดขิง 100% แบบที่ไม่ผสมน้ำตาล หรือมีรสหวานจนเกินไป จะดีกับสุขภาพมากกว่าค่ะ หรือถ้าใครอยากนำขิงมาประกอบอาหาร ก็สามารถเลือกปรุงตามเมนูเหล่านี้ได้เลย

7 เมนูน้ำขิง อิ่มสบายอร่อยหลากหลายใส่ใจสุขภาพ

16 เมนูขิง อาหารเพื่อสุขภาพกลิ่นหอม ช่วยหุ่นเป๊ะอย่างธรรมชาติ

ชาขิงโหระพา เครื่องดื่มสมุนไพรกลิ่นหอม

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ, หมอชาวบ้าน, ไทยพีบีเอส, ครอบครัวข่าว 3, หนังสือ 108 สมุนไพร ใช้เป็น หายป่วย โดย พิมลพรรณ อนันต์กิจไพศาล