แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นไอเทมทำความสะอาดช่องปากและฟันที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งระยะหลัง ๆ ราคาแปรงสีฟันไฟฟ้าก็เริ่มถูกลงและหาซื้อได้ง่ายมากขึ้น แถมมีรีวิวให้ดูเยอะพอสมควร อย่างวันนี้เราก็จะมาอัปเดตแปรงสีฟันไฟฟ้าราคาไม่เกิน 2,000 บาท ลองมาดูกันค่ะว่าถ้าอยากมีแปรงสีฟันไฟฟ้าสักด้าม เลือกแบบไหน ยี่ห้อไหนดี
ถ้าถามว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าดีไหม ก็ต้องตอบว่ามีข้อดี ดังนี้
1. ช่วยอำนวยความสะดวกสบาย ทำให้เราไม่ต้องออกแรงข้อมือในการแปรงฟัน
2. แปรงสีฟันไฟฟ้าส่วนใหญ่มีฟังก์ชันที่น่าสนใจ เช่น การสั่นสะเทือนเพื่อกำจัดคราบพลัค หรือบางรุ่นก็มีกล้องส่องภายในช่องปาก ทำให้เห็นแทบทุกซอกทุกมุมของฟันจึงทำความสะอาดช่องปากได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
3. ช่วยยืดระยะเวลาที่ใช้ในการแปรงฟันให้ครบตามมาตรฐานการแปรงฟันที่ถูกต้อง เพราะในบางทีการแปรงฟันตามปกติอาจทำให้เราแปรงฟันได้ไม่ถึง 2 นาที ต่างจากแปรงสีฟันไฟฟ้าที่จะหยุดทำงานเมื่อเวลาครบกำหนด
4. เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาในการควบคุมข้อมือ หรือผู้ที่มีความบกพร่องทางสมองหรือกล้ามเนื้อ รวมไปถึงผู้สูงอายุ ที่ไม่สามารถออกแรงแขนและมือเพื่อขยับแปรงสีฟันได้ตามปกติ
หลายคนจะรู้สึกว่าการแปรงฟันตามปกติไม่ค่อยสะอาด ยังมีกลิ่นปากหรือฟันยังเหลืองอยู่ เหมือนว่าแปรงสีฟันธรรมดาซอกซอนไปไม่ถึงเนื้อฟันสักเท่าไร และพอแปรงฟันนาน ๆ เข้าก็ชักจะเมื่อย จนอยากได้แปรงสีฟันไฟฟ้าขึ้นมา ซึ่งถ้าถามว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดาไหม ก็ต้องบอกว่าช่วยทุนแรงไปได้เยอะจริง ๆ อีกทั้งในปัจจุบันก็มีฟังก์ชันที่หลากหลาย เช่น มีคลื่นความถี่ที่ช่วยกำจัดคราบพลัค คราบหินปูนได้ หรือมีโหมดขัดฟันขาว โหมดสำหรับคนจัดฟัน ที่ตอบโจทย์การแปรงฟันของเราได้มากขึ้น นอกจากนี้การใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าก็ทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับการทำความสะอาดช่องปากมากกว่าเดิมด้วย
ทว่าในแง่ของความสะอาดในช่องปาก จริง ๆ แล้ว การแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง อย่างถูกวิธีด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และแปรงให้ทั่วถึงทุกซี่นานอย่างน้อย 2 นาที ไม่ว่าจะใช้แปรงสีฟันธรรมดาหรือแปรงสีฟันไฟฟ้าก็ช่วยทำความสะอาดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ต่างกันมากนัก แต่สำหรับบางกลุ่มที่ไม่แน่ใจว่าแปรงฟันได้อย่างถูกต้อง หรือมีข้อจำกัดเรื่องการควบคุมข้อมือ อาจเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้ามาใช้ก็ได้ แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ
1. เลือกชนิดหัวแปรงไฟฟ้าให้ตอบโจทย์
โดยหัวแปรงไฟฟ้ามีอยู่ 4 แบบด้วยกัน คือ
1. หัวแปรงแบบ 2D : หัวแปรงเคลื่อนไหว 2 รูปแบบ คือ ปัดขึ้น-ลง หรือปัดไปทางซ้ายหรือขวา และหมุนไปด้วย
2. หัวแปรงแบบ 3D : มีการเคลื่อนไหว 3 รูปแบบ คือ นอกจากปัดซ้าย ขวา ขึ้น ลงและหมุนแล้ว ยังส่งคลื่นความถี่ไปที่ร่องฟัน กำจัดคราบพลัคในช่องปากได้ดีขึ้น
3. หัวแปรงแบบโซนิค (Sonic) : เป็นหัวแปรงแบบที่ใช้พลังคลื่นเสียงในการสั่นสะเทือน ทำให้เกิดการขยับอย่างน้อย 30,000 ครั้งต่อนาที ด้วยคลื่นความถี่แบบกระจายตัวอย่างน้อย 20,000 เฮิร์ตช์ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันได้ดีขึ้น
4. หัวแปรงแบบอัลตราโซนิค (Ultrasonic) : การทำงานและการเคลื่อนไหวคล้ายหัวแปรงแบบโซนิค แต่มีคลื่นความถี่และแรงสั่นสะเทือนที่ขนแปรงสูงกว่าแบบโซนิค
2. เลือกการสั่นสะเทือนที่พอเหมาะ
3. เลือกแปรงสีฟันที่สามารถปรับระดับการสั่นสะเทือนได้
4. เลือกรูปแบบการชาร์จแบตเตอรี่ที่เหมาะสม
5. ควรเลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีเซ็นเซอร์วัดแรงกด (Pressure Censor)
6. เลือกที่มีฟังก์ชันเตือนให้ขยับแปรง (Quadrant Timers)
7. เลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ทำงานถึง 2 นาที
1. แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B PRO 500
ภาพจาก Central
แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral B รุ่นนี้เป็นหัวแปรงแบบ 3D ครอสแอ็คชั่นไขว้กัน ช่วยทำความสะอาดได้ดีขึ้น เคลื่อนที่ขึ้น-ลง 20,000 ครั้งต่อนาที มีรอบหมุน 8,800 รอบต่อนาที และมีระบบแจ้งเตือนเปลี่ยนตำแหน่งแปรงทุก ๆ 30 วินาที ตัวเครื่องมีกำหนดเวลาทำงาน 2 นาที ตามมาตรฐาน ใช้งานง่ายในปุ่มเดียว มีไฟแสดงระดับการชาร์จแบตเตอรี่ ตัวนี้มีแท่นชาร์จไฟแถมมาให้นะคะ และเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มจะใช้งานได้ 7 วัน ต่อการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง
- ราคาปกติ 1,790 บาท
2. แปรงสีฟันไฟฟ้า Philips Sonicare HX3215
ภาพจาก Philips
แปรงสีฟันไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีคลื่นโซนิคที่ล้ำหน้าของ Philips Sonicare ขยับขนแปรงด้วยความถี่สูง 62,000 ครั้งต่อนาที ทำความสะอาดฟันและซอกฟันได้ทั่วถึง สามารถปรับความแรงในการสั่นสะเทือนได้ และมีการทำงานต่อเนื่องนาน 2 นาที หัวแปรงเป็นแบบเสียบ ถอดทำความสะอาดได้ง่ายและสะดวก ส่วนอุปกรณ์การชาร์จแบตเตอรี่เป็นแบบสายชาร์จ ใช้งานได้ 14 วัน เมื่อแบตเตอรี่เต็ม การรับประกันอยู่ที่ 2 ปี
- ราคาปกติ 1,590 บาท
3. แปรงสีฟันไฟฟ้า Sparkle Sonic Triple Active รุ่น SK0373
ภาพจาก shopat24
แปรงสีฟันไฟฟ้าหัวแปรงแบบโซนิค ความถี่หัวแปรง 40,000 ครั้งต่อนาที มี 3 โหมดให้เลือกใช้ คือ โหมดดูแลฟันขาวสะอาด โหมดดูแลอย่างอ่อนโยน สำหรับผู้ที่มีอาการเสียวฟัน และโหมดนวดดูแลเหงือก ส่วนขนแปรงเป็นแบบ Spiral ซอกซอนได้ดี และรุ่นนี้ก็มีเซ็นเซอร์แจ้งเตือนให้เคลื่อนไหวทุก 30 วินาทีด้วย ส่วนระบบชาร์จเป็นแท่นชาร์จ แบตเตอรี่ชาร์จนาน 10 ชั่วโมง ใช้งานได้ประมาณ 30 วัน เหมาะกับผู้ที่จัดฟัน รวมไปถึงคนที่อยากกำจัดคราบพลัคและอยากมีฟันขาว
- ราคาปกติ 1,390 บาท
4. แปรงสีฟันไฟฟ้า Oral-B Vitality Precision Clean
ภาพจาก Central
แปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นเล็กของ Oral-B ตัวนี้เหมาะสำหรับมือใหม่หัดใช้แปรงสีฟันไฟฟ้ามาก ๆ เพราะแรงสั่นสะเทือนไม่มาก หัวแปรงหมุน 7,600 รอบต่อนาที ขนแปรงจะเป็นสีฟ้าอินดิเคเตอร์ (Indicator bristle) โดยสีจะอ่อนลงครึ่งหนึ่งในระยะเวลา 3 เดือน เป็นสัญญาณเตือนว่าควรเปลี่ยนหัวแปรงใหม่ ส่วนแบตเตอรี่ก็เป็นแบบแท่นชาร์จไฟ ซึ่งก็มีแถมมาให้ในแพ็กเกจ
- ราคาปกติ 1,490 บาท
5. แปรงสีฟันไฟฟ้า MI ELECTRIC/WH Mi NUN4008GL
ภาพจาก Mi
แปรงสีฟันไฟฟ้าไฮเทคที่สามารถตั้งค่าการใช้งานผ่าน Bluetooth ของสมาร์ตโฟนได้ มีตัวเลือกเปลี่ยนการทำงานของหัวแปรงได้ 3 โหมด คือ โหมดปกติ โหมดอ่อนโยน ดูแลเหงือก และโหมดที่เลือกแรงสั่นสะเทือนได้เอง แถมยังมีเซ็นเซอร์อัจฉริยะ 6 ตัว ตรวจจับท่าทางการแปรงและพื้นที่การแปรง มอเตอร์สั่นสะเทือน 31,000 ครั้งต่อนาที หัวแปรงเป็นแบบอเมริกัน Dupont StaClean ที่มีขนแปรงเพิ่มขึ้น 40% ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบแท่นชาร์จ ความจุ 700 mAh ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ใช้งานได้ 18 วัน
- ราคาปกติ 1,390 บาท
6. แปรงสีฟันไฟฟ้า SOOCAS X5
ภาพจาก xiaomilovers
แปรงสีฟันไฟฟ้าจากแบรนด์ในเครือเสี่ยวหมี่ มาพร้อมหัวแปรงที่ถูกออกแบบให้แกว่งได้มุมกว้าง 18.5 องศา แรงสั่นสะเทือนของรุ่นนี้อยู่ที่ 37,200 รอบต่อนาที ปรับได้ 4 โหมดการทำงาน คือ โหมดการทำงานปกติ, โหมดความแรงที่เหมาะสำหรับคนจัดฟัน หรือผู้ที่อยู่ในช่วงรักษาฟัน, โหมดดูแลเหงือก, โหมดเพิ่มความขาว ที่สามารถปรับระดับแรงสั่นสะเทือนได้เอง โดยมีให้เลือก 3 ระดับ และแจ้งเตือนทุก ๆ 30 วินาที ให้เปลี่ยนจุดแปรง แถมยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกด ช่วยป้องกันการแปรงฟันแรงเกินไปได้ โดยตัวหัวแปรงสีฟันจะมี 3 แบบ มีชิปอัจฉริยะสำหรับควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน ขนาดแบตเตอรี่ 10,000 mAh ใช้เวลาชาร์จ 16 ชั่วโมง เมื่อแบตฯ เต็มจะใช้งานได้นาน 30 วัน
- ราคาปกติ 1,990 บาท
7. แปรงสีฟันไฟฟ้า COLGATE 360 ชาร์โคล
ภาพจาก Shop Mall
รุ่นนี้เป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าที่เหมาะกับคนที่อยากลองชิมลางดูก่อน เพราะมีราคาไม่สูงมาก โดยเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบใช้ถ่านอัลคาไลน์ AAA มีขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ด้ามจับถนัดมือ สามารถถอดเปลี่ยนหัวแปรงได้ ตัวหัวแปรงเป็นแบบสั่น ส่วนขนแปรงชาร์โคลเป็นแบบบิดเกลียว เรียวบางกว่า 17 เท่า ช่วยซอกซอนระหว่างซี่ฟันได้ดี ทั้งยังนุ่ม สบายเหงือก ที่สำคัญชาร์โคลยังช่วยขจัดแบคทีเรียบนผิวฟันได้ด้วยนะคะ
- ราคาปกติ 365 บาท
8. แปรงสีฟันไฟฟ้า Systema SONIC
ภาพจาก Lionshoponline
แปรงสีฟันไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีคลื่นโซนิคแบบเฉพาะจากบริษัทไลออน ประเทศญี่ปุ่น มีระดับการสั่นที่เหมาะสม ทำความสะอาดซอกฟันได้อย่างทั่วถึงด้วยขนแปรงที่ผลิตจากวัสดุ PBT (Polybutylene Terephthalate) รูปทรงเรียวแหลมและอ่อนนุ่ม มีความยืดหยุ่นสูงแต่คงรูปได้นานกว่าขนแปรงไนลอนทั่วไป จึงช่วยขจัดคราบฟันได้ดี ด้ามแปรงผลิตจากวัสดุ Polyacetal มีน้ำหนักเบา จับถนัดมือ ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบถ่านอัลคาไลน์ AAA สามารถถอดเปลี่ยนได้ เช่นเดียวกับหัวแปรงที่ก็ถอดเปลี่ยนได้ค่ะ
- ราคาปกติ 599 บาท
9. แปรงสีฟันไฟฟ้า Kemei TOPS รุ่น KM-907
ภาพจาก supertstore
แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบอัลตราโซนิค สั่นด้วยคลื่นความถี่เสียง 30,000 รอบต่อนาที ตัวแปรงกันน้ำ 100% ป้องกันการช็อตหรือความเสียหายระหว่างใช้งาน ส่วนขนแปรงก็ถูกออกแบบเป็นพิเศษ มีขนาดเล็ก พอดีกับฟันของคนเอเชีย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการซอกซอนร่องฟันได้อย่างทั่วถึง โดยในกล่องจะมีด้ามแปรงสีฟันไฟฟ้า หัวแปรงสำหรับเปลี่ยนถึง 3 หัว พร้อมแท่นชาร์จไฟมาให้
- ราคาปกติ 1,500 บาท
อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะของแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีทิศทางการหมุนหัวแปรงค่อนข้างจำกัด ไม่เหมือนแปรงสีฟันธรรมดาที่เราสามารถกำหนดทิศทางได้ตามต้องการด้วยมือของเราเอง ดังนั้นจึงต้องพิถีพิถันในการแปรงฟันมากกว่าเดิม อาจต้องทำความสะอาดฟันด้วยอุปกรณ์อื่น เช่น ไหมขัดฟัน ร่วมด้วย เพื่อช่องปากและฟันที่สะอาดอย่างแท้จริงนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก ฟันดีดี
Thaidentclub
