การดูแลสุขภาพประชาชนคือหัวใจสำคัญของการบริหารประเทศ รัฐบาลจึงมุ่งมั่นพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพให้ครอบคลุมและเท่าเทียมมากยิ่งขึ้น ด้วยการยกระดับบริการภายใต้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ล่าสุดได้เปิดบริการรถรับ-ส่งฟรี สำหรับผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง
วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ เปิดเผยความก้าวหน้าของระบบหลักประกันสุขภาพไทย ด้วยการเปิดตัวบริการรถรับ-ส่งฟรี สำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่ถือบัตรทอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐที่มุ่งยกระดับระบบ 30 บาทรักษาทุกที่ ให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง 3 ประเภทได้อย่างเท่าเทียม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางข้ามจังหวัดอีกต่อไป
สำหรับบริการใหม่นี้เป็นผลจากมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ที่อนุมัติให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดหาบริการพาหนะสำหรับการรับส่งผู้ป่วย เพื่อเข้ารับการรักษาด้วยรังสีโปรตอน การฝังแร่เฉพาะที่เพื่อรักษาเนื้องอกในตา และการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่มีให้บริการเฉพาะในโรงพยาบาลชั้นนำเท่านั้น
เนื่องจาก มีผู้ป่วยและครอบครัวจำนวนมากต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ต่างจังหวัด การสนับสนุนรถรับ-ส่งฟรีสำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง จึงช่วยลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายและอำนวยความสะดวกตั้งแต่บ้านพักไปถึงโรงพยาบาล ด้วยบริการขนส่งสาธารณะพร้อมรถรับ-ส่งต่อถึงจุดหมาย ทั้งไปและกลับ แบบไม่ต้องสำรองจ่าย ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้จัดระบบการประสานงานอย่างครอบคลุม
การมีระบบการประสานงานได้รับการวางแผนอย่างครบถ้วน ตั้งแต่โรงพยาบาลต้นทางไปจนถึงการจัดการเดินทางให้แก่ผู้ป่วยและญาติ เพื่อเข้ารับบริการได้ครบถ้วนและรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้าถึงโอกาสการรักษาอย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำของระบบสาธารณสุข
ทั้งนี้ สามารถสังเกต “โลโก้ 30 บาทรักษาทุกที่” ที่ติดอยู่ตามหน่วยบริการปฐมภูมิต่าง ๆ เพื่อใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับบริการได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว แค่ใช้บัตรประชาชนก็พอ หน่วยบริการเหล่านี้รวมถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.), สถานีอนามัย, ศูนย์สุขภาพชุมชน, โรงพยาบาลชุมชนในอำเภอ และโรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลทั่วไปในจังหวัดต่างๆ ส่วนในกรุงเทพฯ ได้แก่ คลินิกชุมชนอบอุ่นและศูนย์บริการสาธารณสุขที่มีโลโก้นี้ติดไว้ด้วยเช่นกัน ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพพื้นฐานได้สะดวกทั่วประเทศ โดยระบบได้เริ่มให้บริการแล้วในวันนี้
