กรมควบคุมโรค ยัน ประเทศไทยไม่มีไข้กาฬหลังแอ่นแพร่ระบาด ประชาชนอย่าตื่นตระหนก พร้อมแนะวิธีป้องกัน ทำร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนเพียงพอ หากอาการป่วยให้รีบพบแพทย์ทันที
วันนี้ (9 มีนาคม 2558) รายการเรื่องเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า จากกรณีในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่การระบาดของโรคไข้กาฬหลังแอ่น ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยอ้างว่าพบผู้ป่วยเป็นหญิงชาวกัมพูชา อายุ 26 ปี มาทำงานอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพุทธโสธรได้ 2 วัน เบื้องต้นคณะแพทย์จังหวัดฉะเชิงเทรา เผยว่า การเสียชีวิตของหญิงคนดังกล่าวมาจากการติดเชื้อโรคกาฬหลังแอ่นจริง ซึ่งขณะนี้กำลังรอผลการตรวจเพาะเชื้อ เลือด และเสมหะ จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่าเป็นโรคกาฬหลังแอ่นสายพันธุ์ใดนั้น
ล่าสุด นายแพทย์โสภณ เมฑธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ได้ให้ทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็วประสานสำนักอนามัยของ กทม. ออกสอบสวนติดตามเฝ้าระวังสามีผู้ตายรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตรายนี้ ซึ่งพบว่ามีมากถึง 232 คน และได้ทำการฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมป้องกันโรคไว้แล้ว โดยเฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 10 วัน ตามระบบ เบื้องต้นบุคคลที่เฝ้าระวังดังกล่าวยังไม่พบว่ามีอาการผิดปกติแต่อย่างใด
พร้อมกันนี้ ขอยืนยันว่าประเทศไทยไม่มีไข้กาฬหลังแอ่นแพร่ระบาด ขอประชาชนอย่าตื่นตะหนก เพราะโรคนี้มียาป้องกันและมียารักษาหายขาดได้ เป็นยาปฏิชีวนะที่มีอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ และจากที่ได้เฝ้าระวังโรคไข้กาฬหลังแอ่นต่อเนื่องพบว่ามีผู้ป่วยลดลง โดยตั้งแต่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา ทั่วประเทศไทย พบผู้ป่วยเพียง 2 คน ที่จังหวัดปัตตานี และ กรุงเทพมหานคร ไม่มีผู้เสียชีวิต
สำหรับโรคไข้กาฬหลังแอ่น เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียพบได้ทั่วโลก มักจะพบการระบาดในเขตตะวันออกกลางหรือแอฟริกา เป็นได้กับทุกวัยกลุ่มที่กลุ่มสุขอนามัยไม่ดี ร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานโรคน้อย สำหรับประเทศไทยพบผู้ป่วยเฉลี่ย 20-30 คนต่อปี ในช่วง 5 ปีหลังนี้ พบน้อยกว่า 20 ราย เสียชีวิตประมาณ 2 ราย และจำนวนผู้ป่วยค่อนข้างคงที่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
โดยการติดต่อจะผ่านทางเยื่อเมือกในปาก จมูก เช่น การจูบปาก การเป่าปาก และจมูก หรือใบหน้าใกล้ชิดกันเป็นเวลานาน เสมหะ หรือน้ำลายผู้ป่วย การสูบบุหรี่ร่วมกัน ดื่มน้ำแก้วเดียวกัน หรือการผายปอดช่วยชีวิต อาการแรกเริ่มจะมาด้วยอาการคล้ายติดเชื้อไวรัส มีไข้ ไอ น้ำมูก ปวดเมื่อยตามตัว หลังจากนั้น 12-72 ชั่วโมงจะเริ่มมีผื่น ลักษณะคล้ายจุดเลือดออกใต้ผิวหนังเป็นจุดแดงทั่วตัว และเป็นแฉกคล้ายดาวกระจายซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรค ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นจุดสีคล้ำและจะกลายเป็นสะเก็ดสีดำ
หากมีการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมองจะมีอาการปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน คอแข็ง และซึมลงอย่างรวดเร็ว ระยะฟักตัวหลังได้รับเชื้ออยู่ที่ประมาณ 2-10 วัน นานสุดคือ 11 วัน แต่หากรักษาทันท่วงทีก็ลดอัตราการเสียชีวิตได้ ทั้งนี้การป้องกันโรคทำได้ง่าย ๆ คือ ทำให้ร่างกายแข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ หากพบว่าได้เข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยหรือมีอาการป่วยให้รีบพบแพทย์ทันที
อย่างไรก็ตาม ภายหลังทราบผลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ว่าเป็นโรคกาฬหลังแอ่นสายพันธุ์ใดแล้วนั้น ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลพุทธโสธร พร้อมด้วยคณะแพทย์จังหวัดฉะเชิงเทรา จะทำการแถลงข่าวให้ทราบโดยทั่วกัน
อ่านข้อมูลเรื่องโรคไข้กาฬหลังแอ่นทั้งหมดได้ที่นี่ "ไข้กาฬหลังแอ่น เช็กอาการโรคติดต่ออันตราย อาจตายได้เฉียบพลัน"
ภาพจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
