เหนียงใต้คาง อุปสรรคของสาว ๆ ที่อยากมีใบหน้าเรียวแบบวีเชป โบกมือลาคางสองชั้นด้วยวิธีง่าย ๆ แค่ทำตามนี้ !
เชื่อได้เลยว่าต้องมีสาว ๆ จำนวนไม่น้อยที่กำลังตกอยู่ในสภาวะหงุดหงิด ว้าวุ่น กลุ้มใจ กับผิวหนังและไขมันที่สะสมบริเวณใต้คางจนกลายเป็น "เหนียง" พาลทำให้ต้องเสียเงินเสียทองไปศัลยกรรมเสริมความงามเพื่อกำจัดเจ้าส่วนนี้ออกไป ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว เหนียง หรือคางสองชั้นที่เกิดจากการที่คุณสาว ๆ ปล่อยปละละเลยไม่ดูแลตัวเองนั้น สามารถกำจัดได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่คุณคาดไม่ถึง ไม่ต้องเสียเงินและไม่ต้องเจ็บตัวเพื่อความสวย ก็สามารถกำจัดเจ้าเหนียงใต้คางออกได้สมใจ
1. เคี้ยวหมากฝรั่ง
วิธีการลดเหนียงแบบง่าย ๆ ที่ได้ผลหากทำเป็นประจำก็คือการเคี้ยวหมากฝรั่งค่ะ ฮั่นแน่ ! สงสัยล่ะสิว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยได้ยังไงกันนะ คำตอบก็คือการเคี้ยวหมากฝรั่งจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอและใต้คางได้ขยับมากขึ้น ลองหาหมากฝรั่งมาเคี้ยว โดยเคี้ยวติดต่อกัน 20-30 วินาที แล้วหยุดพักสัก 10 วินาที จากนั้นเริ่มใหม่อีกครั้ง ทำแบบนี้เป็นประจำ ก็สามารถช่วยให้เหนียงใต้คางค่อย ๆ ลดลงได้ อาจจะได้ผลช้าหน่อย แต่ก็ประหยัดแบบสุด ๆ แถมยังได้ผลดีในเรื่องของความจำอีกด้วย
อาหารที่เรารับประทานก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดเหนียงใต้คาง โดยเฉพาะถ้าหากรับประทานอาหารในกลุ่มไขมันและน้ำตาลสูงมากจนเกินไปจะส่งผลต่อการฟื้นฟูของสภาพผิวทำให้เซลล์ผิวหนังฟื้นฟูได้ช้าลง อีกทั้งยังทำให้เกิดไขมันสะสมใต้คางอีกด้วย วิธีลดง่าย ๆ ก็คือ กินไขมันและรสชาติหวานให้น้อยลง รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน อย่างเช่น ผักและผลไม้ที่มีสีเหลืองและสีส้มให้มากขึ้น เพราะวิตามินและแร่ธาตุทั้ง 2 ชนิดนี้จะเข้าไปสร้างเสริมการฟื้นฟูสภาพของเซลล์ผิวหนังและบำรุงผิวพรรณให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวตึงกระชับและดูอ่อนเยาว์กว่าวัยอีกด้วยค่ะ
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดเหนียงบริเวณใต้คางนอกจากการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันนั้นก็คือ การดื่มน้ำไม่เพียงพอ เพราะเมื่อเราดื่มน้ำน้อย ผิวหนังของเราก็จะขาดความชุ่มชื่น ทำให้เหี่ยวย่น เกิดริ้วรอยก่อนวัย ใครที่ดื่มน้ำน้อยลองหันมาดื่มน้ำให้ได้วันละ 6-8 แก้วดูสิ รับรองได้เลยว่าเหนียงที่เกิดจากผิวหนังหย่อนคล้อยจะเริ่มกลับมาตึงกระชับแน่นอนค่ะ
การใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนและอิลาสตินเป็นประจำทุกวัน จะทำให้ผิวหนังบริเวณใต้คางชุ่มชื้นอยู่และตึงกระชับ ยิ่งถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของครีมกันแดดด้วยละก็ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิวมากขึ้นกว่าเดิมด้วย แต่ทั้งนี้ก็ควรจะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากแพทย์จะดีที่สุด
5. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดโดยไม่ทาครีมกันแดด
แสงแดดและรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวหนังของเราเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยและหย่อนคล้อยก่อนวัย ฉะนั้นถ้าอยากจะให้เหนียงใต้คางหมดไปแบบไม่ต้องพึ่งมีดหมอละก็ ควรจะทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงที่บริเวณคอและใต้คางด้วย อย่ามัวแต่ทาที่ใบหน้าอย่างเดียว
6. ระมัดระวังการขึ้น-ลงของน้ำหนักตัวแบบฉับพลัน
อันนี้เป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังอย่างมากเลยล่ะสำหรับคนที่หักโหมลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เพราะการลดน้ำหนักลงอย่างฮวบฮาบเกินไปจะส่งผลให้ผิวหนังที่ยืดออกตอนที่อ้วนไม่สามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ทัน และจะกลายเป็นผิวหนังส่วนเกิน แถมผิวหนังส่วนเกินเหล่านี้ก็ไม่ได้อยู่แค่บริเวณใต้คาง ใต้แขนหรือหน้าท้องก็ยังพบได้อีกด้วย ถ้าต้องการลดหุ่นโดยไม่มีเหนียงมาทักทายหลังจากผอมแล้วควรจะค่อย ๆ ลดน้ำหนักลง และควรจะบำรุงผิวไปพร้อม ๆ กัน เพื่อที่ผิวจะได้กระชับขึ้นตามขนาดตัวที่ลดลง
7. ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่
สำหรับคุณสาว ๆ ที่สูบบุหรี่ รู้หรือเปล่าว่าสารพิษในบุหรี่ไม่เพียงแต่ให้ผลเสียกับสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพจากการถูกทำลายด้วยสารอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดผิวหนังหย่อนคล้อยและริ้วรอยก่อนวัย ถ้าไม่อยากมีเหนียงยาน ๆ ใต้คางก่อนวัยอันควรก็เลิกสูบบุหรี่ดีกว่าเนอะ เชื่อว่าไม่เกินความสามารถของคนอยากสวยแน่นอน
8. หลีกเลี่ยงการแสดงท่าทางเดิมซ้ำ ๆ
การเอียงคอ เงยหน้า หรือก้มหน้าติดต่อกันนาน ๆ เป็นประจำ สามารถเป็นสาเหตุของเหนียงใต้คางได้เช่นกัน เพราะการทำท่าทางดังกล่าวบ่อย ๆ จะทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวอ่อนแอลงจนทำให้เมื่อยืดออกแล้วก็จะไม่สามารถคืนสู่สภาพเดิมได้ กลายเป็นผิวหนังส่วนเกินที่ใต้คาง วิธีแก้ไขก็คือลดการแสดงท่าทางอย่างเช่น เงยหน้า เอียงคอ หรือก้มหน้านาน ๆ จะช่วยให้กล้ามเนื้อและผิวหนังบริเวณคอผ่อนคลายมากขึ้นและคืนตัวกลับมากระชับได้ตามปกติค่ะ
9. ออกกำลังกายกล้ามเนื้อคอเป็นประจำ
การออกกำลังกายกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณคอเป็นเรื่องที่ทำได้และได้ผลดี สามารถช่วยให้เหนียงบริเวณใต้คางลดลงอีกทั้งยังสลายไขมันที่ใต้คางออกไปได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการออกกำลังกายบริเวณคอมีดังนี้ค่ะ
ท่าที่ 1
วิธีฝึก
1. วางมือบนหน้าผากแล้วค่อย ๆ ออกแรงดันที่หน้าผากโดยที่คอยังตั้งตรง จนรู้สึกได้ว่ากำลังเกร็งกล้ามเนื้อคอ
2. ค้างท่านี้ไว้ 10 วินาที แล้วคลายท่า
3. ประสานมือที่ด้านหลังของศีรษะและออกแรงดันเช่นเดียวกับตอนแรก โดยให้คอเกร็งตึง
4. ค้างไว้ 10 วินาที แล้วคลายท่า
ท่าที่ 2
วิธีฝึก
1. นั่งหลังตรง เงยหน้าจนสุด โดยให้คางชี้ไปด้านหน้า ไม่อ้าปาก
2. ออกแรงเคี้ยวฟันโดยห้ามเปิดปากออก
3. ทำซ้ำ 20 ครั้ง
ท่าที่ 3
วิธีฝึก
1. นั่งหลังตรง เงยหน้าจนสุดจนคอรู้สึกตึง
2. ทำปากจู๋แล้วค้างท่าไว้สักครู่ แล้วคลายท่า
3. ทำซ้ำ 2 เซต เซตละ 20 ครั้ง
ท่าที่ 4
วิธีฝึก
1. นอนลงบนที่นอนสูงจากพื้นเล็กน้อย โดยนอนให้ไหล่อยู่ที่ขอบเตียง
2. เงยคอลงไปที่พื้นช้า ๆ แล้วเกร็งคอตึง
3. ค่อย ๆ ยกคอขึ้นโดยห้ามใช้มือหรืออวัยวะอื่น ๆ ช่วย เกร็งคอไว้สักครู่แล้วค่อย ๆ ผ่อนท่าลง
4. ทำซ้ำ 5 ครั้ง และควรหยุดทันทีหากรู้สึกปวดคอหรือหายใจไม่ออก
เห็นไหมล่ะว่าวิธีลดเหนียงใต้คางด้วยตนเองไม่ได้ยากอะไรเลย แถมไม่ต้องเจ็บตัวด้วย แม้ว่าอาจจะเห็นผลช้ากว่าการผ่าตัดศัลยกรรมก็เถอะ อย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ว่าถ้าทำเป็นประจำแล้วจะไม่มีทางที่เหนียงจะกลับมาเซย์ไฮอีกแน่นอน รู้แบบนี้แล้วจะมัวรอช้าอยู่ไย อยากสวยก็รีบทำกันเลยดีกว่าค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
livestrong.com
wikihow.com
