คนชอบดึงจมูกเล็บดูไว้ ทำติดเป็นนิสัยอาจเจอประสบการณ์สุดเจ็บปวดแบบนี้ เจอกับตัวเองถึงรู้ว่าการถอดเล็บน่ากลัวขนาดไหน
หลายคนติดนิสัยชอบดึงจมูกเล็บที่โผล่ออกมาข้างเล็บจนได้เลือดซิบ ๆ แล้วคิดว่าคงไม่เป็นอะไรหรอก ทำมาตั้งนานแล้ว แต่ถ้าได้อ่านเรื่องราวที่ คุณ Angiedugdig สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม นำมาเล่าให้ฟัง เห็นทีต้องรีบเลิกพฤติกรรมเคยชินนี้ด่วน ๆ เพราะผลสุดท้ายแค่การดึงจมูกเล็บ นิด ๆ หน่อย ๆ อาจทำให้คุณเจ็บตัวกว่าที่คิด แล้วคงเข็ดไปอีกนาน
เจอกับตัวเองรู้เลย อย่าดึงจมูกเล็บเชียว T_T โดยคุณ Angiedugdig สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
จำได้คร่าว ๆ ว่าเคยเห็นคนตั้งกระทู้เกี่ยวกับดึงจมูกเล็บ ตอนอ่านนี่กลัวมาก แต่ก็ยังติดนิสัยดึงอยู่ --*
** รูปในกระทู้ค่อนข้างน่ากลัวนะคะ ** แต่จะใส่สปอยไว้ให้ค่ะ
จนวันที่ดึงล่าสุด เราก็ดึงตามนิสัยปกติเลย นิดเดียวจริง ๆ ไม่ถึงมิล ไม่มีแผล ไม่มีเลือด
(ลงรูปตัวอย่างให้ดูนะคะ ว่าที่เราดึงออกมันเล็กมาก ๆ จริง ๆ) เท่ากับตรงขอบนิ้วก้อยที่โผล่มานิดเดียวนั่นแหละค่ะ --
สัก 2 วัน เราก็รู้สึกว่ามันปวด ๆ ก็เฉย ๆ นะคะ คิดว่าสงสัยมันคงเป็นแผล ก็ยังไม่อะไร ปล่อยไว้งั้นแหละ
พอตอนเช้าตื่นนอนมา จำได้ว่าปวดมาก ๆ ปวดแทบจะทั้งมือ เลยไปถามร้านขายยา เภสัชก็แจ้งว่าน่าจะอักเสบ เลยจ่ายยาแก้อักเสบกับแก้ปวดมา
เราทานยาไปได้สัก 1-2 วัน มันไม่ดีขึ้นเลย มีอาการบวมตรงขอบเล็บขึ้นมามาก ๆ เลยตัดสินใจว่าเลิกงานจะไปหาหมอ ไม่ไหวแล้ว (นิ้วกลางนะคะที่มีอาการบวม)
วันที่ไปหาหมอคือปวดมาก ๆ ค่ะ เหมือนหัวใจไปเต้นอยู่ปลายนิ้วเลย
พอเจอหน้าคุณหมอปุ๊บ คำแรกเลย ถอดเล็บ T______T เพราะดูแล้วมีหนองแน่ ๆ น่าจะติดเชื้อ เราเลยถามคุณหมอว่า ไม่มีวิธีอื่นเหรอคะ
คุณหมอถามว่า ทานยาอะไรมาบ้างรึยัง เราก็แจ้งไป คือรวม ๆ แล้ว เราปล่อยให้มันบวมมา 5 วัน หมอบอกว่า งั้นลองกรีดเนื้อดูก่อน ถ้าเจอหนองก็จบ ไม่ต้องถอดเล็บ เราก็เลยโอเค
การฉีดยาชาที่นิ้วมือเป็นอะไรที่ทรมานมาก ๆๆๆๆๆ ค่ะ เจ็บสุด ๆ เจ็บแบบน้ำตาไหล นี่ผ่าฟันคุค สัก เจาะอะไรมา ไม่เคยเจ็บเท่านี้เลย
พอฉีดยาชาแล้ว หมอกรีดข้าง ๆ เล็บเลยค่ะ ปรากฏว่า ไม่มีหนอง ไม่มีอะไรเลย มีแต่เลือด ... หมอบอกว่า แสดงว่าหนองไม่ได้อยู่ตรงที่มันบวมนะ ต้องถอดเล็บ ....
เราจำไม่ได้ว่าเราพูดอะไรไป แต่หมอบอกว่า ถ้าไม่เอาออก เนื้อตาย คุณจะเจ็บกว่านี้ มาทำวันหลัง ก็ต้องฉีดยาชาใหม่ เลือกเอานะ เจ็บรอบเดียวไหม
เราเลยขอยาชาคุณหมออีกเข็ม ไหน ๆ ก็ชาแล้ว ฉีดเข้าไปเลยค่ะ เอาให้มั่นใจว่าไม่เจ็บ T_T ถึงเวลาที่หมอถอดเล็บ เราไม่ได้มองไม่ได้อะไรทั้งสิ้น น้ำตาไหลพราก ไม่รู้สึกเจ็บนะคะ แต่กลัวมาก ๆ แล้วหมอก็แจ้งว่า นี่ไง หนองอยู่ใต้เล็บ ...
อันนี้เป็นรูปหลังจากทำแล้ว 1 วันนะคะ เราต้องมาล้างแผลทุกวัน จนกว่าแผลจะแห้งสนิท
การล้างแผลเป็นอะไรที่ทรมานมาก เพราะต้องขูดหนองที่มันแห้งอยู่ตรงหน้าเล็บออกให้หมด ทำไปร้องไป ยิ่งตอนแกะผ้าแล้วตาข่ายติดกับหนองหน้าเล็บนี่สุด ๆ พยาบาลให้ถ่ายรูปไว้ได้ค่ะ บอกจะได้ดูการเปลี่ยนแปลงของสีแผล ถ้าสีขาว ๆ แสดงว่าเนื้อจะตาย แผลไม่โอเค
คุณหมอกะระยะเวลาให้ว่าประมาณ 1-2 อาทิตย์ แผลน่าจะแห้งสนิท ซึ่งหมายความว่า เราต้องมาล้างแผลทุกวัน
ได้แต่ฟังเงียบ ๆ คิดแต่ว่าทำยังไงให้เวลาล้างแผล เราไม่เจ็บขนาดนี้
จนวันนี้วันจันทร์ ครบ 2 อาทิตย์พอดี แผลเราแห้งสนิทแล้วค่ะ ดีใจมาก
แต่คุณหมอให้แปะพลาสเตอร์ยาไว้ กันกระแทก เพราะเป็นเนื้อล้วน ๆ พยายามโดนน้ำให้น้อย ๆ เนื้อจะได้ไม่ตึงมาก ระยะเวลาเล็บขึ้นเต็ม น่าจะประมาณ 5-6 เดือน
สาบานกับตัวเองว่า ชาตินี้จะไม่แกะ ไม่ดึง ไม่อะไรกับขอบเล็บ จมูกเล็บอีกแล้ว เข็ดมาก ๆ
* edit นิดนึงนะคะ เห็นหลายคนบอก ทำไมไม่บีบหนองออกเอง คือพยายามบีบแล้วค่ะ ยิ่งบีบยิ่งปวดและบวมมากขึ้นค่ะ ไม่มีรูใดให้หนองออกทั้งสิ้นเลย ถึงขั้นที่ไปให้หมอกรีดเนื้อก็ยังไม่ออกค่ะ เพราะหนองมันเข้าไปอยู่ใต้เล็บค่ะ เคสคนที่บีบแล้วหนองออกมาเองได้คงต่างกันนะคะ เพราะถ้าบีบแล้วมันออกมาเอง เราไม่เคยคิดจะถอดเล็บเลยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
คุณ Angiedugdig สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
