12 อาหารที่สาววัย 30 ควรกิน ต้านความแก่ก่อนวัย ไม่ให้ใครเรียก "ป้า"

          พอเข้าอายุ 30 ร่างกาย สุขภาพ และผิวพรรณของสาว ๆ ก็เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ค่อยดี แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะถ้าสาว ๆ หันมากินอาหารเหล่านี้เป็นประจำ ก็สามารถชะลออาการที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นได้ !


1. น้ำเปล่า

          น้ำเป็นสิ่งที่คนทุกเพศ ทุกวัย จำเป็นต้องดื่มในทุก ๆ วันอยู่แล้ว แต่สาเหตุที่เราต้องยกเรื่องน้ำเปล่ามาแนะนำไว้ตรงนี้ ก็เป็นเพราะเมื่อสาว ๆ เริ่มมีอายุมากขึ้น ผิวพรรณก็เริ่มที่จะเหี่ยวและขาดความชุ่มชื่นไปตามกาลเวลา ทำให้ดูแก่ก่อนวัยได้ ทว่าการดื่มน้ำเปล่าเข้าไปมาก ๆ สามารถชะลออาการเหล่านั้นได้นะคะ ฉะนั้นสาววัย 30 คนไหนที่อยากมีผิวกระชับ เต่งตึง อิ่มน้ำ ก็ต้องดื่มน้ำเป็นประจำ วันละไม่ต่ำกว่า 8-10 แก้ว และนอกจากน้ำจะช่วยบำรุงผิวพรรณของสาว ๆ ให้ดูดีขึ้นแล้ว น้ำยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือด ระบบขับถ่าย และสมองทำงานได้ดีขึ้นด้วย


2. นมวัว

          จริง ๆ แล้วร่างกายสาวช่วงวัย 30 ต้องการแคลเซียมประมาณ 1,000-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน แต่สาว ๆ ส่วนมากกลับได้รับปริมาณแคลเซียมน้อยมาก ซึ่งการที่ร่างกายเราขาดแคลเซียมจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน เนื่องจากพอสาว ๆ อายุ 30 ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีความเกี่ยวข้องกับกระดูกก็เริ่มลดลง แถมมวลกระดูกต่าง ๆ ก็ยังมาสลายตัวในช่วงนี้พอดีด้วย ฉะนั้นพอเราได้รับแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงในปริมาณน้อย ก็เลยส่งผลให้เราเป็นโรคกระดูกพรุนได้ง่าย ๆ

          ดังนั้นหากสาววัย 30 อยากหลีกเลี่ยงโรคกระดูกพรุนในอนาคต ก็ต้องทานอาหารที่มีแคลเซียมให้มาก ๆ เช่น การดื่มนมวัว เพราะนมมีแคลเซียมสูง โดยควรเลือกดื่มนมพร่องมันเนยหรือไขมันต่ำ ซึ่งนมพร่องมันเนย 250 มิลลิลิตร มีปริมาณแคลเซียมมากถึง 300 มิลลิกรัมเลยทีเดียว แต่หากสาว ๆ คนไหนเป็นคนไม่ชอบดื่มนมสักเท่าไร เราขอแนะนำให้นำนมมาผสมกับอาหารเช้าซีเรียล ก็จะได้มื้อเช้าที่อร่อยไปอีกแบบ แถมทำให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กจากธัญพืชในซีเรียล ช่วยป้องกันโรคโลหิตจางด้วยนะคะ  


3. น้ำขิง

          น้ำขิงมีฤทธิ์ร้อน ช่วยให้เลือดลมของสาว ๆ วัย 30 ไหลเวียนสะดวกขึ้น แถมผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอร์เจียยังพบว่าน้ำขิงช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย รวมถึงปวดประจำเดือนได้ดี อีกทั้งในน้ำขิงยังมีสารประกอบฟีโนลิก ซึ่งเป็นสารที่ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำไส้ พร้อมทั้งมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้ลดอาการแน่นท้องและแก้ท้องอืดได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ส่วนใครที่สนใจประโยชน์อื่น ๆ ของน้ำขิงเพิ่มเติม ก็ตามไปดูได้ที่นี่เลย

          - น้ำขิง ประโยชน์แจ่มจริง ๆ ดื่มทุกวันยิ่งดีเลย
 

4. ไวน์แดง

          ถ้าไม่อยากแก่ ขอแนะนำให้ดื่มไวน์แดงเป็นประจำ เพราะในไวน์แดงมีสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่ง ที่ได้มาจากเปลือกขององุ่น โดยฟลาโวนอยด์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายเราถูกทำลาย และช่วยชะลอความแก่ได้ น่าจะถูกใจสาว ๆ ไม่น้อย แถมการดื่มไวน์เป็นประจำยังช่วยป้องกันไข้หวัดและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ไวน์แดงยังสามารถลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี แต่ขณะเดียวกันก็เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี ทำให้ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจลงได้ด้วยนะคะ

          เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คงปฏิเสธว่าไวน์เหมาะกับสาว ๆ วัย 30 อัปไม่ได้เลยจริง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม การดื่มไวน์ให้ได้ประโยชน์และประสิทธิภาพแบบนี้ ต้องดื่มเพียงวันละ 1-2 แก้วเท่านั้น อย่าลืมนะคะ ว่าไวน์ก็เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่ง หากดื่มมากเกินไปก็ทำให้เมาได้เหมือนกันนะ


5. ชาเขียว

          อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่สาว ๆ วัย 30 ไม่ควรพลาดก็คือชาเขียว โดยงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrition Research รายงานว่า ผู้หญิงที่ดื่มชาเขียววันละ 3 ถ้วย สามารถลดอัตราเสี่ยงโรคกระดูกพรุน ได้ถึง 30% แต่ว่าต้องเป็นชาเขียวเข้มข้นแบบชงดื่มเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับชาเขียวพร้อมดื่มตามร้านสะดวกซื้อที่ผ่านการปรุงรสและใส่น้ำตาลมาแล้วนะคะ

          ส่วนสาว ๆ คนไหนที่ดื่มกาแฟตอนเช้าเป็นประจำ ก็ลองหันมาดื่มเป็นชาเขียวแทนจะดีกว่า เพราะในชาเขียวก็มีคาเฟอีนที่ช่วยเพิ่มพลัง ทำให้สาว ๆ รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้เหมือนกับในกาแฟ แต่ที่สำคัญคือ มีประโยชน์ด้านอื่น ๆ ที่มากกว่า เช่น ช่วยให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคมะเร็งได้ด้วย

 
6. กรีกโยเกิร์ต

          สังเกตไหมคะ ว่าสาว ๆ ที่อายุมากขึ้น น้ำหนักตัวมักจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย สาเหตุก็เป็นเพราะระบบเผาผลาญเริ่มเสื่อมสภาพลง จนทำให้มีไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้นเอาง่าย ๆ ฉะนั้นสาว ๆ วัย 30 จึงต้องหันมาทานอาหารที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญให้มาก ๆ โดยอาหารหนึ่งอย่างที่เราขอแนะนำ ก็คือ ของทานเล่นน้ำตาลต่ำ โปรตีนสูง อย่าง กรีกโยเกิร์ตหรือโยเกิร์ตแบบธรรมชาติ ที่ไม่ใส่อะไรลงไปเลย เพราะโยเกิร์ตแบบนี้จะมีทั้งโปรตีน วิตามินบี แคลเซียม และโพแทสเซียมสูง ซึ่งนอกจากจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญแล้ว ยังทำให้เราได้รับสารอาหารต่าง ๆ ไปช่วยบำรุงร่างกายด้วย

          - 12 เมนูโยเกิร์ต ไอเดียทำขนมแคลอรีต่ำลดน้ำหนักกินได้


7. ผักใบเขียว และผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนสูง

          อย่างที่ทราบกันดีว่าผักใบเขียวมีแคลอรีต่ำมาก ทำให้สาว ๆ สามารถกินผักได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วน แถมในผักยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ธาตุเหล็ก และไฟเบอร์ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอความชรา กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น จนส่งผลให้สาว ๆ มีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากอาการท้องผูกได้แบบสบาย ๆ เลยทีเดียว

          นอกจากนี้ การเลือกทานผลไม้ที่สารเบต้าแคโรทีนสูง เช่น ฟักทอง มะเขือเทศ มะละกอสุก กล้วยไข่ และมะยงชิด ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สาว ๆ ห่างไกลจากความแก่ และผิวหนังที่เหี่ยวย่นได้ เพราะสารเบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ และถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ซึ่งช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ ทำให้ผิวหนังของสาว ๆ ไม่เหี่ยวย่น อีกทั้งสารเบต้าแคโรทีนยังช่วยบำรุงสายตาของสาว ๆ ให้มองเห็นได้ชัดเจน ห่างไกลจากต้อกระจกได้อีกด้วย 


8. ธัญพืช

          เราเข้าใจว่าเวลาทำงาน สาว ๆ มักจะหาขนมหรือของหวานมาทานเล่นด้วยเสมอ แต่ของกินเหล่านั้นอาจไม่ได้ดีต่อสุขภาพสักเท่าไร แต่ถ้าเปลี่ยนมาทานเป็นธัญพืชหรือถั่วแทนน่าจะดีกว่าไหมคะ อย่างถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วลิสง และลูกเดือย เพราะอุดมไปด้วย โปรตีน แร่ธาตุ วิตามิน และไฟเบอร์ ช่วยให้อิ่มท้อง เคี้ยวเพลิน ดีต่อสุขภาพไปในเวลาเดียวกัน แต่ควรทานแบบที่ไม่อบเนยหรือโรยเกลือด้วยนะ


9. ถั่วเหลือง

          เมื่ออายุเพิ่มขึ้นฮอร์โมนเอสโตรเจนก็ลดลง ส่งผลให้มวลกระดูกก็ลดลงตามไปด้วย แถมผิวพรรณไม่ก็ไม่กระชับ และยังรู้สึกหงุดหงิดได้ง่ายขึ้นอีก แต่รู้ไหมคะว่าการทานถั่วเหลืองช่วยลดอาการเหล่านั้นลงได้ เพราะถั่วเหลืองมีไอโซฟลาโวน ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายกันกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ส่งผลให้การทานถั่วเหลืองสามารถทดแทนฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ร่างกายสูญเสียไปได้

          ที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือ ถั่วเหลืองยังประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว และไม่มีคอเลสเตอรอล อีกทั้งโปรตีนในถั่วเหลืองยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีได้อีก ทานแล้วก็ไม่ต้องกลัวอ้วน ดังนั้นสาว ๆ วัย 30 จะลองหันมาทานถั่วเหลืองเป็นประจำ ก็ดูจะเข้าท่าไม่ใช่น้อย โดยอาจทานในรูปแบบอาหาร น้ำเต้าหู้ หรือนมถั่วเหลืองน้ำตาลน้อยสักวันละ 1 แก้ว ก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ อ้อ แล้วถั่วเหลืองก็ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่นั้นด้วย ถ้าอยากรู้เพิ่มเติม ก็ตามไปดูได้ที่นี่เลย
 
          - ประโยชน์ของถั่วเหลือง สรรพคุณเด่น จัดเต็มทุกเมล็ด


10. ไข่

          หลายคนเข้าใจว่าไข่มีคอเลสเตอรอลสูง ทานแล้วไม่ดีกับสุขภาพหัวใจ แต่เราอยากให้ทำความเข้าใจกันใหม่สักนิด ว่าคอเลสเตอรอลที่มีอยู่สูงในไข่คือ คอเลสเตอรอลชนิดดี ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายค่ะ และที่สำคัญการทานไข่ในปริมาณที่พอเหมาะคือ วันละ 1 ฟอง ยังสามารถลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ทำให้มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจน้อยลงด้วย

          ส่วนเหตุผลที่สาววัย 30 ควรทานไข่เป็นประจำก็เพราะว่าไข่มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดีสูง ซึ่งทุก ๆ คนก็คงทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าสารอาหารทั้ง 3 ชนิดช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน และช่วยเสริมสร้างกระดูกของเราให้แข็งแรง อีกทั้งยังมีสารลูทีนและซีแซนทีน ที่ช่วยบำรุงสายตา รวมถึงโอเมก้า 3 ทั้งกรดไขมัน DHA และ EPA ที่มีส่วนช่วยบำรุงสมอง ป้องกันไม่ให้สาว ๆ เป็นอัลไซเมอร์ได้ แต่หากไม่รู้ว่าจะนำไข่ไปทำเป็นเมนูอะไรบ้าง ก็ลองดูตามข้างล่างนี้ได้เลย

          - 30 เมนูไข่ จานเด็ดอร่อยล้ำไม่ซ้ำใคร
          - 18 สูตรอาหารเช้าเมนูไข่ สร้างสรรค์มื้อเช้าให้ง่ายกว่าเดิม


11. ปลา

          ปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน หรือปลาทูน่า เป็นอาหารที่มีโปรตีนและกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้ง DHA และ EPA สูง จึงเป็นอาหารที่ทุกคนควรทาน โดยเฉพาะกับสาววัย 30 ที่กระดูกอ่อนเริ่มเสื่อมสภาพ เพราะการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์พบว่า ปลาช่วยกำจัดเอนไซม์ที่ทำลายกระดูกอ่อน จึงช่วยชะลออาการกระดูกอ่อนเสื่อม และลดการอักเสบบริเวณกระดูกอ่อนได้ 

          - 10 เมนูปลาแซลมอนแบบไทย ถูกปากคนไทย ถูกใจสุขภาพ
          - 9 เมนูปลาแซลมอนสด จานเด็ดอร่อยเลอค่าไม่ซ้ำไม่จำเจ


12. น้ำพริกผักต้ม

          น้ำพริก อาหารคู่ครัวไทยที่ถูกใจคนทุกเพศทุกวัย มีประโยชน์มากมาย ทั้งจากตัวน้ำพริกเอง ที่มีสมุนไพรอย่าง พริก กระเทียม ซึ่งช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และลดระดับไขมันกับระดับน้ำตาลในเลือด แถมยังมีปลา ทั้งปลาทูหรือปลาป่น ซึ่งก็อย่างที่บอกไปแล้ว ว่าปลาช่วยบำรุงกระดูกอ่อนให้กับสาว ๆ วัย 30 ได้

          นอกจากนี้รสชาติอันโดดเด่นของน้ำพริกคือความเผ็ดแซ่บ ทำให้เราทานน้ำพริกเปล่า ๆ ไม่ได้ ต้องทานคู่กับผักต้มแก้เผ็ด เลยได้ประโยชน์จากผักนานาชนิดไปอีก บอกได้เลยว่าแค่ทานน้ำพริกเป็นอาหารก็ได้ประโยชน์แบบคูณสองแล้ว และถ้าไม่รู้จะทำน้ำพริกอะไรทาน ลองไปดูเมนูน้ำพริกเด็ด ๆ ที่กระปุกดอทคอมเคยแนะนำไว้ได้เลย  

          - 14 เมนูน้ำพริก แคลอรีต่ำ ลดความอ้วนมื้อเย็นอร่อยเบา ๆ
          - 14 สูตรน้ำพริกโฮมเมด อาหารไทยคู่ครัว จิ้มตอนไหนก็ใช่เลย
 
          นอกจากจะทานอาหารดี ๆ มีประโยชน์เหล่านี้แล้ว อย่าลืมหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อร่างกาย เช่น อาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมหวาน หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ อ้อ แล้วถ้าอยากให้ชีวิตวัย 30 แฮปปี้สุด ๆ ก็พยายามไม่เครียด พักผ่อนเยอะ ๆ ออกกำลังกายบ่อย ๆ และหมั่นตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำด้วยนะคะ
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
livestrong.com
fitnessmagazine
womenshealthmag
allwomenstalk
Better Homes & Gardens