ถั่วเหลือง สรรพคุณไม่ใช่ย่อย เห็นเป็นธัญพืชเมล็ดน้อย ๆ แต่เต็มไปด้วยคุณภาพที่ไม่อยากให้พลาด โดยเฉพาะคนที่กินมังสวิรัติ งดกินเนื้อสัตว์ ถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
ถั่วเหลืองเป็นธัญพืชที่เราคุ้นเคยกันดี เพราะสามารถนำมาทำเป็นนมถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ น้ำมันถั่วเหลือง หรือขนมหวานอร่อย ๆ ได้หลายชนิด แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่าประโยชน์ถั่วเหลืองครอบคลุมสุขภาพได้หลายด้าน เอาเป็นว่าเรามาทำความรู้จักประโยชน์ของถั่วเหลืองกันสักหน่อยดีกว่า
ถั่วเหลืองมีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน โดยชาวจีนนิยมเพาะปลูกและใช้ประโยชน์จากถั่วเหลืองมานานกว่า 5,000 ปี จากนั้นถั่วเหลืองจึงได้ขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป และแถบอเมริกา แต่การเข้ามาของถั่วเหลืองในไทยอาจยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด จึงได้แต่สันนิษฐานกันว่าเหล่าพ่อค้าและชาวเขาซึ่งเดินทางไป-มาระหว่างจีนตอนใต้และภาคเหนือตอนบนของไทยเป็นผู้ที่นำถั่วเหลืองเข้ามาปลูกในบ้านเรา
ถั่วเหลือง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Soybean มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Glycine max (L.) Merrill อยู่ในวงศ์ Legumeminosae เป็นพืชล้มลุก ทรงต้นเป็นพุ่ม มีความสูงระหว่าง 50 เซนติเมตร-2 เมตร บางพันธุ์ก็เลื้อยเป็นเถา ระบบรากประกอบด้วยรากแก้ว ส่วนรากฝอยเกิดเป็นกระจุกประสานกันอยู่ใต้ระดับผิวดิน บริเวณผิวรากมีปมของบัคเตรีเกาะอยู่และเห็นได้ชัดเจน ลำต้นแตกกิ่งจำนวน 3-5 กิ่ง มีขนสีขาว น้ำตาล หรือเทาคลุมอยู่ ใบถั่วเหลืองเกิดสลับกันเป็นใบรวม ประกอบด้วยใบย่อย 3 ใบ รูปร่างกลมรี ช่อดอกเกิดจากมุมใบและปลายยอด ดอกมีขนาดเล็กสีขาวหรือม่วง จำนวน 3-15 ดอกต่อหนึ่งช่อ ดอกสมบูรณ์เพศ มีอับเกสรตัวผู้และรังไข่อยู่ในดอกเดียวกัน
คราวนี้ลองมาสำรวจคุณค่าทางโภชนาการของถั่วเหลืองกันบ้างค่ะว่า ในถั่วเหลือง 100 กรัม มีสารอาหารอะไรเท่าไร โดยข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย ได้ระบุคุณค่าทางโภชนาการของถั่วเหลืองดิบในปริมาณ 100 กรัมมาดังนี้
ถั่วเหลืองดิบ 100 กรัม ประกอบด้วยคุณค่าทางโภชนาการ...
- โปรตีน 34 กรัม
- ไขมัน 18.7 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 31.4 กรัม
- ไฟเบอร์ 4.7 กรัม
- น้ำ 11.1 มิลลิลิตร
- พลังงาน 430 กิโลแคลอรี
- แคลเซียม 245 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 500 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 10 มิลลิกรัม
- ไธอามีน 0.73 มิลลิกรัม
- ไรโบฟลาวิน 0.19 มิลลิกรัม
- ไนอาซิน 1.5 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 14 มิลลิกรัม
นมถั่วเหลืองนับว่าเป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะประกอบไปด้วยสารอาหารทั้ง 5 หมู่ อันได้แก่ โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบโฮเดรต, เกลือแร่ และวิตามินหลากชนิด แล้วประโยชน์ของถั่วเหลืองล่ะ จะจัดเต็มขนาดไหน มาอ่านกันเลยจ้า
ประโยชน์ของถั่วเหลือง ธัญพืชเมล็ดจิ๋ว แต่สรรพคุณไม่เล็กตาม
1. ถั่วเหลืองอุดมไปด้วยโปรตีน ดีต่อคนไม่กินเนื้อสัตว์
ในนมถั่วเหลืองมีโปรตีนโกลบูลิน (Globulin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสมบูรณ์ เนื่องจากประกอบไปด้วยกรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกาย ครบทั้ง 10 ชนิด แถมยังมีเยอะกว่าในเนื้อสัตว์อีกด้วย โดยพบว่าถั่วเหลืองปรุงสุกเพียง 1 ถ้วยตวง มีปริมาณโปรตีนมากถึง 22 กรัม ซึ่งมากกว่าสเต็ก 1 ชิ้นซะอีก
2. ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้
นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทศัลยศาสตร์ ได้เปิดเผยว่า สารที่อยู่ในถั่วเหลืองอย่างเดดซีน (daidzein) และจีนิสทีน (genistein) จะไปช่วยการหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ ดังนั้นคุณผู้ชายก็ควรกินถั่วเหลืองกันด้วยนะคะ แต่ก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ
3. แก้อาการวัยทองได้
ถั่วเหลืองมีไอโซฟลาโวนเป็นส่วนประกอบและมีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง จึงช่วยลดอาการร้อนวูบวาบของสตรีวัยหมดประจำเดือนที่มีสาเหตุมาจากภาวะเอสโตรเจนในร่างกายลดน้อยลงได้ ดังนั้นจึงสามารถกินอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองแทนการใช้ฮอร์โมนทดแทนได้นั่นเองค่ะ
4. ป้องกันโรคกระดูกพรุน
นอกจากจะช่วยแก้อาการวัยทองแล้ว ไอโซฟลาโวนในถั่วเหลืองยังมีการศึกษาจำนวนมากที่บ่งชี้ว่าสามารถเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนได้ อีกทั้งในถั่วเหลืองเองก็ยังมีแคลเซียม และวิตามินอื่น ๆ อีกจำนวนไม่น้อย ซึ่งก็จะช่วยในการผลิต รวมทั้งซ่อมแซมกระดูกส่วนที่สึกหรอได้
5. กระตุ้นการขับถ่าย
ไฟเบอร์ในถั่วเหลืองปริมาณ 100 กรัม มีอยู่ราว 4.7 มิลลิกรัม ซึ่งก็เพียงพอที่จะกระตุ้นระบบการขับถ่ายในร่างกายของเราให้ทำงานได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะหากกินถั่วเหลืองต้มสุกที่ยังคงอยู่ในลักษณะเต็มเม็ด ซึ่งจะได้รับไฟเบอร์จากเมล็ดถั่วเหลืองค่อนข้างจะสมบูรณ์
6. ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาเผยว่า ถั่วเหลืองมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในอัตราส่วนที่สูง ซึ่งกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวจะช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือดชั้นใน อันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงได้
7. ป้องกันอาการเจ็บป่วย
ด้วยแร่ธาตุและวิตามินในถั่วเหลืองโดยเฉพาะวิตามินซี จะช่วยบำรุงสุขภาพโดยรวมให้กับร่างกายเราได้ โดยป้องกันอาการเจ็บป่วย กระตุ้นความสดชื่นแจ่มใส ยิ่งกับคนที่กินถั่วเหลืองเป็นประจำ ไม่ว่าจะในรูปที่นำมาทำเป็นน้ำเต้าหู้ เต้าหู้ นมถั่วเหลือง หรือขนมหวานก็ตาม
เชื่อว่าหลังจากที่ได้รู้ประโยชน์ของถั่วเหลืองกันไปแล้ว หลายคนน่าจะอยากกินถั่วเหลืองกันมากขึ้นแน่ ๆ ซึ่งวันนี้เราก็มีเมนูจากถั่วเหลืองมาฝากตามนี้เลยจ้า
- น้ำเต้าหู้ ประโยชน์จัดเต็มสำหรับคนรักสุขภาพ พร้อมวิธีทำน้ำเต้าหู้
- 6 วิธีทำน้ำเต้าหู้ สูตรโฮมเมดหลากรส ทำง่ายเพื่อสุขภาพ
- 10 เมนูจากน้ำเต้าหู้ ทั้งคาวหวาน พร้อมสูตรแบบจัดเต็ม
- 8 อาหารเจเมนูเต้าหู้ เติมความอร่อยด้วยโปรตีนเน้น ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
huffingtonpost
organicfacts