อินทผลัม ผลไม้ต่างถิ่นที่คุณประโยชน์มากมาย วันนี้กระปุกดอทคอม มีข้อมูลเกี่ยวกับอินทผลัมมาฝากกันค่ะ
อินทผลัม กับต้นกำเนิดจากแดนไกล
อินทผลัม หรือ อินทผาลัม มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Date Palm และมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Phoenix dactylifera เป็นพืชในตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง มีหลากหลายพันธุ์ มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง สามารถเจริญเติบโตได้ดีในภูมิภาคที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งแบบทะเลทราย โดยผู้ผลิตอินทผลัมรายใหญ่ ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย แอลจีเรีย และประเทศในแถบอาหรับ
อินทผลัมเป็นผลไม้ที่มีปลูกในประเทศไทยเป็นจำนวนน้อย เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อนชื้น ทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้าอินทผลัมควบคู่ไปด้วย ซึ่งอินทผลัมส่วนใหญ่ที่นำเข้ามักอยู่ในรูปทั้งผลไม้สดและแปรรูปแล้ว
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของอินทผลัม
อินทผลัมเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลปาล์ม มีความสูงประมาณ 30 เมตร ลำต้นมีขนาดประมาณ 30-50 เซนติเมตร มีใบติดอยู่บนต้นประมาณ 40-60 ก้าน ทางใบยาว 3-4 เมตร ใบเป็นแบบขนนก ใบย่อยพุ่งออกหลายทิศทาง ช่อดอกจะออกจากโคนใบ ผลทรงกลมรี ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร ออกเป็นช่อรสหวานฉ่ำ
ต้นอินทผลัมจะเริ่มให้ผลครั้งแรกเมื่ออายุ 5–7 ปี และมีอายุยืนยาวถึงกว่า 100 ปี โดยจะให้ผลผลิตต่อปีเฉลี่ยประมาณ 7,000–8,000 ลูกต่อปี หรือประมาณ 100–150 กิโลกรัม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของต้น อินทผลัมสามารถกินได้ทั้งผลดิบและสุก โดยผลจะมีสีเหลืองจนถึงสีส้มและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้มเมื่อแก่จัด ผลสุกจัดมักนิยมนำไปตากแห้ง ทำให้สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลาหลายปี และมักมีคนเข้าใจผิดว่ารสหวานจัดของอินทผลัมนั้นเกิดจากการแปรรูปด้วยการนำไปเชื่อมด้วยน้ำตาล
- พันธุ์ Barhee หรือ Barhi (บาร์ฮี หรือ "บัรฮี) เป็นพันธุ์ที่เหมาะสำหรับการรับประทานผลสดโดยเฉพาะ มีแหล่งกำเนิดในประเทศอิรัก ปัจจุบันมีการปลูกกันแพร่หลายในหลายประเทศ กล่าวกันว่า พันธุ์ Barhi เป็น "แอบเปิลแห่งตะวันออกกลาง"
- พันธุ์ Deglet Nour (เดกเล็ท นัวร์) เป็นพันธุ์รับประทานผลแห้ง มีแหล่งกำเนิดจากประเทศแอลจีเรียและประเทศตูนิเซีย ในวงการอินทผลัมถือว่าเป็น "ราชินีแห่งอินทผลัม" เป็นพันธุ์ที่นิยมส่งออกไปขายต่างประเทศทั่วโลกมากที่สุด รสชาติไม่หวานมาก หวานปนมัน ไม่แข็งกระด้าง เหนียวไม่มาก เนื้อนุ่ม
- พันธุ์ Medjool หรือ Medjhol หรือ Medjull (เมดจูล) บางครั้งเรียกว่า Ambatt (อัมบาต) หรือที่เรียกกันว่า "พันธุ์ ๗ เม็ดศอก" เพราะเป็นพันธุ์ที่มีผลขนาดใหญ่ที่สุดในตอนนี้ เป็นพันธุ์รับประทานผลแห้ง มีแหล่งกำเนิดในประเทศโมร็อกโก ในวงการอินทผลัมถือว่าเป็น "ราชาแห่งอินทผลัม" เป็นพันธุ์ดีที่นิยมส่งขายไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน เนื้อนุ่ม เนื้อทราย รสชาติหวานฉ่ำ และหวานมาก ๆ
- พันธุ์ Ajwa หรือ Ajwah (อัจวะ หรือ อัจวะห์ หรือออกเสียงเร็ว ๆ ว่า "อัจ - จะ - วะห์) เป็นพันธุ์รับประทานผลแห้ง มีแหล่งกำเนิดอยู่ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นพันธุ์ที่ปรากฏในคัมภีร์ของอัลกุรอานของศาสนาอิสลาม เนื้อเหนียว หนึบ เมื่อแก่ใหม่ ๆ รสชาติจะนุ่ม ไม่หวานเหมือนความหวานของอินทผลัมพันธุ์อื่น หวานหอมลงคอ
- พันธุ์ Mabroom (อ่านว่า มับรูป หรืออ่านออกเสียงเร็ว ๆ ว่า มับ - บะ - รูม) แหล่งกำเนิดที่มีชื่อเสียงมาจากเมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย
- พันธุ์ Zahidi - Zehdi - Zahdi (อ่านว่า ซาฮิดิ) มีแหล่งกำเนิดในประเทศอิรักและอิหร่าน
อินทผลัม สรรพคุณอันน่าอัศจรรย์ กับคุณค่าทางโภชนาการ
อินทผลัมเป็นผลไม้ที่ไม่มีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ นอกจากนี้เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามิน A, วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน B6, วิตามิน K, แคลเซียม, ซัลเฟอร์, เหล็ก, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานีส, แมกนีเซียม และน้ำมันโวลาไทล์ แถมยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในการลดอาการท้องผูก
อินทผลัมอุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน ลูทีน และซีแซนทิน ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งในช่องท้อง ช่วยบำรุงร่างกาย แก้โรควิงเวียนศีรษะ แก้กระหาย ช่วยลดเสมหะภายในลำคอ หากรับประทานอินทผลัมยามเช้าขณะท้องว่าง อินทผลัมจะทำการฆ่าเชื้อโรค พยาธิ และสารพิษที่ตกค้างที่อยู่ในลำไส้ และระบบทางเดินอาหาร เพราะอินทผลัมมีฤทธิ์ในการกำจัดสารพิษและช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิดซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง และจากรายงานการวิจัยในประเทศซาอุดีอาระเบีย พบว่าอินทผลัมสามารถช่วยทำให้กระเพาะอาหารแข็งแรง และช่วยป้องกันเยื่อบุในกระเพาะอาหาร ช่วยลดความรุนแรงของแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้อินทผลัมสดนั้นยังมาคั้นเป็นน้ำเพื่อดื่ม โดยมีประโยชน์ไม่แพ้ผลอินทผลัมแห้งเลยแม้แต่น้อย
อินทผลัมยังมีประโยชน์อีกมากมาย ได้แก่
- บำรุงร่างกาย เพิ่มกำลัง ขจัดความเมื่อยล้า
- ช่วยเพิ่มน้ำหนักตัวในกลุ่มคนที่มีน้ำหนักน้อยเกินไป
- บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- บำรุงสายตา
- ช่วยดูแลและควบคุมระบบประสาท
- ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดในสมอง
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน
- ช่วยลดความดันโลหิตสูง
- ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ
- ช่วยกระตุ้นระบบการย่อยและช่วยดูดซึมสารอาหาร
- ตามความเชื่อในคัมภีร์อัลกุรอานช่วยรักษาและบำบัดพิษต่าง ๆ ด้วยการรับประทานวันละ 7 เม็ด
- ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เพราะในอินทผลัมมีสารฟีลกูลีน ซึ่งช่วยบำรุงการหลั่งน้ำเชื้อของเพศชายได้
อินทผลัม กับ เบาหวาน รักษาได้จริงหรือ
นายแพทย์ Juma M Alkaabi ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ทำการวิจัยกับผู้ป่วยเบาหวาน โดยให้ผู้ป่วยเบาหวานรับประทานผลอินทผลัมและพบว่า การรับประทานผลอินทผลัมนั้นไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแต่อย่างใด สาเหตุเพราะน้ำตาลที่อยู่ในอินทผลัมนั้นเป็นน้ำตาลที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ขณะที่ อ.สุทธิวัสส์ คำภา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องธรรมชาติบําบัด เสริมข้อมูลด้วยว่า การกินอินทผลัมนั้นยังช่วยบำรุงตับอ่อนอีกด้วย ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานจึงสามารถรับประทานอินทผลัมได้
อย่างไรก็ตาม ก็ควรกินอินทผลัมในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป
อินทผลัมช่วยเพิ่มน้ำนมได้จริงหรือไม่
อินทผลัมมีประโยชน์ช่วยในการเพิ่มน้ำนมให้แก่มารดา โดยสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า การกินอินทผลัมจะช่วยลดความกดดันและบรรเทาภาวะซึมเศร้าของมารดา ทำให้น้ำนมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มสารอาหารในน้ำนม ทำให้บุตรเติบโตอย่างแข็งแรง
แม่ท้องกินอินทผลัมได้ไหม
มีผลการวิจัยว่าอินทผลัมมีสารกระตุ้นชนิดหนึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อมดลูก ซึ่งจะช่วยให้การบีบตัวของมดลูกเป็นไปอย่างง่ายดายในช่วงเดือนสุดท้ายในการตั้งครรภ์ และยังช่วยลดการสูญเสียเลือดในขณะคลอด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังมีปรากฏอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอานอีกด้วย
อินทผลัม อ้วนไหมถ้ากิน
อินทผลัมเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในระบบการย่อย และยังช่วยทำให้อิ่มได้ อินทผลัมมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ทำให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้น ซึ่งการมีระบบขับถ่ายที่ดีก็สามารถทำให้ลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น แต่ก็อาจจะทำให้อ้วนได้ หากเลือกอินทผลัมที่มีการเติมส่วนผสมของน้ำตาลลงไป ดังนั้นจึงควรเลือกอินทผลัมที่ไม่หวานนัก
อินทผลัมกับชาวมุสลิม
ชาวมุสลิมถือว่าอินทผลัมนั้นเป็นผลไม้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ เนื่องจากในคัมภีร์อัลกุรอานได้มีการบันทึกเกี่ยวกับอินทผลัมอยู่หลายครั้ง ซึ่งชาวมุสลิมยังนิยมรับประทานอินทผลัมในช่วงเดือนถือศีลอด หรือ เดือนรอมฎอน อีกด้วย เนื่องจากในคัมภีร์อัลกุรอานได้บัญญัติไว้ว่าสามารถละศีลอดด้วยการกินอินทผลัมแทนการดื่มน้ำได้ และช่วนลดอาการอ่อนเพลียในช่วงอดอาหาร นอกจากนี้ ชาวมุสลิมยังเชื่อว่าการกินอินทผลัมจะช่วยป้องกันไสยศาสตร์ได้อีกด้วยค่ะ
ข้อควรระวังในการกินอินทผลัม
หากใครมีปัญหาสุขภาพหรือมีความบกพร่องในการขจัดโพแทสเซียมออกจากร่างกายควรระวังในการกิน เพราะอินทผลัมมีโพแทสเซียมสูง อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง เบาหวาน และภาวะหัวใจล้มเหลว
ถึงแม้อินทผลัมจะมีประโยชน์มากมาย เราก็ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ คือประมาณ 5-10 ผลต่อวัน เพราะผลไม้ทุกชนิดจะให้ประโยชน์ต่อเมื่อเรากินในปริมาณที่เหมาะสมนะคะ หากเรากินให้ถูกต้องรับรองว่าการมีสุขภาพดีไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริงแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, medthai.com, food.ndtv.com, organicfacts.net, ncbi.nlm.nih.gov, nutritionj.com