บ้านเป็นสถานที่ทุกคนอยู่แล้วรู้สึกปลอดภัย อุ่นใจ และผ่อนคลาย แต่หากว่าระยะหลัง ๆ นี้คุณกลับรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ บ่อยครั้งเวลาที่อยู่ในบ้าน นั่นอาจจะเป็นสัญญาณเตือนบางอย่าง ที่เรียกร้องให้คุณลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสภาพความเป็นอยู่ของตัวเองสักหน่อย เพราะทาง เว็บไซต์เฮลท์ เขาก็บอกใบ้มาว่า อาการปวดหัวตุบ ๆ ที่คุณเป็นทุกครั้งที่อยู่ในบ้าน อาจมีสาเหตุมาจากสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเพียงแค่เราเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้ดีขึ้นตามนี้ ก็จะช่วยลดอาการปวดหัวตุบ ๆ ได้แล้วล่ะ
1. แสงไฟสว่างเกินไป
แสงไฟในบ้านที่ไม่เหมาะสมเป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ทำให้คุณเกิดอาการปวดหัวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากหากสายตาต้องทนรับแสงที่สว่างเกินเหตุ จอประสาทตาก็จะเกิดอาการเกร็ง ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวตามไปด้วย ฉะนั้นหากคุณเองก็รู้สึกว่าต้องหรี่ตาบ่อย ๆ เวลาเปิดไฟ ควรต้องเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟนีออนแทนหลอดไฟฟลูออร์เรสเซ้นส์แล้วล่ะ เพราะหลอดไฟนีออนจะให้แสงสว่างที่คงที่ สม่ำเสมอมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็ควรติดตั้งสวิชต์ปรับระดับแสงสว่างเอาไว้ด้วย เวลาที่รู้สึกว่าแสงไฟในบ้านจ้าเกินไป จะได้ปรับลดให้เหมาะกับการใช้งานในขณะนั้นได้ทันที
2. กำจัดฝุ่นทุกซอกทุกมุม
ฝุ่นเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ หรือเบาะ ๆ ก็จะทำให้ปอดและระบบทางเดินหายใจทำงานได้ไม่สะดวก ซึ่งหากว่าคุณต้องทนหายใจไม่เต็มปอดภายในบ้านตัวเอง ก็แน่นอนว่าร่างกายจะรู้สึกอึดอัด เพราะได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เต็มที่ ก่อให้เกิดอาการมึนหัว และปวดหัวตุบ ๆ ตามมาในที่สุด ฉะนั้นก็ควรทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุม เพื่อกำจัดฝุ่นไรทุกชนิดให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ควรจะติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ในบ้านสักเครื่อง เลือกตัวฟอกอากาศที่มีเทคโนโลยีกรองอากาศแบบ HEPA ด้วยก็จะดีมาก เพราะเทคโนโลยีแผ่นกรองนี้จะช่วยกำจัดฝุ่นไร และเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้มากถึง 99% เลยทีเดียวค่ะ
บอกไปแล้วอาจไม่มีใครเชื่อว่า ภายในบ้านของเรา เต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศเทียบเท่า หรืออาจจะมากกว่าอากาศนอกบ้านเลยด้วยซ้ำ และมลพิษที่ว่านี้ก็มักจะเป็นกลิ่นจากสารฟอร์มาดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่ติดมากับเฟอร์นิเจอร์ และข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านนั่นเอง อีกทั้งยังมีกลิ่นสารเคมีประเภท VOCs จากสีทาบ้าน และเฟอร์นิเจอร์อีกต่างหาก ซึ่งกลิ่นของสารเคมีทั้งหมดนี้ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดหัวของเราด้วยค่ะ
ส่วนวิธีแก้ปัญหากลิ่นเหม็นฉุนของสารเคมีเหล่านี้ อาจจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเปิดหน้าต่างระบายอากาศภายในบ้านให้ได้มากที่สุด หรือจะติดตั้งพัดลมระบายอากาศเพิ่มเติมในบางจุดก็ได้ แต่สำหรับคนที่กำลังจะปรับปรุง และทาสีบ้านใหม่ ควรต้องเลือกใช้สีทาบ้านที่ปลอดสาร VOCs หรือถ้าต้องการซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ก็ควรดูเรื่องสีทาเฟอร์นิเจอร์ให้ดีด้วย
4. ควบคุมการเล่นแท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน
แสงสว่างที่ไม่เหมาะสมของหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนของคุณ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดอาการปวดหัวได้เช่นกัน ยิ่งกับคนที่นั่งเล่นแกดเจตเหล่านี้แบบผิดท่าทาง ก็อาจจะกระทบกับกล้ามเนื้อส่วนคอ ส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปถึงสมอง เป็นเหตุให้รู้สึกปวดหัวได้ง่าย ๆ
ดังนั้นหากคุณรู้สึกปวดตา และปวดหัว รวมทั้งปวดคอทุกครั้งเมื่อเล่นแท็บแล็ต และสมาร์ทโฟนนาน ๆ อาจจะต้องปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม และพยายามให้หน้าจอของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อยู่ในระดับเดียวกับสายตาให้มากที่สุด นอกจากนี้ก็ควรพักสายตาทุก ๆ 20 นาทีตลอดเวลาที่เล่นด้วยค่ะ
ได้รู้สาเหตุที่กระตุ้นให้เรารู้สึกปวดหัว และวิธีแก้ปัญหากันไปแล้ว ก็อย่าลืมทำตามกันด้วยนะคะ อาการปวดหัวตุบ ๆ ตลอดเวลาที่อยู่บ้านจะได้ลดลง หรือหายไปเลย บ้านของเราจะได้อยู่สบายสมกับความเป็นบ้านจริง ๆ
