x close

เจาะลึก...เรื่องวัณโรคและวัคซีนบีซีจี




เจาะลึก...เรื่องวัณโรคและวัคซีนบีซีจี (รักลูก)

           วัณโรค ถือเป็นโรคติดต่อร้ายแรง ทำให้เกิดปอดอักเสบ อีกทั้งยังก่อให้เกิดอาการเยื่อหุ้สมองอักเสบจนถึงแก่ชีวิตได้ และผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายที่สุด ก็คือลูกรักวัยแรกเกิด -5 ปี

           ดังนั้น มาทำความรู้จักกับโรคนี้ และเข้าใจวิธีป้องกันเสียแต่เนิ่น ๆ เพื่อลูกน้อยของคุณจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

รู้จักวัณโรค

           โรควัณโรคหรือ TB เป็นโรคติดเชื้อชนิดรุนแรง ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่าไมโครแบคทีเรี่ยม ทิวเบอรคูโลซิส (Mycobacleriumtuberculosis) ซึ่งประเทศไทยถือว่ายังมีความชุกของโรคอยู่มาก ติดอันดับที่ 18 ของโลก ในแต่ละปีมีผู้ป่วยเป็นวัณโรครายใหม่ในประเทศไทยประมาณ 4 หมื่นคน

           โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนใหญ่ที่ร่างกายแข็งแรง หากได้รับเชื้อโรค ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาควบคุมเชื้อวัณโรคได้เอง แต่สำหรับเด็กเล็กซึ่งมีภูมิคุ้มกันยังไม่มากเท่ากับผู้ใหญ่ หรือขณะที่ได้รับเชื้อมีร่างกายอ่อนแอ หรือมีโรคประจำตัวก็จะทำให้ป่วยเป็นวัณโรคได้ง่าย ซึ่งอาการที่แสดงออกนั้นก็จะต่างจากผู้ใหญ่ ซึ่งมักมีอาการทางปอดชัดเจนกว่าเด็ก เช่น ไอเป็นเลือด หรือบางรายมีอาการไอเรื้อรัง ขณะที่เด็กที่ป่วยเป็นวัณโรคจะมีอาการไข้ต่ำ ๆ น้ำหนักลด เบื่ออาหาร โดยอาการทางปอดอาจไม่เด่นชัดนัก บางรายคุณพ่อคุณแม่อาจจะสังเกตเห็นว่า ลูกมีก้อนที่คอจากต่อมน้ำเหลืองที่โตขึ้น หรือท้องใหญ่ขึ้นจากการที่มีตับหรือม้ามโตค่ะ

           ด้านการแพร่กระจายโรค วัณโรคสามารถแพร่กระจายผ่านทางฝอยละอองในอากาศ เมื่อผู้ป่วยที่มีเชื้อวัณโรค ไอ จาม หรือแม้แต่การหายใจรดกันก็ก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ โดยเมื่อลูกน้อยหายใจรับเชื้อชนิดนี้เข้าไป แบคทีเรียก็จะไปอาศัยอยู่ที่ปอดและค่อย ๆ เจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เข้าสู่กระแสเลือดและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาทิ ต่อมน้ำเหลือง กระดูกสันหลัง หรือแม้แต่สมอง โดยส่วนใหญ่แล้วในเด็กเล็กนั้น สามารถติดเชื้อนี้ได้จากคนใกล้ชิดหรือสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคนี้ค่ะ

  วัณโรคป้องกันได้แต่เนิ่น ๆ

           สำหรับการป้องกันวัณโรคไม่ให้เข้ามาทำลายสุขภาพลูกนั้น คุณพ่อคุณแม่ทำได้โดย...

           ควรหลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปตามแหล่งชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล

           หากสมาชิกในบ้านคนใดคนหนึ่งเป็นโรคนี้ ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันทีไม่ว่าจะมีหรือไม่มีอาการใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าเกิดการติดเชื้อ เพราะในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และในเด็กโตที่พบว่าได้รับเชื้อคุณหมอจะได้ให้ยากินป้องกันโรคได้ทันท่วงที

           ฉีดวัคซีนบีซีจีเพื่อป้องกันการเกิดโรควัณโรค ซึ่งปัจจุบันเด็กแรกเกิดทุกคนในประเทศไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนบีซีจีนี้ด้วยกันทั้งสิ้นค่ะ

วัคซีนบีซีจีต่อลูก

           ปัจจุบันประเทศไทย ได้กำหนดให้วัคซีนบีซีจี เป็นวัคซีนพื้นฐานที่เด็กทุกคนต้องฉีดตั้งแต่แรกเกิด เพื่อป้องกันการเกิดวัณโรคค่ะ โดยตัววัคซีนนี้เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็น ที่นำเอาเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดวัณโรคมาทำให้อ่อนกำลังลง

           ส่วนใหญ่จะฉีดเข้าในชั้นผิวหนังที่บริเวณต้นแขนข้างซ้าย แต่อาจมีบางโรงพยาบาลที่เลือกฉีดเข้าที่สะโพกของลูก เพื่อป้องกันปัญหาแผลเป็น แต่คุณหมอก็แนะนำว่าการฉีดที่บริเวณแขนแม้จะเกิดแผลเป็นบ้าง แต่ก็ดีกว่าการฉีดที่สะโพก ซึ่งแม้จะซ่อนรอยแผลได้ แต่ลูกวัยทารกต้องใส่ผ้าอ้อม อาจจะก่อให้เกิดการเสียดสีบริเวณแผล จนทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้

           โดยปกติหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 4-6 สัปดาห์ คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตพบตุ่มหรือไตแดงๆ แตกออกมาเป็นหนองได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะภูมิต้านทานในร่างกายของลูก กำลังสร้างภูมิคุ้มกันโรคจากวัคซีนที่ฉีดเข้าไป มีเด็กเพียง 1 ใน 10 คนเท่านั้นที่ฉีดวัคซีนชนิดนี้เข้าไปแล้วไม่เกิดแผล

           คุณพ่อคุณแม่สามารถให้คุณหมอตรวจเมื่อพาลูกไปฉีดวัคซีนตอนอายุ 2 เดือน ว่าแผลแห้งหรือยัง หากแผลแห้งดีไม่มีหนองก็แสดงว่าร่างกายลูกแข็งแรงดี ซึ่งถ้าตรวจแล้วไม่พบรอยนูนหรือแผลใด ๆ ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนซ้ำอีก แต่ถ้าพบว่าแผลยังเป็นหนองขนาดใหญ่ หรือมีก้อนขึ้นที่รักแร้ข้างเดียวกับแขนที่ฉีดวัคซีน ควรหาสาเหตุเพิ่มเติม

  Fast Fact

           ปัจจุบันประเทศไทยที่มีผู้ป่วยเป็นวัณโรคติดอันดับที่ 18 ของโลก

           อัตราการป่วยเป็นวัณโรคในเด็กเล็ก เมื่อได้รับเชื้อเข้าไปแล้วมีสูงถึง 50% ต่างหากผู้ใหญ่ที่มีโอกาสป่วยเพียง 5% เท่านั้น ดังนั้นหากบุคคลใกล้ชิดในบ้านป่วยเป็นวัณโรค ต้องพาเด็กไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับยาป้องกันการป่วยเป็นวัณโรค

           วัคซีนบีซีจีจะฉีดเข้าชั้นผิวหนัง และเป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็นที่นำมาทำให้อ่อนลง จึงทำให้สังเกตเห็นปฏิกิริยาจากการฉีดได้มากกว่าการฉีดวัคซีนชนิดอื่นๆ

           วัคซีนบีซีจี สามารถป้องกันการเกิดวัณโรคชนิดรุนแรงที่ก่อให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และวัณโรคปอดแบบแพร่กระจายได้ดี แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันวัณโรคชนิดที่ไม่รุนแรง อย่างวัณโรคปอดยังไม่สูงมากนัก ถึงแม้ได้รับวัคซีนแล้วก็ยังมีโอกาสป่วยเป็นวัณโรคปอดได้

  Tips

           หลังลูกได้รับวัคซีนบีซีจีแล้วอาจเกิดฝีหนองขึ้น คุณพ่อคุณแม่ควรทำความสะอาดบริเวณแผลของลูกโดยใช้น้ำอุ่นเช็ดบริเวณรอบ ๆ แผล และเปิดแผลทิ้งไว้ ห้ามบ่อมหนองหรือใช้ผ้าปิดแผลไว้เป็นอันขาด เพราะจะทำให้เกิดการอับชื้น และแผลหายยากได้

  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจาะลึก...เรื่องวัณโรคและวัคซีนบีซีจี อัปเดตล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 18:02:55 43,281 อ่าน
TOP