วิธีออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน สำหรับใครหลายคนที่กลัวว่าการปั่นจักรยานจะทำให้ขาใหญ่ ! คุณคิดผิดแล้วค่ะ เพราะการปั่นจักรยานนอกจากจะทำให้คุณหุ่นดีมากขึ้นแล้ว ยังจะช่วยให้ร่างกายฟิต แอนด์ เฟิร์มได้มากขึ้นอีกด้วย ไม่เชื่อมาลองดูกัน
สำหรับความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานอย่าง ปั่นแล้วจะทำให้ขาใหญ่ ที่คุณสาว ๆ ส่วนใหญ่กำลังกลัวกันอยู่ตอนนี้ ถือว่าเป็นความเข้าใจผิดอย่างแรงเลยล่ะค่ะ เพราะสาว ๆ รู้หรือไม่ว่าการปั่นจักรยานนั้นนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้นแล้ว ยังจะช่วยทำให้หุ่นดี และฟิต แอนด์ เฟิร์มได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเรื่องนี้
คุณ Super เมีย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้พิสูจน์กับตัวเองแล้วว่าการออกกำลังด้วยการปั่นจักรยานนั้นช่วยให้ร่างกายเฟิร์มขึ้นได้ไม่แพ้กับการออกกำลังกายชนิดอื่น ๆ เลยทีเดียว แถมยังทำให้รู้สึกดีมากอีกด้วยเมื่อได้ออกเดินทางปั่นจักรยานไปยังพื้นที่ไกล ๆ ซึ่งประสบการณ์นี้จะหาไม่ได้เลยจากการออกกำลังกายที่อยู่แต่ในฟิตเนสเพียงอย่างเดียว
สำหรับคุณสาว ๆ คนไหนที่กำลังสนใจหาแนวทางการออกกำลังกายด้วยวิธีใหม่ ๆ และกำลังหาแรงบันดาลใจสำหรับตัวเองกันอยู่ ลองมาดูเรื่องราวของเธอคนนี้กันก่อนเลยค่ะ เชื่อว่าเมื่อคุณได้อ่านจบแล้วจะต้องทำให้คุณมีแรงฮึดที่อยากจะออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานกันมากขึ้นอย่างแน่นอน สวัสดีค่ะ ทั้งชาวจักรยานและชาวฟิตเนสทุกท่าน Super เมีย กลับมาตั้งกระทู้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้สาว ๆ อีกแล้วค่ะ คำถามที่สาว ๆ มักจะสงสัย และเป็นกังวลเสมอว่า ปั่นจักรยานแล้วขาจะใหญ่ไหม ? ก็พอถูกถามบ้าง แต่คนถามก็ควรจะดูขาเราก่อนถามบ้าง ว่ามันใหญ่ไหม ? มันก็สมส่วนกับร่างกายที่มีค่ะ จากกระทู้ก่อนหน้านี้หลาย ๆ กระทู้ เราได้เกริ่นเรื่องของเรามาแล้วบ้าง เราเริ่มต้นการออกกำลังกายมาแล้วหลากหลายชนิด แต่ตอนนี้หลงรักมากกับการปั่นจักรยาน อยากเขกหัวตัวเองมาก ๆ เพราะเมื่อสองปีก่อน สามีจะซื้อจักรยานให้ แต่เราไม่เอา ลีลา เรื่องมาก กลัวกล้ามหาย ซึ่งถามว่ามีไหม ? ก็มีนิดเดียว ฮ่า ๆๆๆ จนเมื่อกลางปีที่แล้ว เริ่มเบื่อ ๆ กับสิ่งที่ทำตามโปรแกรมออกกำลังกายต่าง ๆ กลับไปซ้อมวิ่ง พอเริ่มไม่เท่าไร หัวเข่าก็เริ่มแสดงอาการงอแงตามประสาคนสูงวัย เริ่มเจ็บนิด ๆ เราก็เลยต้องหยุดไปโดยปริยาย บอกสามีว่าซื้อจักรยานให้หน่อย จะเอามาปั่นเบิร์นไขมัน เพราะปกติเราเล่นเวทเทรนนิ่งนั่นแหละ ปั่นจักรยานมา 9 เดือนได้ค่ะ แต่เปลี่ยนจักรยานคันที่ 2 แล้วเรียบร้อย คันเก่าไฮบริดยกให้พ่อไปแล้ว ได้เสือหมอบสีขาวมา เป็นของขวัญวันคริสมาสต์ ที่ผ่านมา ทีแรกว่าจะไม่อัพเกรด แต่ก็มีเหตุผลว่า ตามสามีไม่ทัน และคันเก่าก็ไม่ได้ขายต่อ แต่ยกให้พ่อไปแทนค่ะ เดี๋ยวเรื่องของพ่อ
จะเล่าย่อหน้าต่อไปนะคะ อีกครั้งเมื่อวันคล้ายวันเกิดเราที่ผ่านมา 110 กิโลเมตร เส้นทางเดิม แต่ปั่นเลยขึ้นไปถึงพังงา ทริปนี้แวะกินข้าวกินขนมไปตลอดทางค่ะ ความรู้สึกดีกว่าครั้งที่แล้วมาก ๆ ร่างกายพร้อมขึ้น ปั่นไปดูทะเล ชมวิว เรื่อยเปื่อย
แล้วการแข่งครั้งแรกก็มาถึงค่ะ งานแรกประเดิมที่ เขาสก แต่ระยะแค่ 25 กิโลเมตร สบายมาก ปกติซ้อมเยอะกว่านั้น เขาเนินก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค ภูเก็ตเขาเนินก็ไม่น้อยหน้าที่อื่น ผู้หญิงแข่งกันน้อย วันนั้นมีประมาณ 40 กว่าคนค่ะ เราเข้าที่ 9 ได้รับถ้วย ขึ้นโพเดี้ยมด้วย ครั้งแรกเลย สามีถามว่า ชอบแข่งจักรยานไหม เราตอบเลยว่าไม่ชอบค่ะ ฮ่า ๆๆๆ เราชอบไปของเราเรื่อย ๆ มากกว่า สำหรับเราการแข่งค่อนข้างอันตราย เรากลัวหน้าแหก กระดูกหัก แต่เรามีความสุขกับการได้เชียร์สามีเราแข่งค่ะ แต่ก็ไม่ได้ไปทุกครั้ง บางทีก็ขี้เกียจตื่น ยิ่งถ้าแข่งใกล้ ๆ แค่พังงา เราไม่ต้องไปค้างคืนไงคะ แต่ต้องออกเช้าหน่อย บางทีก็ตี 4-5 เราก็ขี้เกียจตื่น แข่งล่าสุดชิงถ้วยพระราชทาน แกหลงทาง เพราะ GPS แกหลุดจากรถ แกต้องกลับไปเก็บ แล้วรุ่นที่ Open เสือหมอบ ปล่อยตัวรุ่นแรก มีแต่ขาแรง มีนักแข่งระดับโลกด้วย กว่าจะชะลอรถออกจากกลุ่ม กลับไปเก็บ พอกลับมา ก็ไม่เจอใครแล้วค่ะ แล้วก็ไปเจอทางแยก ไม่มีคนบอกทาง ไม่มีรถปิดท้ายกลุ่ม ไม่มีป้ายบอกทาง แกไปผิดทาง แกเสียใจมาก ถ้าใครไปปั่นงานเต่ามา จะรู้ว่า งานนี้เละขนาดไหน
มาพูดถึงอาหารการกิน คือตอนนี้เราไม่ได้ต้องการลดความอ้วนแล้ว ต้องการแค่ให้ฟิต อาหารคลีนบ้างไม่คลีนบ้าง แต่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพค่ะ กินพิซซ่า อาทิตย์ละมื้อเป็นมื้อเย็น เราเรียกว่า Pizza date กับสามีค่ะ แต่เรากินแค่ 1-2 ชิ้น กับสลัดหรือพาสต้า ขนมก็กินบ้าง เพราะเราทำขนมขาย ยังไงซะก็ต้องชิมค่ะ เลี่ยงไม่ได้ ก็จะเป็นอะไรประมาณนี้ อกไก่ สันในหมู พาสต้า ข้าวกล้อง ผักลวก น้ำพริก ปลาทู แกงกะทิ ก็กินบ้าง แต่เราพยายามจะเลี่ยงไม่ทำบ่อย เพราะช่วงนี้สามีเราเขาวางแผนไปแข่งถี่มาก ก็ต้องไดเอตด้วย เพื่อความคล่องตัวในการปั่นด้วยค่ะ และค่อนข้างมีผล เวลาที่ปั่นขึ้นทางชัน ๆ พอเราจริงจังเรื่องปั่นจักรยานมากขึ้น ควบคุมอาหารให้กินดีมากขึ้น เราสองคนก็เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก จากภาพเมื่อก่อนแต่งงานกับมา ณ ปีนี้ สามีเราลดไปประมาณ 10 กิโลกรัม สามีน้ำหนัก 75 กิโลกรัม ส่วนเราเพิ่มขึ้นค่ะ ตอนนี้ 58 กิโลกรัม เราเล่นเวทเทรนนิ่ง สามีเราไม่ได้เล่น ปั่นอย่างเดียว ส่วนตัวเราเอง เราว่าเมื่อก่อนหุ่นเรามันก็ดีแล้วแหละ แต่มันก็ยังดีได้อีก รูปแรกเป็นภาพรวมของเวลาต่าง ๆ ก็สังเกตเห็นได้ว่ามีขึ้นมีลง ตามความขยันไม่ได้บันทึกน้ำหนักเก็บไว้เป็นเรื่องราวค่ะ แต่จำได้แค่ว่าน้ำหนักลงไปน้อยที่สุดที่ 53 กิโลกรัม กินดี หุ่นก็ปกติ แต่ถ้าหลุดบ่อย ๆ บวมบ้างนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร ทำใหม่ได้ กลับเข้าตารางเหมือนเดิม การออกกำลังกายของเราตอนนี้ ก็มีแค่ เวทเทรนนิ่ง กับปั่นจักรยาน 3 วันพัก 1 วัน หรือไม่ก็ยาวรวดเดียว 5 วัน พักเสาร์อาทิตย์ ก็ดูแผนว่าถ้าเสาร์อาทิตย์มีโปรแกรมไปไหนไหม ถ้ามีก็เล่นยาวรวดเดียว แล้วไปพักสองวัน
เราออกกำลังกายด้วยเวทเทรนนิ่งที่บ้านค่ะ สามีสนับสนุนอุปกรณ์ให้ อยากได้อะไรก็บอก แต่ซื้อให้แล้วต้องใช้ให้คุ้มค่ากับสิ่งที่แกยอมเสียเงินให้ด้วย เราใช้คุ้มค่ะ ทั้งชุดยกน้ำหนัก และจักรยาน เสื่อโยคะ รองเท้า ทุกอย่าง เราเห็นคุณค่าของ ๆ ที่เราได้รับเสมอ ไม่มีอะไรจะมาปล่อยทิ้งให้เป็นราวตากผ้านะคะ ช่วงนี้ ก็เริ่มพัฒนาจุดที่คิดว่ายังด้อยอยู่ Upper Body ยังด้อยอยู่มาก ก็พยายามฝึกสม่ำเสมอค่ะ อยากได้ก็ต้องทำ เปิดหนังสือดู เปิดเว็บไซต์ดู ใช้ยูทูปให้เป็นประโยชน์ รู้จักใช้น้ำหนักให้พอดี อย่ามากเกินไป แก่แล้วเกิดอะไรแตกหักขึ้นมาหาอะไหล่ยาก และกว่าจะหายก็คงไม่ได้ออกกำลังกายอีกนาน ตาย ๆๆ เครียดตายแบบนี้ และก็ยังจะงกอยากได้ก้นอีก อยากให้มันเด้งอีก จักรยานก็ช่วยไว้ได้เยอะมาก แต่เราก็เล่น Lower Body อาทิตย์ละหนด้วยเช่นกัน ขาก็ไม่ได้ใหญ่ขึ้นเลย กระชับมากกว่าเดิม สวยกว่าเดิม ชอบมองขาตัวเอง เพราะมันดีขึ้นจริง ๆ ตั้งแต่ปั่นจักรยาน และมันมีผลต่อ Lower abs. ของเราด้วยค่ะ เป็นเส้นชัดเจนขึ้น ยกความดีให้จักรยานด้วยเยอะ ๆ เลยค่ะ
ตอนแรกก็ใช้จักรยานธรรมดานี่แหละค่ะ แต่ตอนนี้พ่อเราเปลี่ยนมาปั่นไฮบริดเราแล้ว แม่เราตัวเล็ก ใช้จักรยานแม่บ้านคันเดิม ตอนเรากลับบ้าน แม่ก็ปลุกแต่เช้าให้ออกไปปั่นกับแก เป็นกิจกรรมที่คนในครอบครัวทำร่วมกันได้ค่ะ เวลาปั่นไปก็คุยกันได้อีก กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว
ปั่นจักรยานต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักด้วยนะคะ เราจะเลือกไปถนนเส้นไหน ก็ต้องดูความคับคั่งของรถในวันนั้น ๆ จะเลี้ยว จะแซง ต้องให้สัญญาณมือด้วยค่ะ สำคัญมาก อุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นกับนักปั่นคือการถูกชนจากด้านหลัง เพราะอาจจะไม่ให้สัญญาณมือ หรืออะไรก็แล้วแต่ อยากให้ระวังให้มาก หมวกกันน็อค สำคัญด้วยค่ะ ก่อนจะใช้รถ เช็กความพร้อมของรถด้วยนะคะ เติมลมยาง เช็คเบรค และที่สำคัญที่ต้องมีมาก ๆ คือ สติ อยู่บนถนน ต้องมีสติ อย่าเหม่อ อย่าคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เพราะอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ยังคิดจด ๆ จ้อง ๆ ว่าจะปั่นดีไหม หรือไม่ปั่นดี อาจจะพอให้ตัดสินใจกันได้นะคะ
โอ้โห แค่ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานสามารถทำให้เฟิร์มได้ขนาดนี้เชียว เห็นอย่างนี้แล้วเห็นทีคุณสาว ๆ ทั้งหลายคงจะต้องลองเอาไปเป็นแนวทางฟิตหุ่นกันบ้างแล้วล่ะค่ะ เชื่อเถอะว่าไม่ทำให้ขาใหญ่แน่นอน รู้อย่างนี้ปั่นไปนานแล้วเนี่ย ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณ Super เมีย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม,
เฟซบุ๊ก Get fit by workout
จะเล่าย่อหน้าต่อไปนะคะ 
