สาวออฟฟิศเสี่ยงปวดคอกว่าหนุ่ม3เท่า (ไอเอ็นเอ็น)
ที่มา : abcnet
การวิจัยเบื้องต้นจากออสเตรเลียพบว่า พนักงานออฟฟิศผู้หญิงมีโอกาสเกิดอาการปวดคอมากกว่าผู้ชายถึงสามเท่า
Dr. Julia Hush จากกลุ่มวิจัยอาการปวดหลังแห่งมหาวิทยาลัย University of Sydney และผู้ร่วมวิจัยได้รายงาน การค้นพบในวารสารออนไลน์ European Spine Journal
Hush กล่าวว่า "อาการปวดคอเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ สำหรับสภาพแวดล้อมการทำงาน มันมีผลกระทบกับความสามารถ ในการดำเนินกิจกรรมประจำวัน และยังส่งผลกระทบในวงกว้างไม่ใช่เฉพาะกับบุคคล แต่กับสังคมโดยรวมด้วย"
Hush กล่าวว่าระหว่าง 15 ถึง 44 เปอร์เซ็นต์ของประชากรมีอาการปวดในรอบหนึ่งปี แต่การศึกษาล่าสุดพบว่า คนที่ทำงานในออฟฟิศมีโอกาสเสี่ยงกับอาการปวดคอมากกว่าอาการอื่น ๆ เธอและผู้ร่วมวิจัยได้ศึกษาเพิ่มเติมว่า ปัจจัยอะไรบ้างที่มีความสำคัญในการระบุว่า ใครมีอาการปวดคอและใครไม่มี
พวกเขาได้ติดตามพนักงานออฟฟิศ 53 คนที่มหาวิทยาลัย University of Sydney ในระยะเวลาหนึ่งปี และใช้แบบสอบถามในการศึกษาว่าใครมีอาการปวดคอและเหตุผลของอาการ
"กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของคนที่เราทำการศึกษา ซึ่งไม่มีอาการปวดคอในตอนแรก ได้เกิดอาการปวดคอขึ้นภายในระยะเวลาหนึ่งปี" Hush กล่าว
แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะหายจากอาการหลังจากผ่านไป 2-3 อาทิตย์ แต่มี 12 เปอร์เซ็นต์ที่มีอาการปวดระยะยาว และบางคนถึงกับต้องลาหยุดงาน
Hush และผู้ร่วมวิจัยพบว่า ผู้หญิงมีโอกาสมีอาการปวดคอมากกว่าผู้ชายถึงสามเท่าในรอบปี และคนที่มีระดับความเครียดสูง จะมีความเสี่ยงที่จะมีอาการปวดคอมากกว่าคนอื่นถึงหนึ่งเท่าครึ่ง
ส่วนในด้านการป้องกัน นักวิจัยพบว่า คนที่ออกกำลังกายสามครั้ง หรือมากกว่านั้นต่ออาทิตย์จะมีโอกาสน้อยกว่า ที่จะมีอาการปวดคอ เนื่องจากลำคอมีความยืดหยุ่นมากกว่า
Hush กล่าวว่า "อัตราการเกิดอาการปวดคอมีสูงมาก เพศหญิงและความเครียดที่สูง สามารถเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอาการปวดคอ แต่ถ้าคุณมีความยืดหยุ่นของลำคอสูงขึ้นและออกกำลังกายเพิ่มขึ้น คุณอาจลดความเสี่ยงของการเกิดอาการปวดคอได้"
เธอไม่แน่ใจถึงเหตุผลที่ผู้หญิงมีโอกาสประสบอาการปวดคอมากกว่า แต่มันอาจเป็นเพราะว่า ผู้หญิงมีความตึงในกล้ามเนื้อมากกว่าในขณะที่ทำงาน
Hush กล่าวว่า การศึกษายังพบว่าผู้หญิงมีโอกาสเกิดความเครียดมากกว่าอีกด้วย เธอกล่าวว่า การค้นพบกลยุทธ์การป้องกันอาการปวดคอได้แก่การออกกำลังกาย และลดความเครียดสามารถนำไปใช้กับผู้หญิง
Hush กล่าวว่า การค้นพบนี้สามารถลดหลายปัจจัยความเสี่ยง ที่สำคัญที่สุดในการเกิดอาการปวดคอ และจะมีประโยชน์ต่อการออกแบบการวิจัยในกรอบที่กว้างขึ้น
