ทาแป้งจุดซ่อนเร้นเป็นมะเร็งรังไข่ได้จริง ศาลสหรัฐฯ สั่งบริษัทแป้งเด็กยี่ห้อดังจ่าย 2 พันล้าน ชดเชยหญิงป่วยมะเร็งรังไข่เสียชีวิต หลังทาแป้งเด็กมานานหลายสิบปี
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า คณะลูกขุนประจำรัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา ได้พิพากษาให้บริษัทผู้ผลิตแป้งเด็กยี่ห้อดังรายหนึ่ง จ่ายค่าเสียหาย 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท ให้กับครอบครัวของนางแจ็คเกอรีน ฟ็อกซ์ (Jacqueline Fox) ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ หลังเธอใช้แป้งฝุ่นทาบริเวณอวัยวะเพศมานานหลายปี
ทั้งนี้ ในสำนวนการฟ้องระบุว่า นางแจ็คเกอรีนใช้แป้งฝุ่นของบริษัทนี้ทาบริเวณอวัยวะเพศมานานกว่า 35 ปี กระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อน แพทย์ตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งรังไข่ และได้เสียชีวิตลงเมื่อเดือนตุลาคม 2558 ภายหลังครอบครัวได้ยื่นฟ้องบริษัทผู้ผลิตต่อศาล โดยระบุว่า งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันตรงกันว่า แร่ทัลก์ (Talc) ในแป้งฝุ่น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งรังไข่ เพราะการทาแป้งฝุ่นบริเวณอวัยวะเพศหญิง อาจทำให้แป้งฝุ่นเข้าไปในช่องคลอดได้ และทั้งที่แป้งฝุ่นอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ผู้ผลิตกลับไม่แจ้งอันตรายให้ผู้บริโภครับทราบ มีแค่การระบุว่า ระวัง หลีกเลี่ยงไม่ให้ผงแป้งเข้าตา สูดดมเข้าร่างกาย และสำหรับใช้ภายนอกเท่านั้น
นั่นจึงทำให้ในที่สุดแล้วคณะลูกขุนได้ตัดสินให้บริษัทผู้ผลิตแป้งเด็กยี่ห้อดังต้องจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวนเงิน 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,543,040,000 บาท โดยแบ่งเป็นค่าเสียหายตามจริง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 353,200,000 บาท และตามบทลงโทษ 62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,189,840,000 บาท
ด้านโฆษกของบริษัทผู้ผลิตได้ออกแถลงการณ์เห็นใจครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างสุดซึ้ง พร้อมแสดงความผิดหวังต่อคำตัดสิน โดยยืนยันว่า ยังคงมีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของบริษัทว่ามีความปลอดภัย และผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์จากผู้เชี่ยวชาญมาอย่างยาวนานหลายสิบปี
สำหรับคดีของแจ็คเกอรีน ถือเป็นคดีแรกที่ศาลตัดสินในประเด็นแป้งฝุ่นทำให้เกิดมะเร็งรังไข่ ขณะเดียวกันยังมีคดีลักษณะเดียวกันนี้กำลังยื่นฟ้องต่อศาลอีกกว่า 1,200 เคส
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
