ถ้าเตรียมตัวรับปริญญาได้ตามทริคเหล่านี้ วันแห่งความสำเร็จของคุณจะสดใส เพราะมีสุขภาพกายสุขภาพใจที่แฮปปี้ สมกับเป็นวันดี ๆ ของบัณฑิต
![รับปริญญา]( "รับปริญญา")
![นอนหลับ]( "นอนหลับ")
1. พักผ่อนเยอะ ๆ
ไม่ใช่แค่คืนก่อนวันรับปริญญาเท่านั้นหรอกนะคะที่ควรต้องนอนแต่หัววัน ทว่าก่อนถึงวันรับปริญญาราว ๆ 1 สัปดาห์ก็ควรต้องฝึกนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยควรนอนหลับไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง นั่นก็เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเข้าที่เข้าทาง พอถึงวันรับปริญญาจริง ๆ ก็จะได้ไม่มีอาการง่วงสะสม อ่อนล้าได้ง่าย แถมใต้ตายังคล้ำเป็นหมีแพนด้าเข้าให้อีก !
![รับปริญญา]( "รับปริญญา")
2. ใส่ใจอาหารการกินให้มาก
ผัก ผลไม้ อาหารที่ย่อยง่าย เป็นสิ่งที่บัณฑิตจบใหม่ควรกินก่อนถึงวันรับปริญญา เพื่อให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างคล่องตัว ไม่เกิดอาการท้องผูก อึดอัดท้องจนต้องแบกหน้ามุ่ย ๆ ใส่ชุดครุยถ่ายรูป และก็อย่าลืมหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรืออาหารค้างคืนด้วยนะคะ เพราะหากกินอาหารสุ่มเสี่ยงเหล่านี้เข้าไปแล้วท้องเสียขึ้นมา งานนี้คงลำบากแน่ ๆ
3. ฝึกใส่รองเท้าให้คุ้นชิน
โดยเฉพาะบัณฑิตสาวทั้งหลายที่ต้องสวมคัตชูในวันรับปริญญา เพื่อเป็นการลดปัญหารองเท้ากัด ใส่รองเท้าเดินแล้วปวดเท้า ก็ควรฝึกใส่รองเท้าให้คุ้นชินไปซะเลย เผื่อรองเท้ากัดขึ้นมาจะได้หาที่กันกัดมาแปะได้ถูกจุด แต่อย่างไรก็ตาม ในวันรับปริญญาก็ควรต้องพกพลาสเตอร์ยาติดไปด้วยกันไว้ดีกว่าแก้เนอะ
![รับปริญญา]( "รับปริญญา")
4. ออกกำลังกายให้ร่างกายพร้อมที่สุด
ความเจ็บป่วยใด ๆ มักจะต้องแพ้ให้กับการออกกำลังกายค่ะ ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทในสุขภาพของตัวเราเอง บัณฑิตใหม่ควรต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยลุกมาฟิตสุขภาพสัก 1 เดือนก่อนรับปริญญาก็ได้ อ๊ะ ! เผื่อบางคนได้ถือโอกาสนี้ลดน้ำหนักไปด้วยเลยเนอะ
![ทรงผม]( "ทรงผม")
5. ทดสอบอาการแพ้ของสีย้อมผมก่อน
สำหรับบัณฑิตที่จำเป็นต้องย้อมผมเป็นสีดำ อย่างแรกที่ควรทำก่อนย้อมผมคือทดสอบอาการแพ้กับตัวเองก่อน ดังนั้นจึงแนะนำให้ย้อมผมก่อนถึงวันซ้อมรับปริญญาจะดีกว่าค่ะ จะได้มีเวลาเลือกสีย้อมผมที่ตรงใจและปลอดภัยกับเราที่สุด ทว่าใครที่อยากเลี่ยงสารเคมีในสีย้อมผม อาจลองใช้ 12 สมุนไพรแก้ผมหงอก คืนผมดำเงาด้วยวิธีธรรมชาตินี่ก็ได้
![รับปริญญา]( "รับปริญญา")
6. ขับถ่ายให้เรียบร้อย
เข้าใจว่าบางคนรีบลุกมาแต่เช้าตรู่มาก ๆ เพื่อแต่งหน้าทำผม ซึ่งก็อาจจะยังไม่ใช่เวลาทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ ดังนั้นบางคนจึงถ่ายไม่ออกแม้จะลองนั่งแล้วก็ตาม ถ้าอย่างนั้นเพื่อความสบายใจของบัณฑิตใหม่ป้ายแดง เราแนะนำให้รับประทานผลไม้แก้ท้องผูก เช่น กล้วยน้ำว้า แก้วมังกร มะละกอ สับปะรด หรือแอปเปิลเขียว รวมทั้งผักและอาหารย่อยง่าย 1 วันก่อนถึงวันรับจริง เชื่อเถอะว่าหากกินตามที่บอกไปแล้วคุณจะขับถ่ายได้คล่องปรู๊ดปร๊าด...สบายใจ
![รับปริญญา]( "รับปริญญา")
7. กินอาหารเช้าด้วย
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่บัณฑิตมักจะมองข้ามมาโดยตลอด เพราะอาจจะต้องตื่นแต่เช้าบ้าง ทำให้ไม่มีเวลากินอาหารเช้าเหมือนปกติ ทว่าเพื่อป้องกันความหิวโหยในระหว่างเข้าพิธีรับปริญญา เราควรต้องหาเวลาสักช่วงมากินอาหารเช้าให้ได้ค่ะ โดยอาจจะกินก่อนแต่งหน้าทำผมก็ได้ และควรเลือกกินอาหารรสไม่จัด หลีกเลี่ยงผัก ผลไม้ แต่ให้เน้นหนักไปที่แป้งและโปรตีน อย่างขนมปังโฮลวีท อกไก่ ไข่ และน้ำหวานสักแก้ว เพื่อให้รู้สึกอิ่มอยู่ท้องและสดชื่นไปด้วยในตัว
![น้ำดื่ม]( "น้ำดื่ม")
8. เติมพลังทุกครั้งที่มีโอกาส
บัณฑิตจะมีช่วงพักเพื่อให้ออกมาถ่ายรูปกับญาติ ๆ และเพื่อนพ้องที่มาร่วมยินดี ซึ่งเราควรใช้โอกาสนี้เติมพลังให้ร่างกายไปด้วยเลย โดยสิ่งแรกที่ควรทำคือการดื่มน้ำ หรืออาจจะดื่มน้ำหวานเพื่อเพิ่มน้ำตาลในเลือดให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าก็ได้ ทว่าอย่าดื่มน้ำหลายอึกจนเกินไปนะคะ แค่จิบ ๆ พอดับกระหายก็พอ เพราะไม่อย่างนั้นอาจรู้สึกปวดปัสสาวะกลางพิธีขึ้นมาได้ แต่หากแน่ใจว่าพอมีจังหวะจะเข้าห้องน้ำได้ อันนี้ก็ดื่มน้ำได้ตามใจเลย
อ้อ ! อีกเคล็ดลับหนึ่งที่ก็ไม่ควรพลาดก็คือ ฝากให้ญาติหรือรุ่นน้องที่คอยดูแลพกของว่างอย่างถั่ว อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ไข่ต้ม กล้วยหอม หรือแซนด์วิชไส้เนยถั่วติดเอาไว้บ้าง พอสบโอกาสได้พักเราก็จะได้กินอาหารโปรตีนสูงเหล่านี้รองท้องให้ไม่รู้สึกหิวโหยหมดแรง
![ทิชชู]( "ทิชชู")
9. ไอเทมเพื่อสุขภาพก็ควรพกไว้
ในกรณีที่บัณฑิตพกอะไรไม่ได้เลย ก็ฝากไอเทมเพื่อสุขภาพอย่างยาดม ยาหอม ยาแก้ปวดหัว ยาแก้ท้องเสีย กระดาษทิชชู กระดาษทิชชูเปียก แอลกอฮอล์ พลาสเตอร์ยา ยาทาแผล ไหมขัดฟัน พัด หรือยาประจำตัวติดไปด้วย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เลยทันที
![รับปริญญา]( "รับปริญญา")
10. อย่าลืมทาครีมกันแดด
ไม่ว่าจะวันซ้อมรับปริญญาหรือวันรับปริญญาจริงก็ไม่ควรลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาดค่ะ เพราะแน่นอนว่าเราต้องออกไปยืนอยู่กลางแจ้งไม่รู้นานเท่าไร ดังนั้นปกป้องผิวจากรังสียูวีไว้ก่อนดีที่สุด
วันสำคัญของเราทั้งที เชื่อว่าทุกคนก็คงอยากให้เป็นวันที่สวยงาม ฉะนั้นอย่าลืมทำตามคำแนะนำของเรากันด้วยนะคะ และทางกระปุกดอทคอมก็ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตป้ายแดงทุกคนไว้ ณ ทีนี้เลย เย้ ๆ :)
เมื่อมาถึงฤดูแห่งการรับปริญญา
หลาย ๆ คนเริ่มเตรียมตัวเป็นบัณฑิตกันจ้าละหวั่น ทั้งเช่าชุดครุย
จองคิวช่างแต่งหน้า ติดต่อช่างภ่ายภาพก็ด้วย แต่เอ๊ะ !
วันสำคัญอย่างนี้บัณฑิตหลงลืมเรื่องสุขภาพกันไปหรือเปล่า
ถ้างั้นเพื่อความสดใสในวันรับปริญญา เรามี 10 วิธีเตรียมตัวรับปริญญามาให้เก็บไปปฏิบัติกัน
ไม่ใช่แค่คืนก่อนวันรับปริญญาเท่านั้นหรอกนะคะที่ควรต้องนอนแต่หัววัน ทว่าก่อนถึงวันรับปริญญาราว ๆ 1 สัปดาห์ก็ควรต้องฝึกนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยควรนอนหลับไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง นั่นก็เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างเข้าที่เข้าทาง พอถึงวันรับปริญญาจริง ๆ ก็จะได้ไม่มีอาการง่วงสะสม อ่อนล้าได้ง่าย แถมใต้ตายังคล้ำเป็นหมีแพนด้าเข้าให้อีก !
2. ใส่ใจอาหารการกินให้มาก
ผัก ผลไม้ อาหารที่ย่อยง่าย เป็นสิ่งที่บัณฑิตจบใหม่ควรกินก่อนถึงวันรับปริญญา เพื่อให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างคล่องตัว ไม่เกิดอาการท้องผูก อึดอัดท้องจนต้องแบกหน้ามุ่ย ๆ ใส่ชุดครุยถ่ายรูป และก็อย่าลืมหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ หรืออาหารค้างคืนด้วยนะคะ เพราะหากกินอาหารสุ่มเสี่ยงเหล่านี้เข้าไปแล้วท้องเสียขึ้นมา งานนี้คงลำบากแน่ ๆ
โดยเฉพาะบัณฑิตสาวทั้งหลายที่ต้องสวมคัตชูในวันรับปริญญา เพื่อเป็นการลดปัญหารองเท้ากัด ใส่รองเท้าเดินแล้วปวดเท้า ก็ควรฝึกใส่รองเท้าให้คุ้นชินไปซะเลย เผื่อรองเท้ากัดขึ้นมาจะได้หาที่กันกัดมาแปะได้ถูกจุด แต่อย่างไรก็ตาม ในวันรับปริญญาก็ควรต้องพกพลาสเตอร์ยาติดไปด้วยกันไว้ดีกว่าแก้เนอะ
4. ออกกำลังกายให้ร่างกายพร้อมที่สุด
ความเจ็บป่วยใด ๆ มักจะต้องแพ้ให้กับการออกกำลังกายค่ะ ดังนั้นเพื่อความไม่ประมาทในสุขภาพของตัวเราเอง บัณฑิตใหม่ควรต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยลุกมาฟิตสุขภาพสัก 1 เดือนก่อนรับปริญญาก็ได้ อ๊ะ ! เผื่อบางคนได้ถือโอกาสนี้ลดน้ำหนักไปด้วยเลยเนอะ
5. ทดสอบอาการแพ้ของสีย้อมผมก่อน
สำหรับบัณฑิตที่จำเป็นต้องย้อมผมเป็นสีดำ อย่างแรกที่ควรทำก่อนย้อมผมคือทดสอบอาการแพ้กับตัวเองก่อน ดังนั้นจึงแนะนำให้ย้อมผมก่อนถึงวันซ้อมรับปริญญาจะดีกว่าค่ะ จะได้มีเวลาเลือกสีย้อมผมที่ตรงใจและปลอดภัยกับเราที่สุด ทว่าใครที่อยากเลี่ยงสารเคมีในสีย้อมผม อาจลองใช้ 12 สมุนไพรแก้ผมหงอก คืนผมดำเงาด้วยวิธีธรรมชาตินี่ก็ได้
6. ขับถ่ายให้เรียบร้อย
เข้าใจว่าบางคนรีบลุกมาแต่เช้าตรู่มาก ๆ เพื่อแต่งหน้าทำผม ซึ่งก็อาจจะยังไม่ใช่เวลาทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ ดังนั้นบางคนจึงถ่ายไม่ออกแม้จะลองนั่งแล้วก็ตาม ถ้าอย่างนั้นเพื่อความสบายใจของบัณฑิตใหม่ป้ายแดง เราแนะนำให้รับประทานผลไม้แก้ท้องผูก เช่น กล้วยน้ำว้า แก้วมังกร มะละกอ สับปะรด หรือแอปเปิลเขียว รวมทั้งผักและอาหารย่อยง่าย 1 วันก่อนถึงวันรับจริง เชื่อเถอะว่าหากกินตามที่บอกไปแล้วคุณจะขับถ่ายได้คล่องปรู๊ดปร๊าด...สบายใจ
7. กินอาหารเช้าด้วย
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่บัณฑิตมักจะมองข้ามมาโดยตลอด เพราะอาจจะต้องตื่นแต่เช้าบ้าง ทำให้ไม่มีเวลากินอาหารเช้าเหมือนปกติ ทว่าเพื่อป้องกันความหิวโหยในระหว่างเข้าพิธีรับปริญญา เราควรต้องหาเวลาสักช่วงมากินอาหารเช้าให้ได้ค่ะ โดยอาจจะกินก่อนแต่งหน้าทำผมก็ได้ และควรเลือกกินอาหารรสไม่จัด หลีกเลี่ยงผัก ผลไม้ แต่ให้เน้นหนักไปที่แป้งและโปรตีน อย่างขนมปังโฮลวีท อกไก่ ไข่ และน้ำหวานสักแก้ว เพื่อให้รู้สึกอิ่มอยู่ท้องและสดชื่นไปด้วยในตัว
8. เติมพลังทุกครั้งที่มีโอกาส
บัณฑิตจะมีช่วงพักเพื่อให้ออกมาถ่ายรูปกับญาติ ๆ และเพื่อนพ้องที่มาร่วมยินดี ซึ่งเราควรใช้โอกาสนี้เติมพลังให้ร่างกายไปด้วยเลย โดยสิ่งแรกที่ควรทำคือการดื่มน้ำ หรืออาจจะดื่มน้ำหวานเพื่อเพิ่มน้ำตาลในเลือดให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าก็ได้ ทว่าอย่าดื่มน้ำหลายอึกจนเกินไปนะคะ แค่จิบ ๆ พอดับกระหายก็พอ เพราะไม่อย่างนั้นอาจรู้สึกปวดปัสสาวะกลางพิธีขึ้นมาได้ แต่หากแน่ใจว่าพอมีจังหวะจะเข้าห้องน้ำได้ อันนี้ก็ดื่มน้ำได้ตามใจเลย
อ้อ ! อีกเคล็ดลับหนึ่งที่ก็ไม่ควรพลาดก็คือ ฝากให้ญาติหรือรุ่นน้องที่คอยดูแลพกของว่างอย่างถั่ว อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ไข่ต้ม กล้วยหอม หรือแซนด์วิชไส้เนยถั่วติดเอาไว้บ้าง พอสบโอกาสได้พักเราก็จะได้กินอาหารโปรตีนสูงเหล่านี้รองท้องให้ไม่รู้สึกหิวโหยหมดแรง
9. ไอเทมเพื่อสุขภาพก็ควรพกไว้
ในกรณีที่บัณฑิตพกอะไรไม่ได้เลย ก็ฝากไอเทมเพื่อสุขภาพอย่างยาดม ยาหอม ยาแก้ปวดหัว ยาแก้ท้องเสีย กระดาษทิชชู กระดาษทิชชูเปียก แอลกอฮอล์ พลาสเตอร์ยา ยาทาแผล ไหมขัดฟัน พัด หรือยาประจำตัวติดไปด้วย เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เลยทันที
10. อย่าลืมทาครีมกันแดด
ไม่ว่าจะวันซ้อมรับปริญญาหรือวันรับปริญญาจริงก็ไม่ควรลืมทาครีมกันแดดเด็ดขาดค่ะ เพราะแน่นอนว่าเราต้องออกไปยืนอยู่กลางแจ้งไม่รู้นานเท่าไร ดังนั้นปกป้องผิวจากรังสียูวีไว้ก่อนดีที่สุด
วันสำคัญของเราทั้งที เชื่อว่าทุกคนก็คงอยากให้เป็นวันที่สวยงาม ฉะนั้นอย่าลืมทำตามคำแนะนำของเรากันด้วยนะคะ และทางกระปุกดอทคอมก็ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตป้ายแดงทุกคนไว้ ณ ทีนี้เลย เย้ ๆ :)
