x close

แฉโรคภัยในออฟฟิศ ปวดคอ-หลัง-ไหล่-ศีรษะ





แฉโรคภัยในออฟฟิศ ปวดคอ-หลัง-ไหล่-ศีรษะ (ไทยรัฐ)


           นพ.วิษณุ กัมทรทิพย์ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวในการประชุมวิชาการ เรื่อง "Office Syndrome" หรือ โรคภัยในสถานที่ทำงาน  ว่า โรคภัยในออฟฟิศเป็นกลุ่มอาการที่พบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศ มักมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดคอ หลัง ไหล่ และปวดศีรษะ

           เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมในที่ทำงานไม่เหมาะสม โดยเฉพาะคนที่นั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงเครียด กล้ามเนื้ออักเสบ และปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ ส่วนบางรายที่มีอาการของหมอนรองกระดูกเคลื่อนอยู่แล้ว หากทำงานในอิริยาบถไม่เหมาะสม จะทำให้มีอาการรุนแรงมากขึ้น

           รายงานระบุว่า จากการสำรวจพนักงานออฟฟิศในประเทศยุโรป พบว่า ส่วนใหญ่กลุ่มคนทำงานอายุระหว่าง 16-24 ปี มีความเสี่ยงของการเกิดภาวะปวดคอ หลัง และไหล่สูง เพราะได้รับมอบหมายมากและทำงานแข่งกับเวลา ส่วนคนทำงานอายุ 55 ปีขึ้นไป มักมีอาการปวดศีรษะ เพราะสภาพการทำงานต้องรับผิดชอบการตัดสินใจเรื่องสำคัญ

           ภาวะกดดันและการแข่งขันสูง แนวทางการป้องกัน คือ การจัดสภาพแวดล้อมในการทำงานให้เหมาะสม นั่งทำงานถูกท่าทาง รู้จักพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ ชั่วโมง ควรบริหารข้อมือด้วยท่ากำมะเหงก การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เช่น บิดขี้เกียจ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ควรเปลี่ยนจอคอมพิวเตอร์จากแบบเก่าเป็นจอแอลซีดี มีต้นไม้กระถางเล็กๆ กรองรังสีจากจอคอมคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

           ประการสำคัญ ผู้ที่บ้างานต้องรู้จักหาเวลาพักบ้าง เช่น ลุกขึ้นเดิน หรือไปคุยโทรศัพท์เรื่องเบาๆ สมองบ้าง

           ด้าน แพทย์หญิงจุฑาไล ตัณฑเทอดธรรม ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ปัญหาที่พบบ่อยในคนทำงานออฟฟิศ คือ ปัญหาด้านสายตา อาทิ ตาแห้ง น้ำตาไหล ระคายเคืองตา ตามัว ตาแดง สายตาปรับภาพได้ช้าลง เกิดจากการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ทำให้การกะพริบตาน้อยลง หนังตาเปิดกว้างขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศในที่ทำงานติดแอร์ ทำให้อากาศแห้ง ส่งผลให้น้ำตาระเหยมาก จนกระทั่งเกิดความระคายเคืองตาและตาแห้ง

           นอกจากนี้ การเพ่งสายตาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ยังทำให้ต้องกลอกตาไปมาตลอดเวลา ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานมากขึ้น ทำให้ปวดตาในที่สุด จึงควรพักสายตาเป็นระยะทุก 20 นาที หลับตาทุก 1 ชั่วโมง ลุกเดินเพื่อพักสายตา และควรจัดจอภาพคอมพิวเตอร์ให้ต่ำกว่าระดับสายตา 15 องศา เพื่อช่วยลดอาการปวดตาและปวดคอ บริหารกล้ามเนื้อตาด้วยการมองปลายปากกาในขณะที่เลื่อนปากกาเข้า-ออก


          เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย

                      คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แฉโรคภัยในออฟฟิศ ปวดคอ-หลัง-ไหล่-ศีรษะ อัปเดตล่าสุด 21 สิงหาคม 2552 เวลา 16:11:39
TOP