Break These Habits--Get Fit Fast (Lisa)
เจตนาที่ดีของคุณบางอย่างทำลายการออกกำลังของคุณก็ได้ กำจัดข้อผิดพลาดที่พบกันบ่อยเหล่านี้ซะ แล้วคุณจะผอมเพรียวลงและแข็งแรงขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว่า
1. เติมพลังงานมากเกินไป
คนที่ออกกำลังทุกวันส่วนใหญ่มักชอบกินอาหารแท่งให้พลังงาน หรือ สปอร์ตดริ๊งก์ เพราะคิดว่าของเหล่านี้จะให้ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้ว สิ่งที่มันให้ก็คือแคลอรี ทำให้คุณอาจกินหรือดื่มเข้าไปตั้ง 700 แคลอรีได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ออกกำลังไปเพียงแค่ 200 แคลอรีเท่านั้น ถ้าคุณต้องการกินอะไรสักหน่อยเพื่อเพิ่มพลัง กินแค่ผลไม้หรือถั่วสักหน่อยกับน้ำก็พอแล้ว
2. คิดว่าแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว
คนจำนวนมากเชื่ออย่างผิด ๆ ว่า การออกกำลัง 30 นาทีบนลู่วิ่งไฟฟ้าเป็นใบอนุญาตให้นั่งแช่ไปตลอดทั้งวันที่เหลือได้ ที่จริงแล้วการออกกำลังเป็นการสะสม ยิ่งคุณเคลื่อนไหวมากแค่ไหน คุณก็จะยิ่งได้รับผลดีมากแค่นั้น ฉะนั้น เลิกคิดว่าการออกกำลังว่าคืออะไรก็ตามที่คุณทำเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง และเคลื่อนไหวให้มากขึ้นตลอดทั้งวัน
3. ออกกำลังหนักเกินไป
ความหนักเป็นเรื่องดี แต่เพียงแค่เล็กน้อยจะได้ผลมากกว่าที่คิด คนเรามักคิดว่าถ้าออกกำลัง ก็จะต้องออกกำลังให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ตลอดเวลา แล้วพวกเขาก็ต้องเลิกไป เพราะทำให้ตัวเองบาดเจ็บ หรือไม่ก็ไม่อาจทำต่อไปได้ แทนที่จะทำเช่นนั้น ออกกำลังด้วยความหนักปานกลางสัก 45 นาที คุณจะทำอย่างต่อเนื่องได้ง่ายกว่า หรือใช้การออกกำลังแบบอินเทอร์วัล ที่คุณจะเร่งความหนักให้มากขึ้นเป็นช่วง ๆ
4. แบ่งแยกสมาธิ
การมีสิ่งรบกวนสมาธิเล็กน้อย เช่น ทีวี สามารถทำให้เวลาการออกกำลังดูเหมือนจะผ่านไปเร็วขึ้น แต่เป็นการรบกวนมากเกินไปสำหรับการออกกำลังของคุณ กิจกรรมใดก็ตามที่ต้องมีการใช้สมาธิ เช่น การอ่านนิยายหรือบทความยาว ๆ ต้องการความสนใจและสมาธิจากคุณ ทำให้ร่างกายคุณช้าลงโดยไม่รู้ตัว ทางออกที่ดีกว่าก็คือ หาบางอย่างที่ช่วยให้คุณจดจ่อกับการออกกำลัง เพลงที่สนุกสนานเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด
5. ให้รางวัลมากกว่าความพยายาม
คนส่วนมากที่ใช้อาหารเป็นรางวัล ได้รับแคลอรีมากกว่าที่พวกเขาใช้ไป ถ้าคุณจะใช้ขนมหรืออาหารค่ำดี ๆ เพื่อเป็นตัวล่อให้ตัวเองก้าวต่อไปเรื่อย ๆ ก็ให้รางวัลตัวเองบ่อยน้อยลงหน่อย สักเดือนละครั้ง ถ้าคุณออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ และสำหรับรางวัลที่บ่อยกว่านั้น เปลี่ยนเป็นการซื้อของให้ตัวเองแทนการกินจะดีกว่า
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก