ลักษณะงานที่เสี่ยงข้อเข่าเสื่อม (ชีวจิต)
ลองมาสำรวจกันสักนิดว่า อาชีพที่คุณทำอยู่มีกิจกรรมที่เพิ่มแรงกดดันต่อเข่า ต่อไปนี้หรือไม่
ต้องยกของหนักอย่างน้อย 10 กิโลกรัม มากกว่า 10 ครั้งต่อสัปดาห์ คุกเข่ามากกว่าวันละ 1 ชั่วโมง ลุกขึ้นจากท่าคุกเข่าหรือนั่งยอง ๆ มากกว่าวันละ 30 ครั้ง เดินมากกว่าวันละ 3.2 กิโลเมตร ขึ้นบันไดมากกว่าวันละ 30 ครั้ง หากอาชีพของคุณมีข้อใดข้อหนึ่งในกิจกรรมเหล่านี้ โอกาสที่คุณจะได้โบนัสจากงานเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ก็มีสิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ยิ่งมีความอ้วนเป็นปัจจัยเสริมด้วยล่ะก็ ความเสี่ยงนี้ก็จะชัดเจนขึ้น แต่การเดินหรือการยกของที่ทำเพื่อสันทนาการ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นความเสี่ยงเหมือนอย่างที่ทำเพราะอาชีพหรือไม่
ปวดหลังเพราะนั่งนอนผิดวิธี
เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน หลายท่านมักประสบปัญหาเรื่องปวดหลัง ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่หากแก้ไขอิริยาบถประจำอย่างการยืน นั่ง นอน พร้อมบริหารร่างกาย จะช่วยลดและป้องกันอาการปวดหลังได้
น.พ.สุทร บวรรัตนเวช แพทย์ศัลยกรรมกระดูกและข้อ กล่าวถึงการป้องกันอาการปวดหลังว่า ต้องเริ่มจากการแก้ไขอิริยาบถที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ร่วมกับการบริหารร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดหลัง
เริ่มจากการนอน ที่นอนควรแน่น ยุบตัวน้อยที่สุด ไม่ควรใช้ฟูกฟองน้ำหรือเตียงสปริง เพราะจะทำให้กระดูกสันหลังแอ่นและปวดหลังได้ ส่วนท่านอนที่ดีต่อสุขภาพหลัง คือท่านอนตะแคง โดยหาหมอนวางระหว่างขา หรือนอนหงายแล้วมีหมอนหนุนใต้โคนขา เพื่อให้เข่างอเล็กน้อย ช่วยลดการแอ่นตัวของหลัง และไม่ควรนอนคว่ำ เพราะจะทำให้หลังแอ่น ส่วนท่านั่ง ควรนั่งให้ชิดขอบในของเก้าอี้โดยหลังไม่โก่ง เก้าอี้ที่นั่งต้องรองรับก้นและโคนขาทั้งหมด ความสูงพอดีเท้าแตะพื้น ท่ายืน ควรยืนพักขา 1 ข้าง จึงจะไม่ทำให้หลังแอ่น ส่วนการยกของที่ถูกต้องนั้นควรย่อเข่าลงแล้วอุ้มของชิดลำตัวสำหรับการบริหารร่างกายเพื่อลดการเกิดอาการปวดหลัง เริ่มจาก
ท่าแรก นอนหงายชันเข่า แขนแนบข้างลำตัวเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพื่อกดหลังให้แนบกับพื้นนับ 1-3 ช้าๆ จากนั้นจึงคลายกล้ามเนื้อปล่อยพักตามสบาย ทำ 5-6 ครั้ง ท่าที่สอง นอนหงายชันเข่า 2 ข้าง ผงกศรีษะค้างไว้นับ 1-2 แล้วเอาลง ครั้งแรกควรทำ 10 ครั้ง แล้วค่อยเพิ่มจนถึง 25 ครั้งในวันถัดมา การบริหารนี้ต้องทำทุกวัน อาจเป็นช่วงเช้าหรือก่อนนอนจะช่วยผ่อนคลายอาการปวดหลังได้ แต่ถ้ายังมีอาการปวดหลังอยู่ควรหยุดออกกำลังกายทันที และปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
