เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผู้หญิงทุกคนต่างค้นหาคำตอบให้กับคำถามที่ว่า "กินอะไรถึงจะสวย" กันมานาน และคำตอบที่หาได้ก็คงมีมากมาย ทำตามแล้วได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาค้นหาคำตอบให้คำถามนี้กันต่อไป วันนี้เลยขอแหวกแนวนำคำตอบแบบที่คุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนมาบอกกัน จากหนังสือ Future Proof Your Skin ของดอกเตอร์สเตฟานี่ วิลเลียมส์ แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเราอ้างอิงเนื้อหาบางส่วนมาจากเว็บไซต์เดลี่เมล ข้อมูลที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้นับเป็นการลบหลายความเชื่อที่เคยทำกันมาทีเดียวล่ะ ลองมาดูสิว่ามีข้อไหนที่ทำให้คุณเซอร์ไพรส์บ้าง
ลดหวาน ความหวานอันได้จากกลูโคสและกาแลกโตส จะทำปฏิกิริยากับผิว ที่เรียกว่ากระบวนการ ไกลเคชั่น (glycation) ทำให้ผิวบอบบาง ขาดความยืดหยุ่น สุดท้ายลงเอยด้วยผิวเหี่ยวและริ้วรอย ไม่ใช่แค่ลดหวานที่ได้จากน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมเท่านั้น ความหวานจากผลไม้สดหรือน้ำผลไม้ก็ยังทำร้ายผิวไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้นก็เพลา ๆ การกินอาหาร เครื่องดื่ม รวมทั้งผลไม้ที่มีรสชาติหวานจัดลงบ้างนะคะ
ลดแป้ง..รวมทั้งแป้งไม่ขัดสี เป็นที่ทราบดีว่าแป้งขัดขาวนั้นสารอาหารน้อยกว่าแบบที่ยังไม่ขัดสี สาว ๆ ที่รักสุขภาพจึงหันมาบริโภคข้าวกล้องกันมากขึ้น การกินข้าวกล้องนั้นทำให้อิ่มนาน แต่คาร์โบไฮเดรตที่ได้จากข้าวกล้องที่สลายกลายเป็นน้ำตาลแล้วไปให้พลังงานกับร่างกาย ก็ยังคงจดอยู่ในกลุ่มน้ำตาลที่ทำร้ายผิวได้อยู่ดี หากเป็นคนที่กินข้าวจุอยู่แล้ว ข้าวกล้องปริมาณพูนจานก็เท่ากับน้ำตาลที่ร่างกายจะได้รับเข้าไปเมื่อมันย่อยหมด เพราะฉะนั้นอย่าเห็นเพียงว่าเป็นข้าวที่มีสารอาหารมากแล้วจึงกินเอา ๆ นะ ระวังผิวจะเสียโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงขนมปังไม่ขัดขาว และเส้นพาสต้าแบบไม่ขัดขาวต่าง ๆ ด้วย
กินผักหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้แร่ธาตุ วิตามิน รวมทั้งสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่หลากหลาย คุณจึงควรบริโภคผักหลากหลายชนิดสลับคละเคล้ากันไป โดยผักใบเขียวจัดอย่างผักคะน้าและบรอกโคลี เป็นผักเพื่อผิวสวยโดยแท้ ส่วนวิธีการปรุงให้ปรุงด้วยการต้มจะนานกว่าการย่างหรือผัด เนื่องจากผักต้มใช้เวลาในการย่อยนาน จึงค่อย ๆ ปล่อยน้ำตาลออกมาให้ร่างกาย
กินไขมันเพิ่มขึ้น อย่ากลัวว่าไขมันจะทำให้อ้วน คาร์โบไฮเดรตต่างหากที่เป็นตัวการร้ายทำให้อ้วนและผิวเสีย แท้จริงแล้วไขมันนั้นสำคัญต่อการสร้างผนังเซลล์ที่แข็งแรงมาก ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย ๆ
กินไขมันอิ่มตัวด้วย ถ้าอยากผอมสวยหุ่นดี รวมทั้งสุขภาพดี มีแต่คำแนะนำให้เลี่ยงการบริโภคไขมันอิ่มตัว แต่ที่จริงแล้วยังมีไขมันอิ่มตัวจำพวกหนึ่งที่บริโภคแล้วดีต่อสุขภาพรวมทั้งต่อผิวพรรณ นั่นก็คือไขมันอิ่้มตัวที่ได้จากพืช ซึ่งจะให้กรดไขมันอิ่มตัวชนิดเชิงเดี่ยวที่เป็นประโยชน์ อย่างเช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันสกัดจากเมล็ดแมคคาเดเมีย ฯลฯ เพราะฉะนั้นอย่างดไขมันไปหมดเพราะกลัวอ้วน แค่เลือกกินให้เป็นก็หุ่นสวยผิวใสได้แล้ว
คลอเรสเตอรอลที่รัก เธอสำคัญกับฉันมาก พูดถึงคำว่าคลอเรสเตอรอลแล้วใคร ๆ ก็พากันหวาดกลัว เพราะมันเป็นบ่อเกิดของโรคร้ายคุกคามสุขภาพอื้อซ่า แต่ว่าที่จริงคลอเรสเตอรอล "ในระดับที่เหมาะสม" และคลอเรสเตอรอลที่ดี หรือที่เราเรียกว่า "ไขมันดี" (HDL) นั้นสำคัญกับร่างกายมาก ร่างกายต้องการมันเพื่อนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตฮอร์โมน รวมทั้งยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของผิวหนังด้วย เพราะฉะนั้นอาหารคลอเรสเตอรอลสูงก็ใช่ว่าจะให้โทษไปเสียทุกอย่าง ตราบเท่าที่มันให้ไขมันดีกับร่างกาย โดยเฉพาะไข่ คุณกินได้เรื่อย ๆ เลยล่ะ
กินอาหารแบบเว้นมื้อ เราต่างถูกอบรมบ่มสอนมาว่าควรกินอาหารให้ถูกต้องตรงเวลาทุกวัน แต่รู้ไหม จริง ๆ แล้วบรรพบุรุษของเรานั้นไม่ได้มีอาหารครบ 3 มื้อ เหมือนเราในปัจจุบันเสียหน่อย แค่มีกินตามความสามารถในการหาอาหารมาได้เท่านั้นแหละ เพราะฉะนั้นจะมาคาดเดาเอาเวลากินที่แน่นอนไม่ได้เลย และแม้กาลเวลาเปลี่ยน พฤติกรรมการกินของเราจะเปลี่ยนไป แต่ยีนของเราไม่ได้เปลี่ยนตาม ลองกลับมากินอาหารแบบไม่ตรงมื้ออย่างบรรพบุรุษดูบ้าง แล้วร่างกายจะปรับตัวจากการเอาแต่สร้างเซลล์ใหม่และสะสมสารอาหารอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นการซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพให้มีคุณภาพดีเหมือนเดิม
กินมื้อเล็ก ๆ ตลอดทั้งวัน ไม่ใช่เคล็ดลับการไดเอตสักหน่อย เคล็ดลับหนึ่งในการควบคุมน้ำหนัก เขาว่าให้กินวันละหลายมื้อแต่แบ่งเป็นมื้อเล็ก ๆ จะได้รักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือดให้สม่ำเสมอตลอดวัน ไม่รู้สึกหิวโซจนเผลอฟาดมื้อโตเกินไป แต่ที่จริงการกินมื้อย่อย ๆ แบบนี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเส้นเลือดของคุณ "สูงคงที่ตลอดทั้งวัน" ต่างหาก และยิ่งน้ำตาลในเลือดสูก็ยิ่งไม่ดีกับผิว มันยับยั้งการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวเหี่ยวไว หย่อนยานง่าย
อดอาหารสัปดาห์ละ 2 วันเคล็ดลับเด็ดของการรักษาความอ่อนเยาว์ตามแบบฉบับของดอกเตอร์สเตฟานี่ วิลเลียมส์ คือการอดอาหารสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมนออกมามากขึ้น รวมถึงการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิวหนังด้วย
เลี่ยงซะกับสารให้ความหวานแทนน้ำตาล สาวผู้ควบคุมน้ำหนักหลายคน เลือกที่จะใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลในเครื่องดื่มและอาหารของพวกเธอ กับเหตุผลที่ว่าได้ความหวานเท่ากันแต่รับพลังงานน้อยว่าน้ำตาลเกือบครึ่ง หรืออาจเป็น 0 แคลอรี่ไปเลย แต่ที่จริงแล้วเมื่อร่างกายได้ลิ้้มความหวานเข้าไป อินซูลินจะถูกกระตุ้นให้หลั่งออกมาจากตับ เพื่อที่จะทำหน้าที่นำน้ำตาลในเลือดนั้นไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย แต่อินซูลินที่ถูกหลั่งออกมานี้กลับไม่ได้เจอกับน้ำตาลซึ่งมาจากการบริโภคตามอย่างที่ควรเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นมันไปดึงเอากลูโคสที่มีอยู่เดิมในเลือดออกมา ทำให้ระดับน้ำตาลในเส้นเลือดลดลง กระตุ้นให้คุณรู้สึกหิว และอยากอาหารพวกแป้งและน้ำตาลมากกว่าเดิม .. อันอาจทำให้กินแบบไม่ลืมหูลืมตาจนมากเกินไปก็ได้
ปาร์ตี้นี้ต้องไวน์แดงกับเตกิล่าเท่านั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพก็อย่างไวน์แดง เพราะมันมีน้ำตาลต่ำ แต่มีสารแอนตี้เอจจิ้งอย่าง เรสเวอราทรอลสูง แต่ถ้าต้องการจิบอะไรที่หนักกว่าไวน์แดง ก็ขอแนะนำเป็นเตกิล่า อาจจะผสมน้ำแล้วบีบมะนาวลงไปสักหน่อย กรึ่ม ๆ ได้เหมือนกันแต่น้ำตาลต่ำกว่าพวกค็อกเทลสีสวย ๆ เยอะแยะเลย แต่ยังไงก็เถอะ จะอะไรก็อย่าดื่มมากเกินไปนะคะ
นมนั้นดี แต่ดื่มแต่น้อยจะดีกว่า นม มีคุณสมบัติเพิ่มระดับอินซูลินได้อย่างคาดไม่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีรสหวานอะไรมากมายก็ตาม เพราะฉะนั้นดื่มนมวัวแต่น้อย แล้วแทนที่ด้วยน้ำนมอัลมอนด์หรือนมข้าวโอ๊ตแทน แต่ว่าถ้าเป็นผลิตภัณฑ์จากนมที่ผ่านการหมักมาแล้วอย่างโยเกิร์ตหรือชีส จะไม่พบปัญหานี้แต่อย่างใด
หลาย ๆ ข้อจากเปิดบทใหม่ว่าด้วยการกินอะไรให้สวย คงจะช็อกคุณไม่เบาเลยใช่ไหมล่ะ ถ้ามีใครเคยได้ลองทำมาแล้วเห็นผลหรือไม่อย่างไรลองมาบอกกันบ้างนะจ๊ะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
