เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อังกฤษ นับเป็นอีกหนึ่งประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤตโรคอ้วน โดยมีคนที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ และอยู่ในข่ายโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี แต่ก็มีสัญญาณดีแทรกมาให้น่าชื่นใจ ที่เคยอ้วนก็ความพยายามในการจัดการน้ำหนักตัวของตัวเองเหมือนกัน แถมวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดยังเป็นการออกกำลังกายเสียด้วย ในขณะที่อาหารไดเอต ที่อวดตัวเองว่าน้ำตาลน้อยไขมันต่ำกลับมียอดขายไม่ดีนัก
Mintel บริษัทวิเคราะห์ตลาดของอังกฤษ เผยผลการสำรวจเรื่องการลดความอ้วนของชาวอังกฤษ ในช่วงปี 2013 ที่ผ่านมาว่า
61% ของชาวอังกฤษ จัดว่ามีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ 25% ในจำนวนนี้ เข้าข่ายเป็นโรคอ้วน แต่ก็มีประชาการถึง 29 ล้านคน หันมาลดน้ำหนักตัวในช่วงปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นเพศหญิง 65% ของประชากรหญิงทั้งประเทศ และ 44% สำหรับเพศชาย ซึ่งสัดส่วนของทั้งสองเพศล้วนเพิ่มขึ้นจากปี 2012 แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายต่างก็หันมาใส่ใจเรื่องรูปร่างกันมากขึ้น 60% ของผู้ดูแลรูปร่าง ลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกาย อันเป็นวิธีลดควาอ้วนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2013 48% ลดความอ้วนด้วยการกินน้อยลง และลดหวาน 41% ลดความอ้วนด้วยการกินข้าวปกติ และงดของหวานทุกชนิด 39% ลดความอ้วนด้วยการควบคุมอาหารแบบ 5:2 คือ กินปกติ 5 วัน แล้วกินน้อย หรือเลือกกินแต่อาหารที่ให้พลังงานต่ำเท่านั้นอีก 2 วัน 32% ลดความอ้วนด้วยการควบคุมอาหารแบบวิธี Atkins คือการกินแต่อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำเท่านั้น 25% ลดความอ้วนด้วยการควบคุมอาหารแบบวิธี Dukan คือเน้นกินแต่อาหารโปรตีนสูง ไขมันต่ำ แต่อย่างไรก็ดี 49% ของผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารในปี 2013 ยังคงกลับมาอ้วนอีกจนได้ ถึงแม้ชาวอังกฤษนับสิบ ๆ ล้านคน จะกังวลเรื่องน้ำหนัก ก็มีสาวผู้ดี 5% และหนุ่มผู้ดีอีก 17% ที่บอกว่า ไม่เห็นจะกังวลเรื่องความอ้วนเลยสักนิด อย่างไรก็ดี กระแสการลดน้ำหนักดูแลรูปร่างจะมาแรงมาก ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ยอดขายอาหารเพื่อสุขภาพ หรือที่เน้นว่าเป็นอาหารสำหรับผู้ควบคุมน้ำหนักกลับไม่เติบโตเท่าที่ควร ส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้บริโภคไม่มั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพ กังขาว่าแท้จริงมันให้แคลอรี่ต่ำกว่าอาหารมื้อธรรมดาสักแค่ไหน บางทีอาจแตกต่างกันจริง แต่ก็ในจำนวนที่น้อยมาก ๆ รวมทั้งไม่มั่นใจในเรื่องของส่วนผสมที่ใช้ ซึ่งมักใส่สารให้ความหวานลงไปทดแทนน้ำตาลลงไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าส่วนประกอบอื่น ๆ จะดีต่อสุขภาพมากเท่าใดนัก ทั้งยังเกรงว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เมื่อรับประทานบ่อย ๆ อาจก่อมะเร็งได้ด้วย
นางเอมมา คลิฟฟอร์ด นักโภชนาการวิเคราะห์อาหารของ Mintel กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่เห็นชาวอังกฤษตื่นตัวเรื่องลดความอ้วนและดูแลรูปร่างมากขึ้น อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเลือกที่จะออกกำลังกาย มากกว่าจะพึ่งพาวิธีการควบคุมอาหารแค่เพียงอย่างเดียวด้วย
นับว่าปรากฏการณ์ตื่นตัวเรื่องความอ้วนของชาวอังกฤษในปี 2013 เป็นสิ่งที่บ้านเราควรเอาเยี่ยงอย่างเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการลดความอ้วนควบคุมน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย แทนที่จะเป็นการหาสูตรกินลดความอ้วนสารพัดวิธีมาใช้ กินยาลดความอ้วน หรือจ่ายเงินให้ชุดกระชับสัดส่วนที่อ้างว่าทำให้ผอมลงได้แต่ตัวเองไม่ยอมบริหารร่างกายเลย ยิ่งถ้าได้ทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารอย่างสม่ำเสมอแล้วล่ะก็ รับรองไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักตัวหรือความอ้วนอีกเลยล่ะ
