มาดู 11 สิ่งที่มีผลกระทบต่อความฝันของคุณในเวลาหลับซึ่งอาจทำให้คุณนอนหลับฝันดีหรือฝันร้ายได้ ขอบอกว่าบางทีคุณอาจคาดไม่ถึงเลยล่ะ
ความฝัน เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอในขณะที่หลับ ถึงแม้ว่ายังไม่มีการพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าความฝันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็มีการสันนิษฐานกันไปต่าง ๆ นานา ว่าความฝันนั้นเกิดจากจิตใต้สำนึก บ้างก็สันนิษฐานว่าเกิดจากการทำงานของคลื่นสมอง เป็นต้น ถึงแม้จะไม่รู้สาเหตุก็ตาม แต่ก็มีบางการศึกษาได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับความฝันและพบว่าคนเราจะฝันดีหรือร้ายนั้น ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ที่พบเจอในช่วงระหว่างวัน ทั้งอาหารการกิน การกระทำต่าง ๆ อย่างเช่นที่เว็บไซต์ womansday.com ได้รวบรวมสิ่งที่มีผลเอาต่อความฝันเอาไว้ ซึ่งผ่านการวิจัยแล้วว่ามีความเป็นไปได้ที่ว่าความฝันของเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งเหล่านี้ เราลองไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
กลิ่นกลิ่นสามารถมีผลต่อความฝันของเราได้ ในการศึกษาหนึ่งพบว่าการได้กลิ่นของดอกไม้ในช่วงที่หลับจะช่วยให้นอนหลับฝันดี แต่ถ้าหากได้กลิ่นของกำมะถันในช่วงเวลาหลับจะทำให้ฝันร้าย
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยก็บอกด้วยว่า ถึงแม้เราจะได้กลิ่นหอม ๆ ในช่วงหลับ แต่เราก็ไม่สามารถสร้างฝันดีซ้ำ ๆ ได้ หรือการฉีดน้ำหอมกลิ่นดอกไม้เอาไว้ในห้องนอนก่อนจะถึงเวลานอนไม่สามารถช่วยกระตุ้นให้คุณนอนหลับฝันดีได้ เพราะในกรณีนี้จะเกิดขึ้นกับกลิ่นที่มาอย่างกะทันหันเท่านั้น
หรือกรณีที่มีกลิ่นเบคอนจากห้องครัวลอยเข้ามาในห้องนอน กลิ่นเบคอนก็จะแทรกซึมเข้าไปในความฝันของคุณแทนที่มันจะปลุกให้คุณตื่น ซึ่ง J. Catesby Ware หัวหน้าภาควิชาเกี่ยวกับการนอนหลับจากโรงเรียนแพทย์อีสเทิร์นเวอร์จิเนีย ก็อธิบายว่า ที่เป็นเช่นนี้เพราะความฝันคือสิ่งที่ช่วยปกป้องการหลับของคุณไม่ให้ถูกรบกวนนั่นเอง
เสียงเสียงที่เข้าสู่โสตประสาทของเราในเวลาหลับก็เป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้เราฝันดีหรือฝันร้าย อย่างเช่นเสียงนาฬิกาปลุกอาจทำให้คุณฝันว่ากำลังอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์ไฟไหม้ เพราะเสียงนาฬิกาปลุกนั้นคล้ายกับเสียงสัญญาณเตือนเวลาไหม้ หรือเสียงคลื่นทะเลที่ซัดกระทบหาดทรายก็อาจจะทำให้เราฝันถึงเกี่ยวกับการพักผ่อนที่ทะเล ดังนั้นถ้าหากอยากจะนอนหลับฝันดี ลองหาเสียงธรรมชาติ หรือเสียงเพลงเบา ๆ เปิดคลอไปในช่วงที่นอนหลับก็จะช่วยทำให้ฝันดีได้ค่ะ
อาหารที่มีรสชาติเผ็ดเชื่อว่าหลาย ๆ คน คงจะเคยได้ยินความเชื่อที่ว่าถ้าหากกินเผ็ดแล้วจะทำให้นอนหลับฝันร้าย ซึ่งอาหารที่มีรสชาติเผ็ดก็มีส่วนทำให้ฝันร้ายได้ เพราะฝันร้ายเกิดจากการที่อาหารไม่ย่อยหรืออาการระคายเคืองในกระเพาะอาหารจากการกินของเผ็ดทำให้ไม่สบายท้อง
ดังนั้นถ้าต้องการที่จะนอนหลับฝันดีล่ะก็ ควรจะกินมื้อเย็นก่อนเวลานอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง และถ้าหากก่อนนอนยังหิวก็ควรเลือกกินขนมหรือของว่างที่มีรสชาติอ่อน ๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีการค้นพบว่าคาเฟอีนก็มีส่วนทำให้นอนหลับฝันร้ายได้เช่นกัน ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการนอนหลับฝันร้ายควรจะงดดื่มกาแฟหลังเวลา 14.00 น. เป็นต้นไปค่ะ
การนอนคว่ำเชื่อหรือไม่ว่าการนอนคว่ำทำให้คุณมีฝันที่ติดเรทได้ มีการศึกษาซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Dreaming ค้นพบว่า การนอนคว่ำนั้นมีความเกี่ยวข้องกับฝันที่น่าอายอย่างเช่นการมีเพศสัมพันธ์กับคนดังหรือถูกมัดเอาไว้ โดยนักวิจัยได้ตั้งสมมติฐานว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกับรูปแบบการหายใจในขณะที่นอนท่านี้ ดังนั้นถ้าไม่อยากจะฝันเกี่ยวเรื่องเพศสัมพันธ์ล่ะก็ หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำดีกว่านะจ๊ะ
วิตามินบี 6วิตามินบี 6 หรือ ไพริด็อกซิน เป็นแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อการสร้างน้ำย่อยในกระเพาะอาหารและแมกนีเซียม และมีความจำเป็นในการสร้างแอนติบอดีและเม็ดเลือดแดง โดยมีอยู่ในอาหารจำพวก ยีสต์ รำข้าว จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ถั่วลิสง ถั่วเหลือง วอลนัท กะหล่ำปลี กากน้ำตาล แคนตาลูป ไข่ ตับ ปลา ซึ่งไม่มีการวิจัยใดค้นพบว่าการไม่ได้รับวิตามินบี 6 นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า ฝันรู้ตัว ซึ่งก็คือการฝันโดยที่เรารู้สึกตัวและสมองสามารถควบคุมความฝันเหล่านั้นได้
แต่ในอินเทอร์เน็ต กลับมีรายงานในทางตรงกันข้าม ซึ่งดอกเตอร์ Deirdre Barrett ผู้ช่วยศาสตราจารย์คลินิกจิตเวชแห่งโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ดในบอสตัน และผู้เขียนหนังสือ The Committee of Sleep ได้เปิดเผยว่า "วิตามินบี 6 เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเปลี่ยนกรดอะมิโนบางส่วนที่เรากินเข้าไปให้กลายเป็นสารสื่อประสาทที่มีผลกระทบต่อความฝัน"
นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า การกินอาหารเสริมวิตามินบี 6 มากเกินกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวันอาจจะทำให้เกิดอาการฝันรู้ตัว ซึ่งในอนาคตจะทำให้เส้นประสาทเกิดความเสียหายและอาการชาได้ ดังนั้นจึงควรจะลดการกินอาหารเสริมวิตามินบี 6 และควรบริโภคให้เพียงพอต่อความต้องการต่อวันเท่านั้น
ยาแก้อาการซึมเศร้า แม้ว่ายาแก้อาการซึมเศร้าจะช่วยทำให้ผู้ป่วยสงบลงได้ แต่การใช้ยาชนิดนี้ก็อาจจะทำให้ฝันร้ายได้ โดยเฉพาะยาในตระกูล SSRI อย่างเช่น Prozac, Paxil และ Zoloft ซึ่งถูกใช่ในการยับยั้งการเก็บกลับของสารเซโรโทนิน ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการนอนหลับในระยะ REM (Rapid-Eye Movement sleep) โดยดอกเตอร์ Barrett ได้อธิบายว่า การนอนหลับในช่วง REM จะเป็นช่วงที่ลูกตาจะกลอกไปมาเป็นระยะ ๆ และเป็นช่วงที่คนเราจะฝัน แต่ยาในตระกูล SSRI จะเข้าไปรบกวนระบบประสาทและทำให้เกิดฝันร้าย
ดังนั้นถ้าหากใช้รู้สึกทรมานในขณะที่ยังใช้ยาชนิดนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนยาเป็นยาที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม ดอกเตอร์ Barrett ก็บอกว่า ถึงแม้ยาในตระกูล SSRI จะเป็นสาเหตุของการเกิดฝันร้าย แต่ก็จะมีการส่งผลกระทบต่อสมองของแต่ละคนแตกต่างกันไป
การเลิกสูบบุหรี่มีการวิจัยพบว่านักสูบ 63% ที่เลิกสูบบุหรี่ไปแล้วยังคงฝันถึงการสูบบุหรี่อยู่ถึงแม้จะผ่านมาแล้ว 1 ปี โดย Patrick McNamara ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการวิวัฒนาการทางสมองแห่งโรงเรียนแพทย์บอสตันในบอสตัน กล่าวว่า จริงอยู่ที่คุณอาจจะเลิกสูบบุหรี่ไปแล้วแต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การละความสนใจไป ซึ่งความจริงแล้วคุณยังคงต้องการสูบบุหรี่อยู่ และสารนิโคตินที่สะสมอยู่นั้นจะทำให้สมองการเกิดฝันเกี่ยวกับการสูบบุหรี่เพื่อแสดงออกถึงความต้องการเหล่านั้น และยังได้แนะนำอีกว่าควรที่จะเลิกบุหรี่ให้เด็ดขาดเพื่อให้เซลล์ประสาทต่าง ๆ ได้กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อปอดของคุณอีกด้วย
โทรทัศน์ขาวดำข้อนี้ต้องย้อนถามคุณลุงคุณป้าที่เกิดมาทันยุคโทรทัศน์ขาวดำ แล้วเติบโตขึ้นมาในช่วงที่โทรทัศน์สีกำลังเริ่มแพร่หลายเลยล่ะ เพราะมีงานวิจัยพบว่า คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะฝันเป็นสีขาวดำได้ โดยการศึกษาของนักวิจัยชาวอังกฤษพบว่า คนที่ดูโทรทัศน์ขาวดำในช่วงอายุ 3 - 10 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่คนเริ่มจะมีความฝัน มีไม่มากนักที่เมื่อโตขึ้นแล้วจะเปลี่ยนแปลงสีในความฝันได้ ดังนั้น ถึงแม้ว่าคนกลุ่มนี้จะโตขึ้นแล้วได้ดูโทรทัศน์สีแทนการดูโทรทัศน์ขาวดำ ก็ไม่ได้ทำให้ฝันมีสีสันขึ้นมาแต่อย่างใด
การเข้านอนในขณะที่ยังหิวการเข้านอนในขณะที่ยังหิว อาจจะทำให้คุณฝันเกี่ยวกับอาหารได้ และระดับน้ำตาลในเลือดที่ต่ำนั้นจะทำให้คุณต้องตื่นขึ้นมากลางดึก ซึ่งจะทำให้คุณจดจำฝันเหล่านั้นได้และรู้สึกหิวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ดังนั้นหากคุณรู้สึกหิวในเวลากลางคืน การกินกล้วยและดื่มนมพร่องมันเนยก็เป็นตัวเลือกที่ดี แถมในอาหารเหล่านี้ยังมีสารทริปโตฟานซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ทำให้เกิดอาการง่วง สามารถช่วยให้คุณนอนหลับได้สนิทมากขึ้นอีกด้วย
การดูหนังสยองขวัญก่อนนอนเราคงเคยได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าการดูหนังผีก่อนนอนจะทำให้เราฝันร้ายถึงผี นั่นก็เป็นเพราะสิ่งที่เราทำก่อนนอนไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง การอ่านหนังสือ หรือรายการโทรทัศน์ที่ดู สิ่งเราเรารับเข้าไปนั่นล่ะ มักจะกลายเป็นสิ่งที่อยู่ในความฝันของเรา
ดังนั้นถ้าไม่อยากจะฝันร้ายล่ะก็ ควรจะหลีกเลี่ยงการดูหนังสยองขวัญ แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อดูจบแล้วก็ควรจะปล่อยให้สมองของคุณนึกถึงเรื่องที่ทำให้คุณมีความสุขอย่างเช่นความทรงจำเกี่ยวกับการพักร้อน หรือเรื่องสมัยเด็ก ก่อนที่คุณจะนอนหลับ ก็จะทำให้คุณนอนหลับฝันดีได้ล่ะ
การตั้งครรภ์และระยะหลังคลอดคงมีบรรดาคุณแม่มือใหม่หรือว่าที่คุณแม่จำนวนไม่น้อยที่ฝันร้ายในช่วงที่ตั้งครรภ์หรือหลังคลอด โดยอาจจะฝันว่าลูกน้อยของคุณหายตัวไป ซึ่งทำให้คุณกระสับกระส่ายหรือถึงขนาดสะดุ้งตื่นขึ้นมาคว้าสามีของคุณที่นอนอยู่ข้างกายให้ช่วยตามหาลูก
ความฝันเหล่านี้เป็นเพียงความฝันที่เกิดจากความกังวล มีการวิจัยพบว่าการเกิดความฝันแบบนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดจากการนอนไม่พอและความผันผวนของระดับฮอร์โมในร่างกาย ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงที่ตั้งครรภ์และหลังคลอด ดังนั้นไม่ต้องกังวลอะไรเพราะความฝันเหล่านี้เป็นสัญญาณที่สมองของคุณกำลังช่วยทำให้คุณปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตได้ค่ะ
ทั้งหมดนี้คือปัจจัยบางส่วนที่ทำให้เกิดความฝันที่ดีและร้ายได้ ดังนั้นถ้าอยากนอนหลับฝันดีก็ควรจะหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกในเชิงลบก่อนเข้านอนนะคะ เพื่อที่จะได้มีฝันที่ดีและนอนหลับได้อย่างเพียงพอดีต่อสุขภาพค่ะ
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ 
