เลปติน ฮอร์โมนความอิ่ม พิชิตความอ้วน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ทำความรู้จักกับฮอร์โมนเลปติน หรือฮอร์โมนความอิ่ม ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีผลต่อความอ้วน ให้ดียิ่งขึ้น มาดูกันสิว่าเจ้าฮอร์โมนตัวนี้มีผลอย่างไรกับความอ้วนบ้าง

          ความอ้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากพบเจอ ทำให้หลายคนต้องออกกำลังกาย และควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด รวมถึงรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งวิธีเหล่านี้สามารถช่วยได้จริง แต่ก็ต้องทำควบคู่ไปกับการดูแลปริมาณฮอร์โมนเลปตินด้วย แต่ว่าเจ้าฮอร์โมนชนิดนี้คืออะไร ส่งผลอย่างไรกับร่างกาย ช่วยทำให้ผอมได้จริงเหรอ แล้วเราจะดูแลระดับเจ้าฮอร์โมนอย่างไรให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมละ ไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไปแล้วค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปรู้จักกับฮอร์โมนชนิดนี้ให้มากขึ้น ถ้าไม่อยากอ้วนละก็รีบอ่านด้วยเลยค่ะ

          เลปติน (Leptin) หรือที่มีชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งว่า ฮอร์โมนความอิ่ม ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) เป็นฮอร์โมนชนิดหนึงที่ผลิตขึ้นจากเซลล์ไขมัน โดยฮอร์โมนชนิดนี้ทำหน้าที่ในการส่งสัญญาณจากเซลล์ไขมันไขมันไปยังเซลล์สมองในส่วนไฮโปธาลามัส (Hypothalamus) เพื่อให้หยุดความอยากอาหาร และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถ้าหากมีไขมันสูง ปริมาณของของเลปตินก็จะถูกสร้างมากขึ้น เพื่อช่วยในการเผาผลาญ แต่ถ้าหากมีไขมันน้อย เลปตินก็จะถูกสร้างน้อยลง


เลปตินกับความอ้วน

          เลปตินไม่ใช่ฮอร์โมนที่ทำให้อ้วน แต่ความผิดปกติของฮอรโมนเลปติน ที่เรียกว่า ภาวะดื้อเลปติน นี่ต่างหากละค่ะ ที่ทำให้เราอ้วน ซึ่งภาวะดื้อเลปตินนี้เป็นภาวะที่ร่างกายต่อต้านฮอร์โมนชนิดนี้ทำให้เกิดหิวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเลปตินไม่สามารถส่งสัญญาณไปยังสมองได้ ทำให้กินเท่าไรก็ไม่รู้จักอิ่ม แถมยังทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานช้าลงอีกด้วย โดยภาวะการขาดเลปตินนั้น เกิดจากการนอนน้อย ซึ่งแพทย์ได้มีการวิจัยว่า การนอนน้อยทำให้เกิดความอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูงและของหวาน ดังนั้นจึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และเลือกรับประทานน้ำตาลจากผลไม้แทนน้ำหวาน

วิธีรักษาภาวะดื้อเลปตินและสร้างสมดุลของฮอร์โมนเลปติน

          ภาวะดื้อเลปตินไม่สามารถรักษาได้ด้วยยา แต่สามารถทำให้ลดลงได้ด้วยการปรับให้ฮอร์โมนเลปตินมีความสมดุล โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกาย เพื่อให้ระดับฮอร์โมนเกิดความสมดุล โดยอีกวิธีหนึ่งก็คือการกินผักทุกวัน 1 ถ้วย ก่อนเวลา 10 โมงเช้า ซึ่งวิธีนี้แพทย์ด้านระบบต่อมไร้ท่อ ในแอตแลนต้าได้ยืนยันว่าจะช่วยทำให้ลดความอยากอาหารลดลง นอกจากนี้ไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในผักยังช่วยลดอาการอักเสบที่ไปรบการกวนทำงานของเลปติน ช่วยทำให้ระบบการเผาผลาญไขมันเพิ่มขึ้นอีกด้วย


เราจะสร้างเสริมเลปตินในร่างกายได้อย่างไร

          เนื่องจากเลปตินเป็นฮอร์โมนที่อยู่ในร่างกาย และไม่มีอาหารใดที่มีสารเลปติน เราจึงต้องสร้างเสริมฮอร์โมนชนิดนี้ด้วยการรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะระดับน้ำตาลในเลือดที่เกิดการแปรปรวนนั้นสามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะดื้อเลปตินง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังควรรับประทานอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่ดีให้มากขึ้น ซึ่งคาร์โบไฮเดรตที่ดีนั้นได้แก่ ธัญพืชชนิดต่าง ๆ แต่ก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งพบมากในเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม และที่ขาดไม่ได้ก็คือการพักผ่อนทีเพียงพอ ก็สามารถทำให้เลปตินเกิดความสมดุลและป้องกันภาวะดื้อได้อีกด้วยละค่ะ

          ฮอร์โมนเลปติน เป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อร่างกาย ซึ่งหากเกินความผิดปกติเพียงนิดเดียวก็อาจจะทำให้ร่างกายเผชิญกับความอ้วนได้ และถ้าหากใครรู้สึกว่าตัวเองอ้วนจนเกินไป ทั้ง ๆ ที่เราก็ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้วละก็ ควรไปพบแพทย์จะดีกว่านะคะ เพราะไม่แน่ว่าอาจจะเกิดความผิดปกติทางร่างกายขึ้นจนทำให้เลปตินไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่นะคะ