หลายคนสงสัยว่ากินไก่จะสูงไหม หรือบ้างก็กลัวว่ากินไก่มาก ๆ เสี่ยงโรคเกาต์ ข้อเข่าเสื่อม เอ...ประเด็นนี้ต้องเคลียร์ให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
เรารู้ว่าไก่เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง โดยเฉพาะอกไก่ที่ไม่ค่อยจะมีหนัง ไขมันน้อย แต่กระแสที่บอกว่าเนื้อไก่ที่เรากินกันทุกวันนี้มีสารปนเปื้อนซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างหน้าอกใหญ่ เป็นซีสต์ หรือเสี่ยงโรคเกาต์ก็ตาม ประเด็นเหล่านี้จริงแท้แค่ไหน แล้วคนที่กินไก่ทุกวันจะเป็นอันตรายหรือเปล่า กระปุกดอทคอมหาคำตอบมาให้แล้วค่ะ
เนื้อไก่จัดเป็นแหล่งของโปรตีนในอันดับต้น ๆ ของบรรดาเนื้อสัตว์ทั้งหลาย ดังนั้นการกินเนื้อไก่ก็จะได้โปรตีนจากไก่ไปช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมไปถึงช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดมายืนยันว่ากินไก่แล้วจะช่วยเพิ่มความสูงให้ร่างกายได้นะคะ เพราะวิธีเพิ่มความสูงให้ร่างกายต้องอาศัยหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งการกินอาหารแคลเซียมสูง และการออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นโกรทฮอร์โมน รวมไปถึงการออกกำลังกายช่วยให้กล้ามเนื้อและกระดูกยืดตัวด้วย
- วิธีทำให้สูงขึ้นแบบไม่แคร์มีดหมอ แต่ขอให้กินตามนี้นี่ล่ะ !
- 7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง
- 15 วิธีออกกำลังกายเพิ่มส่วนสูง + ช่วยลดน้ำหนัก ตัดปัญหาอ้วนเตี้ยม้วนเดียวจบ
ตามข้อมูลจากกองโภชนาการ กรมอนามัย แสดงคุณค่าทางอาหารของเนื้อไก่สด ไม่ลอกหนัง ปริมาณ 100 กรัม โดยพบว่า เนื้อไก่ให้พลังงาน 165 กิโลแคลอรี โปรตีน 19.5 กรัม และมีไขมัน 9.7 กรัม ซึ่งจัดว่าเนื้อไก่ให้พลังงานเยอะพอสมควร ทว่าหากจะเลือกกินไก่ในส่วนที่ไขมันน้อย อย่างอกไก่ไร้หนัง ก็จะช่วยลดไขมันและแคลอรีจากการกินไก่ไปได้มาก อย่างข้อมูลของสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า เนื้อไก่ไม่ติดหนัง 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม) จะมีไขมันเพียงแค่ 3 กรัม และคอเลสเตอรอล 18 มิลลิกรัมเท่านั้นเองค่ะ
นอกจากนี้วิธีการปรุงเนื้อไก่แบบไม่อ้วนก็ควรใช้วิธีนึ่ง ต้ม ย่าง แทนการทอด ผัด หรือกระบวนการที่ต้องใช้น้ำมันนะคะ ที่สำคัญควรควบคุมปริมาณการกินอาหารไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ หรืออาหารทุกประเภท พร้อมกับหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะได้ไม่มีน้ำหนักเกินหรือไม่อ้วนนั่นเอง
กินไก่ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้นจริงไหม ?
มักจะมีข่าวลือที่แชร์ต่อ ๆ กันมาว่า กินไก่เยอะหน้าอกจะใหญ่ เพราะเนื้อไก่มีฮอร์โมนช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์กล้ามเนื้อ แต่ก่อนจะแชร์เราอยากเผยข้อมูลที่ชัวร์ให้ได้ทราบกันก่อนค่ะว่า ไก่ที่ถูกวางจำหน่ายในท้องตลาดทุกวันนี้เป็นไก่ที่ไม่ได้รับการฉีดฮอร์โมนเพื่อเร่งการเจริญเติบโตอย่างแน่นอน เนื่องจากการฉีดฮอร์โมนในไก่ถือว่าผิดกฎหมาย และมีการห้ามใช้ฮอร์โมนในไก่มาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 แล้ว
อีกทั้งการฉีดฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตในไก่ยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุนด้วย เพราะต้องไล่ฉีดฮอร์โมนไก่ทุกตัวและทุกวัน ซึ่งคงไม่มีฟาร์มไหนยอมลงทุนขนาดนั้น เนื่องจากปัจจุบันการเพาะเลี้ยงไก่ก็มีวิวัฒนาการทางด้านสายพันธุ์ ที่ปรับปรุงสายพันธุ์ไก่มาให้เหมาะสมกับการเป็นไก่เนื้อ รวมไปถึงอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงไก่ก็มีมาตรฐาน และอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายการเพาะเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากเราส่งออกเนื้อไก่ไปต่างประเทศด้วยนะคะ ดังนั้นหากไก่ไม่ได้มาตรฐานเราก็จะไม่สามารถส่งเนื้อไก่ไปขายต่างชาติได้นั่นเอง
ดังนั้นประเด็นที่ว่ากินไก่เยอะ ๆ จะช่วยให้นมใหญ่จากฮอร์โมนในไก่ได้ไหม ตอบเลยว่าไม่มีทาง ทว่าหากอยากอัปไซส์ดูม ๆ เรามีวิธีช่วยนะ
- ท่าออกกำลังกายเพิ่มหน้าอก 8 ท่าง่าย ๆ ฟิตเป็นประจำเพื่อหน้าอกไซส์ดูมดูม !
ประเด็นนี้ก็คล้าย ๆ กับกินไก่แล้วหน้าอกจะใหญ่ เพราะเขาเคลมว่าไก่มีฮอร์โมนที่ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเด็กและกล้ามเนื้อได้ ทว่าข้อมูลนี้ไม่จริงเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าในสมัยนี้ไม่มีใครฉีดฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตของไก่กันแล้ว ต้นทุนก็สูง เสี่ยงผิดกฎหมายอีก ยังไงก็ไม่คุ้มแน่นอน ดังนั้นข้อสงสัยว่ากินไก่แล้วจะโตเร็วกว่าวัยก็เป็นอันตกไป ไม่มีมูลความจริง
อย่างไรก็ตาม ภาวะโตก่อนวัยของเด็ก ๆ ในสมัยนี้อาจมีเหตุมาจากพฤติกรรมการกินอาหาร โดยเฉพาะอาหารฟาสต์ฟู้ด และอาหารไขมันสูง ซึ่งก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็ก ๆ ได้รับคอเลสเตอรอลและไขมันมากเกินไปจนมีภาวะอ้วน ซึ่งอาจส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติไปด้วย และทำให้เด็กดูโตเกินไวไปบ้าง
- โรคเป็นสาวก่อนวัย ภาวะที่ต้องใส่ใจถ้าไม่อยากให้เกิดเรื่องร้ายกับลูกหลาน
กินไก่แล้วเป็นเกาต์ ปวดเข่า ปวดขา ?
โรคเกาต์เกิดจากภาวะร่างกายที่มีสารยูริกมากเกินไป ซึ่งกรดยูริกในเลือดนี้เป็นกรดที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเอง โดยที่อาหารเป็นปัจจัยเพิ่มกรดยูริกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไก่ซึ่งเป็นสัตว์ปีกก็มีกรดยูริกในตัวเองอยู่ไม่มากเท่าไร กล่าวคือผู้ที่เป็นโรคเกาต์ส่วนมากจะเกิดจากภาวะร่างกายสร้างกรดยูริกมากเกินปกติ โดยหากตรวจเลือดจะต้องเจอกรดยูริกในปริมาณเกินกว่า 7 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ในผู้ชาย และ 6 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ในผู้หญิง ร่วมกับตรวจพบอาการปวดข้อ ปวดกระดูก ข้อบวม ขาบวม จึงจะวินิจฉัยว่าเป็นโรคเกาต์ได้ แต่หากตรวจพบระดับยูริกในเลือดสูงเกินไปทว่าไม่มีอาการปวดข้อต่าง ๆ ก็ไม่จัดว่าเป็นโรคเกาต์นะคะ
ฉะนั้นการกินไก่เยอะแล้วเป็นเกาต์อาจเป็นไปได้น้อย เพราะร่างกายคนเรามีระบบขับยูริกออกมาพร้อมกับปัสสาวะอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ชอบกินไก่มาก ๆ และมีอาการปวดขา ปวดข้อ จะลองไปตรวจเกาต์ดูก็ได้ค่ะ
เป็นเกาต์ กินอกไก่ได้ไหม ?
สัตว์ปีกอย่างไก่ และเครื่องในสัตว์ รวมไปถึงผักกินยอดอย่างกระถิน ชะอม มักจะถูกมองว่าเป็นอาหารต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์ แต่จริง ๆ แล้ว ผู้ป่วยโรคเกาต์ที่ได้รับการรักษาและกินยาตามแพทย์สั่งอย่างต่อเนื่องสามารถกินไก่ได้ตามปกตินะคะ เพียงแต่อาจจะต้องสลับกินไก่กับเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ เพิ่มเข้าไปเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามหลักโภชนาการที่ถูกที่ควร
สาเหตุของการเกิดสิวอาจไม่ใช่เพราะการกินไก่ แต่อาจเกิดจากพฤติกรรมกินอาหารไขมันสูง อาหารที่มีน้ำตาลสูง น้ำหวาน ฟาสต์ฟู้ดซะมากกว่า เนื่องจากน้ำตาลเป็นตัวการทำร้ายเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณไม่สดใส ผิวพรรณแก่กว่าวัยอันควร อีกทั้งการบริโภคอาหารไขมันสูงมาก ๆ ก็จะทำให้ไขมันอุดตันรูขุมขน ก่อให้เกิดสิวบนใบหน้าได้ในที่สุด
ดังนั้นการกินไก่แล้วสิวขึ้นนั่นก็อาจจะเป็นเพราะคุณเสพติดไก่ทอด ไก่ย่าง หรือชอบกินหนังไก่ ซึ่งเป็นอาหารที่มีไขมันสูงอย่างที่บอก
การบริโภคอาหารเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ย่อมไม่ดีต่อร่างกายแน่นอนค่ะ เพราะจะทำให้ร่างกายไม่ได้รับอาหารครบ 5 หมู่อย่างที่ควรจะเป็น ยิ่งหากคุณกินไก่ทอด ไก่ย่าง ทุกวัน อันตรายจากน้ำมันที่ใช้ทอดไก่และกระบวนการปิ้งย่างอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพได้มากขึ้นด้วยนะคะ ฉะนั้นจะกินอาหารอะไรก็ตามควรกินอย่างพอเหมาะ ที่สำคัญควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะ
กินไก่ดิบ เสี่ยงโรค !
ในเนื้อไก่ดิบหรือเนื้อไก่ที่ปรุงไม่สุกดี อาจมีเชื้อแบคทีเรียชนิด Samonella Capylobacter Vibrio และเชื้ออีโคไลแฝงอยู่ ซึ่งเชื้อเหล่านี้เป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษและท้องร่วงอย่างรุนแรงกับเรา นอกจากนี้หากอยู่ในช่วงที่โรคไข้หวัดนกระบาด การกินไก่ดิบก็สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพก็ควรกินไก่ที่ผ่านการปรุงสุกอย่างเต็มที่แล้วจะดีกว่า
ได้คลายสงสัยคำถามเกี่ยวกับเรื่องไก่ ๆ ไปพอสมควรแล้ว เราก็อยากจะทิ้งท้ายสักนิดค่ะว่า การบริโภคอาหารชนิดไหนก็ตาม ควรใส่ใจในเรื่องความสด สะอาด และถูกสุขอนามัย โดยเฉพาะหากเป็นเนื้อสัตว์ ผักสด ของสด ๆ ที่อาจมีเชื้อแบคทีเรียและไวรัสแฝงตัวอยู่ กินร้อน ปรุงสุกใหม่ เซฟต่อสุขภาพของเราได้ดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ
กองโภชนาการ กรมอนามัย
สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
ชัวร์ก่อนแชร์
มหิดล ชาแนล
เพลินทีวี
