เป็นเมนส์กินของเย็นได้ไหม ห้ามกินน้ำเย็น ห้ามสระผมจริงหรือเปล่า ?

          หลายคนไม่กล้าดื่มน้ำเย็น กินน้ำแข็ง หรือกินของเย็น ๆ ในช่วงประจำเดือนมา เพราะกลัวว่าเลือดประจำเดือนจะหยุดไหล หรือแข็งตัวกลายเป็นลิ่ม แต่ที่จริงแล้วการรับประทานของเย็น ๆ ไม่ได้ส่งผลต่อประจำเดือนอย่างที่คิดค่ะ

          เหตุผลก็คือ น้ำและอาหารที่เข้าสู่ร่างกายจะถูกส่งต่อไปยังกระเพาะอาหารและลำไส้ อยู่ในกระบวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร ในขณะที่การมีประจำเดือนเกี่ยวข้องกับมดลูกในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้แยกจากกัน ดังนั้น การดื่มน้ำเย็นหรือกินของเย็น ๆ ไม่ได้ทำให้เลือดประจำเดือนหยุดไหล ไม่ได้ทำให้เลือดเป็นลิ่ม และไม่ได้มีผลโดยตรงต่อการบีบตัวของมดลูกที่ทำให้ปวดท้องประจำเดือน

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีประจำเดือน ภูมิคุ้มกันในร่างกายของผู้หญิงจะลดลงอยู่แล้ว การดื่มน้ำเย็นหรือกินของเย็นจัด ๆ จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลง ก็อาจทำให้เจ็บป่วยหรือไม่สบายได้ง่าย นอกจากนี้บางคนเมื่อกินของเย็นจัดอาจมีอาการท้องอืด ท้องเสียอยู่บ้างเหมือนกัน ฉะนั้นควรเลือกรับประทานของที่ไม่เย็นจัดจนเกินไป และรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเหล่านี้ หรือถ้าให้ดีก็ดื่มน้ำอุ่นและน้ำอุณหภูมิห้องจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น

          เขาว่ากันว่า ประจำเดือนมาห้ามสระผม ห้ามอาบน้ำเย็น เพราะจะทำให้เลือดหยุดไหล หรือป่วยได้ เรื่องนี้ก็ไม่จริงอีกเช่นกัน โดยยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าการอาบน้ำเย็นหรือการสระผมจะส่งผลเสียต่อประจำเดือน ในทางกลับกัน ยิ่งเป็นช่วงที่เมนส์มา คุณผู้หญิงยิ่งต้องรักษาความสะอาดและดูแลสุขอนามัยให้ดีเป็นพิเศษ จึงควรอาบน้ำ สระผม เพื่อให้รู้สึกสบายตัวขึ้น

          อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ผู้หญิงมีประจำเดือนเป็นช่วงที่ฮอร์โมนแปรปรวน ร่างกายอยู่ในโหมดอ่อนแออยู่แล้ว ย่อมส่งผลต่อความแข็งแรงของเส้นผมด้วย ดังนั้น การสระผมในช่วงนี้อาจทำให้ผมขาดหลุดร่วงมากกว่าปกติ เจอแบบนี้ก็ไม่ต้องตกใจไปค่ะ หากไม่อยากให้ผมร่วงมากก็ควรใช้น้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิปกติในการสระผม หลีกเลี่ยงน้ำเย็น และเป่าผมให้แห้งสนิทหลังสระผมเสร็จ ก็พอจะลดปัญหาผมร่วงได้เช่นกัน

          แต่สำหรับสาว ๆ ที่มีประจำเดือนแล้วตัวร้อน ครั่นเนื้อครั่นตัว ไข้ขึ้น หรือที่เรียกว่า ไข้ทับระดู กรณีนี้ก็ควรงดเว้นการอาบน้ำ สระผมไปก่อนดีกว่า เพราะการอาบน้ำเย็นหรือสระผมจะยิ่งทำให้รู้สึกหนาวสั่น อ่อนเพลีย ไม่มีแรง อาจประสบอุบัติเหตุขณะอาบน้ำได้ รวมทั้งไข้ไม่ลดลงด้วย

          ยาพาราเซตามอลเป็นยาแก้ปวดที่สามารถใช้บรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ค่ะ โดยหากปวดไม่รุนแรงมากให้รับประทานยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 1-2 เม็ด (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว) วันละ 3-4 ครั้ง ห่างกันทุก 6 ชั่วโมง เมื่อปวดประจำเดือน

          ส่วนคนที่มีอาการปวดระดับปานกลางถึงมาก อาจใช้ยาแก้ปวดชนิดเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น พอนสแตน หรือใช้ยาไอบูโพรเฟน ซึ่งบรรเทาปวดได้ดีกว่าพาราเซตามอล แต่มักระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารมากกว่า หากใช้เป็นประจำอาจเกิดแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ จึงควรระมัดระวังในการใช้ยา

• เป็นเมนส์ควรกินอะไร เสริมสุขภาพช่วงประจำเดือนมาด้วยอาหารให้ดีเต็มแม็กซ์
• เป็นเมนส์ไม่ควรกินอะไร 7 อาหารต้องเลี่ยง ถ้าไม่อยากปรี๊ดแตกตอนเป็นประจำเดือน
• เป็นประจำเดือนดื่มเหล้า-กาแฟ ได้ไหม จะส่งผลต่อร่างกายยังไงบ้าง
• เป็นประจำเดือนกินทุเรียนได้ไหม ใช่ของแสลงหรือเปล่า
• เป็นประจำเดือนกินน้ำมะพร้าวได้หรือไม่ เรื่องแบบนี้สาว ๆ ต้องรู้