กินเผ็ดแล้วแสบท้อง โทษของการกินเผ็ดมีอะไรบ้าง

คนชอบกินเผ็ดจัดต้องระวังให้ดี กินเผ็ดบ่อย ๆ สุขภาพโดนผลกระทบไม่น้อยเหมือนกัน เช็กเลยโทษของการกินเผ็ดมีอะไรบ้าง

เคยไหมคะที่กินอาหารรสจัด อาหารเผ็ด ๆ แล้วท้องเสีย ปวดมวนท้อง หรือบางคนมีอาการแสบร้อนท้องก็มี นั่นก็เพราะกินอาหารแซ่บ ๆ ส่งผลร้ายต่อสุขภาพได้ยังไงล่ะ มาดูกันเลยว่าโทษของการกินเผ็ดก่อให้เกิดอาการผิดปกติยังไงบ้าง

อันตรายจากการกินเผ็ดจัด

1. ระคายเคืองกระเพาะอาหาร

ความเผ็ดที่มีอยู่ในตัวพริกอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองที่เยื่อบุต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะในส่วนกระเพาะอาหาร ที่ต้องรองรับอาหารเผ็ด ๆ ตั้งแต่เรากินเข้าไปจนกว่าอาหารจะถูกย่อยจนหมด ดังนั้นจึงอาจเกิดอาการแสบท้องเมื่อกินเผ็ดได้ ส่วนคนที่เป็นโรคกระเพาะอยู่แล้ว ก็อาจทำให้อาการโรคกระเพาะกำเริบด้วย

2. กรดไหลย้อนกำเริบ

พริกมีความเป็นกรดในตัวเอง ดังนั้นหากกินเผ็ดมาก ๆ กินพริกจำนวนมาก ความเป็นกรดในพริกอาจเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร กระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อนขึ้นมาได้ หายสงสัยแล้วใช่ไหมคะว่าทำไมบางทีกินเผ็ดแล้วแน่นหน้าอก แสบร้อนกลางอกแปลก ๆ ก็เพราะกรดเกินนั่นเอง

3. ท้องเสีย

หลายคนกินเผ็ดแล้วท้องเสีย นั่นเป็นเพราะว่า สารแคปไซซินในพริกมีฤทธิ์ทำให้เกิดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร และร่างกายเราไม่สามารถย่อยสารแคปไซซินได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ร่างกายจึงต้องขับสารแคปไซซินที่ไม่ถูกย่อยในระบบอาหารออกมาในรูปแบบการขับถ่าย

นอกจากนี้สารแคปไซซินในพริกยังมีความเผ็ดร้อน ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น และเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ร่างกายจะมีกลไกช่วยระบายความร้อน โดยขับให้เหงื่อออก และกระตุ้นให้เรากินน้ำเข้าไปมาก ๆ ทำให้เราถ่ายเหลว คล้าย ๆ อาการท้องเสียนั่นเอง

4. กระตุ้นอาการภูมิแพ้จมูก

การกินเผ็ดจัดสามารถกระตุ้นให้อาการภูมิแพ้จมูกกำเริบหรือรุนแรงขึ้นได้ด้วย เพราะสารแคปไซซินในพริกจะไปกระตุ้นเส้นประสาทรับความรู้สึกในเยื่อบุจมูกและคอ ทำให้น้ำมูกไหล คัดจมูก มีเสมหะเพิ่มขึ้น และอาการจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นในคนที่เป็นภูมิแพ้จมูกอยู่ก่อนแล้ว

5. กระเพาะปัสสาวะระคายเคือง

ในคนที่มีปัญหากระเพาะปัสสาวะบีบตัวไว หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง ควรระวังการกินเผ็ดจัด ซึ่งสารแคปไซซินในพริกจะถูกขับออกจากปัสสาวะ และไปกระตุ้นเยื่อบุผนังกระเพาะปัสสาวะ ทำให้กระเพาะปัสสาวะบีบตัวบ่อยกว่าปกติ ส่งผลให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย รู้สึกแสบ หรือปัสสาวะไม่สุด

6. โรคริดสีดวงทวาร และแผลที่ทวารหนัก

อาหารเผ็ดจัดจะไปเร่งการบีบตัวของลำไส้ ทำให้อุจจาระเหลวหรือถ่ายบ่อยขึ้น และยิ่งเบ่งถ่ายบ่อย ๆ เยื่อบุรอบทวารหนักก็ยิ่งถูกเสียดสีและระคายเคือง หรือมีอาการแสบ อีกทั้งความดันในหลอดเลือดดำรอบทวารยังเพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้เกิดรอยฉีกหรือแผลที่ทวารหนัก จนถึงขั้นริดสีดวงทวารกำเริบได้เลยในคนที่เคยเป็นโรคนี้

7. นอนไม่หลับ

เคยเป็นไหม เวลานั่งกินส้มตำหรืออาหารแซ่บ ๆ ตอนกลางคืนแล้วนอนไม่ค่อยจะหลับ สาเหตุก็มาจากเจ้าสารแคปไซซินนี่เองที่ส่งสัญญาณไปที่สมอง ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความดันสูงขึ้น อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น ร่างกายจะรู้สึกตื่นตัวจนไม่สามารถนอนหลับได้ หรือแม้ว่าหลับได้แล้วก็อาจตื่นกลางดึกได้ง่าย เมื่อตื่นขึ้นมาจะเพลียกว่าปกติ

8. อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง

การกินเผ็ดมากเกินไปร่วมกับอาหารร้อนจัดอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งหลอดอาหาร เพราะอุณหภูมิที่สูงจะไปทำลายเยื่อบุหลอดอาหาร ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งจะมีความเสี่ยงมากขึ้นในคนที่มีอาการของโรคแผลในกระเพาะอาหารจากการติดเชื้อ H. pylori หรือป่วยเป็นกรดไหลย้อนอยู่ก่อนแล้ว สอดคล้องกับการศึกษาบางชิ้นที่พบว่า คนที่กินเผ็ดมากเป็นประจำ อาจมีอัตราการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารสูงขึ้น

นอกจากนี้ หากกินพริกแห้งหรือพริกป่นที่ไม่สะอาด มีการปนเปื้อนเชื้อรา Aspergillus ซึ่งมีความสามารถในการผลิตสารพิษอะฟลาท็อกซิน ก็ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ากินเผ็ดแล้วจะเป็นมะเร็งเสมอไป ยังต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น พฤติกรรมการรับประทานอาหารประเภทอื่น เช่น ชอบกินอาหารปิ้ง-ย่างหรือหมักมองหรือไม่ รวมถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็ง เช่น ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ นอนดึก และยังต้องพิจารณาความเสี่ยงเรื่องกรรมพันธุ์อีกด้วยนะคะ

อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดี เลือกกินในปริมาณที่เหมาะสมดีกว่า อย่างรสชาติเผ็ด ๆ แซ่บ ๆ กินมากเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างที่เห็น และขอเตือนว่าอย่าคิดแกล้งกันแปลก ๆ ด้วยการให้เพื่อนกินเผ็ดจัด ๆ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนไปทั้งร่างกายได้เลยนะคะ