10 วิธีป้องกันฮีตสโตรก (ลมแดด) ถ้าต้องตากแดดร้อนจัดนาน ๆ

          โรคฮีตสโตรก (Heat Stroke) มีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยว่า โรคลมแดด มีสาเหตุเกิดจากการที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไปจนทำให้คว­­­­ามร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส นอกจากนี้สาเหตุของโรคฮีตสโตรกก็ยังแบ่งออกได้อีก 2 ประเภทคือ เกิดจากความร้อน และเกิดจากการออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป
          มีอาการเบื้องต้นที่สังเกตได้ก็คือ เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน วิตกกังวล สับสน ปวดศีรษะ ความดันโลหิตลดต่ำ หน้ามืด และก็ยังอาจจะมีผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตอีกด้วย ทั้งนี้ยังมีอาการ เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัว ไตล้มเหลว เซลล์ตับตาย หายใจเร็ว มีอาการบวมของปอดจากการคั่งของของเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อลายเกิดการเสื่อมสลาย ช็อก และเกิดภาวะอวัยวะต่าง ๆ ล้มเหลวจากการอุดตันของเส้นเลือด

1. หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งนาน ๆ

          การอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ๆ ในช่วงหน้าร้อนอาจทำให้ร่างกายร้อนเกินไปจนเกิดอาการฮีตสโตรกได­­้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งนาน ๆ ค่ะ

2. สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด แต่สามารถระบายอากาศได้

          หากคุณต้องไปในสถานที่ที่มีอากาศร้อนมาก ๆ ควรสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเพื่อปกปิดร่างกายให้มิดชิด แต่ควรเลือกเนื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี อย่างเช่นผ้าคอตตอน จะช่วยทำให้ร่างกายของคุณไม่ร้อนจนเกินไป นอกจากนี้ยังควรสวมเสื้อผ้าสีอ่อน ๆ เพื่อลดการดูดซับความร้อนที่มาจากแสงอาทิตย์หากสวมเสื้อผ้าสีเข้มค่ะ

3. ดื่มน้ำให้บ่อย และมากขึ้น

          ในช่วงที่อากาศร้อนมาก ๆ ร่างกายของเราจะมีวิธีลดความร้อนในร่างกายด้วยการขับเหงื่­อ ซึ่งการดื่มน้ำในปริมาณปกติทั่วไปอาจจะทำให้คุณขาดน้ำได้ ดังนั้นจึงควรที่จะดื่มน้ำให้มากขึ้นและบ่อยขึ้น ไม่ต้องรอให้รู้สึกกระหายก่อนแล้วจึงดื่ม และควรดื่มน้ำในอุณหภูมิธรรมดา หลีกเลี่ยงน้ำเย็นเพราะอาจทำให้เป็นตะคริวที่ท้องได้

4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

          เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะยิ่งทำให้ภายในร่างกายของเรามีอุณหภูมิส­­­­ูงขึ้น และทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

5. พักให้บ่อยขึ้น

          หากคุณต้องทำกิจกรรมที่อยู่กลางแดดนาน ๆ ควรจะพักให้บ่อยขึ้น และหลบเข้ามาอยู่ในร่มในขณะที่พัก เพื่อให้ร่างกายลดอุณหภูมิลงกลับสู่ภาวะปกติ ไม่ควรหักโหมจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการฮีตสโตรกได้

6. หลีกเลี่ยงการใช้พัดลม

          แม้ว่าพัดลมจะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีอยู่ทุกบ้าน และมักใช้กันเป็นประจำในช่วงอากาศร้อน แต่ก็ใช่ว่าการใช้พัดลมจะดีเสมอไป เพราะจริง ๆ แล้วการเปิดพัดลมจะยิ่งทำให้เราได้รับลมร้อนมากขึ้น ดังนั้นหากจะใช้พัดลมควรใช้เป็นพัดลมไอน้ำเพื่อให้ร่างกายที่ร้­­­­อนลดลงและชุ่มชื้นมากขึ้น หรือถ้าจะสะดวกหน่อยก็เปิดแอร์ปรับอากาศเลยจะดีกว่า แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีแอร์ปรับอากาศจริง ๆ ก็ออกไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทจะดีกว่า

7. ไม่ต้องออกกำลังกายหนักมาก

          แม้ว่าการออกกำลังกายจะเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย แต่การออกกำลังก­ายในช่วงอากาศร้อน ๆ จะทำให้ร่างกายร้อนมากขึ้นกว่าเดิม จึงควรออกกำลังกายให้เบาลงหน่อย หรือพยายามออกกำลังกายในตอนเช้าที่แสงแดดยังไม่ร้อนมากแทน แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น เพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายเป็นปกติค่ะ

8. ใส่อุปกรณ์ป้องกัน

          หมวก แว่นกันแดด และร่ม ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในช่วงฤดูร้อน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับรังสียูวีที่เป็นอันตราย และช่วยไม่ให้ร่างกายได้รับความร้อนโดยตรงอีกด้วย

9. หลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่อาจทำให้ง่วง

          ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก เป็นยาที่ไม่ควรรับประทานในขณะที่อยู่ท่ามกลางอากาศร้อน โดยเฉพาะก่อนการออกกำลังกาย เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมากขึ้นค่ะ

10. เด็กและผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด

          เด็กและผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปี ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ควรให้อยู่ในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศหรือในสถานที่ที่อากาศถ่­ายเทได้สะดวก และไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ตามลำพังในรถที่อยู่กลางแดดอีกด้วย

          เห็นไหมคะว่าวิธีการป้องกันการเกิดโรคฮีตสโตรกไม่ใช่เรื่องยากเ­­­­ลย แค่เพียงทำให้ร่างกายของเรามีอุณหภูมิใกล้เคียงปกติมากที่สุด เลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเท่านั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคลมแดดกัน­­­­แล้ว ถ้าทำได้ทั้งหมดนี้รับรองเลยว่าต่อให้ต้องเจอกับอากาศร้อนในฤดู­­­­ร้อนอีกกี่ครั้งก็ผ่านไปได้อย่างสบาย ๆ แน่นอนค่ะ