ประโยชน์ของวิตามินซี
-
ช่วยสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง และช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย
-
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยซ่อมแซมฟื้นฟู ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
-
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นหวัด รวมทั้งช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัด
-
ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิด
-
ช่วยให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง ลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
-
กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ต่อต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียก่อเกิดโรค
-
ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก
วิตามินซีเม็ดฟู่ คืออะไร เหมาะกับใคร
วิตามินซีเม็ดฟู่
ต่างจากวิตามินซีแบบเม็ดอย่างไร
-
วิตามินเม็ดฟู่กินง่าย แค่นำมาละลายน้ำ ทั้งนี้ ต้องรอให้วิตามินละลายหมดก่อน เนื่องจากฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อาจทำให้ท้องอืดหรือแน่นท้อง แต่วิตามินแบบเม็ดต้องกลืน อาจมีปัญหาในผู้ที่กลืนยาลำบาก
-
วิตามินเม็ดฟู่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เร็ว ช่วยลดอาการระคายเคืองกระเพาะ ในขณะที่วิตามินซีแบบเม็ดต้องรอให้แตกตัวก่อน จึงออกฤทธิ์ได้ช้ากว่า และอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายท้อง
-
วิตามินเม็ดฟู่มีการผลิตที่ต้องควบคุมความชื้น ทำให้รักษาประโยชน์ของวิตามินไว้ได้มากกว่าวิตามินเม็ดที่เพียงแค่โดนแสง อากาศ หรือความชื้น ก็ทำให้ได้ประโยชน์ไม่เต็มที่
-
วิตามินเม็ดฟู่มักแต่งกลิ่น รส จึงรับประทานง่ายกว่าแบบเม็ดที่อาจจะมีรสชาติขมกว่า
วิตามินซีเม็ดฟู่ กินตอนไหนดี
วิธีเลือกซื้อวิตามินซีเม็ดฟู่
-
เลือกปริมาณวิตามินซีที่ตรงกับความต้องการ เช่น ถ้ามีภาวะขาดวิตามินซี ต้องการวิตามินซีเข้มข้นสูง ควรเลือกยี่ห้อที่ให้ปริมาณวิตามินซี 500-1,000 มิลลิกรัม/เม็ด แต่หากต้องการเสริมวิตามินซีไม่มากก็เลือกยี่ห้อที่มีปริมาณวิตามินซีไม่สูงมากนัก
-
พิจารณาส่วนผสมของแร่ธาตุอื่น ๆ ในวิตามินซีเม็ดฟู่ เช่น บางยี่ห้อมีวิตามินซีเพียว ๆ ไม่มีส่วนผสมอื่น แต่บางยี่ห้อก็ผสมซิงก์ หรือสังกะสี ที่มีส่วนช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ลดระยะเวลาการเป็นหวัด
-
วิตามินซีเม็ดฟู่มักปรุงแต่งกลิ่นรสเพื่อให้กินง่าย จึงควรเลือกแบบไม่เติมน้ำตาล ซึ่งจะดีต่อสุขภาพมากกว่า
-
เลือกวิตามินซีเม็ดฟู่ที่ให้พลังงานต่ำ
-
ตรวจสอบฉลากให้ดีว่ามีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือไม่ เช่น กลูเตน
-
เลือกบรรจุภัณฑ์ที่แจ้งสถานที่ผลิต วันเดือนปีที่ผลิตและวันเดือนปีที่หมดอายุ รวมทั้งมีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.
วิตามินซีเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023
1. วิตามินซีเม็ดฟู่ เรด็อกซอน ซิ้งค์
ภาพจาก : redoxon.co.th
วิตามินซีเม็ดฟู่ ประกอบด้วยวิตามินซี (ในรูปแบบกรดแอสคอร์บิก) 1,000 มิลลิกรัม และสังกะสี (ในรูปซิ้งค์ ซิเตรต ไตรไฮเตรต 32 กรัม) โดยวิตามินซีมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ สร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ส่วนสังกะสีมีส่วนช่วยในเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด ผสมกับน้ำ 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร)
-
ราคาประมาณ : 219 บาท (15 เม็ด)
2. VÖOST Vitamin C
ภาพจาก : voostvitamins.com
วิตามินซีเม็ดฟู่ จากประเทศเยอรมนี ผสมกลิ่นส้ม หลอดนี้เป็นวิตามินซีเพียว ๆ เข้มข้น (ในรูปแบบกรดแอสคอร์บิก) 1,000 มิลลิกรัม ไม่มีแร่ธาตุหรือวิตามินอื่นผสม และไม่เติมน้ำตาล รสชาติดี รับประทานง่าย
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด ผสมกับน้ำ 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร)
-
ราคาประมาณ : 290 บาท (20 เม็ด)
3. Mivolis Vitamin C
ภาพจาก : german-drugstore.com
Mivolis มิโวลิส วิตามินซีเม็ดฟูู่อีกแบรนด์จากเยอรมนี ตัวยาประกอบด้วยวิตามินซี 240 มิลลิกรัม ผสมรสส้ม มีรสหวานอมเปรี้ยวทำให้ดื่มง่ายมากขึ้น และไม่เติมน้ำตาลเช่นกัน
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด ผสมกับน้ำ 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร)
-
ราคาประมาณ : 55 บาท (20 เม็ด)
4. Demosana Vitamin C
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Demosana Thailand
ดีโมซานา (Demosana) วิตามินซีเม็ดฟู่ ผลิตจากประเทศเยอรมนี ประกอบด้วยวิตามินซี 46 มิลลิกรัม ไม่เติมน้ำตาล และไม่มีแคลอรี มีให้เลือก 4 รสชาติ ได้แก่ เลมอน สตรอว์เบอร์รี ส้ม และส้มยูซุ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด ผสมกับน้ำ 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร)
-
ราคาประมาณ : 140 บาท (20 เม็ด)
5. Swiss Energy Sambucus
ภาพจาก : swissenergythailand.com
Swiss Energy Sambucus หลอดนี้เป็นวิตามินซีเม็ดฟู่จากสวิตเซอร์แลนด์ ประกอบด้วยวิตามินซี 60 มิลลิกรัม ซิงก์ 7.5 มิลลิกรัม และสารสกัดจากเอลเดอร์เบอร์รี 150 มิลลิกรัม ปราศจากน้ำตาล รสเบอร์รี รับประทานง่าย ให้พลังงานเพียง 7.3 กิโลแคลอรี/เม็ด
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด ผสมกับน้ำ 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร) หลังอาหารเช้าหรือหลังอาหารเย็น
-
ราคาปกติ : 590 บาท (20 เม็ด)
6. Blackmores Bio C 1000 Effervescent
ภาพจาก : blackmores.com
นอกจากวิตามินซีแบบเม็ดแล้ว ทางแบล็คมอร์ก็ยังมีวิตามินซีแบบเม็ดฟู่ โดยใน 1 เม็ด ประกอบด้วยวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม มาพร้อมกับซิงก์ 5 มิลลิกรัม ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซี และยังมีเอ็กไคนาเซีย (Echinacea) เป็นสมุนไพรที่มีส่วนช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน บรรเทาอาการหวัด แต่จะหาซื้อยากหน่อยเพราะต้องนำเข้า
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด ผสมกับน้ำ 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร)
-
ราคาประมาณ : 195 บาท (10 เม็ด)
7. Mistine Multi Berries 1,000 มก.
ภาพจาก : mistine.co.th
วิตามินเม็ดฟู่มัลติเบอร์รี จากมิสทีน สูตรไม่มีน้ำตาล มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1,000 มิลลิกรัม โดยสกัดจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี 5 ชนิด ได้แก่ ราสป์เบอร์รี แบล็กเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี แครนเบอร์รี และบลูเบอร์รี มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมคอลลาเจน รวมทั้งมีซิงก์ที่มีส่วนช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
-
วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด ผสมกับน้ำ 1 แก้ว (200 มิลลิลิตร)
-
ราคาประมาณ : 250 บาท (20 เม็ด)
ข้อควรระวังในการกินวิตามินซีเม็ดฟู่
-
รับประทานตามคำแนะนำในฉลาก ไม่ควรรับประทานเกินขนาดที่กำหนด
-
ควรรอให้วิตามินเม็ดฟู่ละลายน้ำจนหมดฟองก่อนจึงค่อยรับประทาน เพื่อป้องกันอาการท้องอืด
-
ผู้ป่วยที่มีโรคความดันสูง และผู้ป่วยโรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ เพราะวิตามินซีเม็ดฟู่มีโซเดียม ซึ่งอาจทำให้ความดันสูงขึ้นและไตทำงานหนักจนอาจเป็นอันตราย
-
เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน
-
วิตามินซีเม็ดฟู่เป็นเพียงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไม่มีผลในการป้องกันและรักษาโรค
บทความที่เกี่ยวข้องกับวิตามินซี
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : redoxon.co.th, voostvitamins.com, german-drugstore.com, เฟซบุ๊ก Demosana Thailand, swissenergythailand.com, blackmores.com.au, mistine.co.th
