วิตามินบีรวมยี่ห้อไหนดี เป็นตัวเต็งแห่งปี 2025 เหมาะกับคนทำงานหนัก สมองล้า

          วิตามินบีรวม ประกอบไปด้วยวิตามินบีหลายชนิด เช่น บี 1, บี 2, บี 3, บี 5, บี 6, บี 7 (ไบโอติน), บี 9 (โฟเลต) และบี 12 โดยเป็นกลุ่มของวิตามินที่ละลายน้ำได้ มีหน้าที่สำคัญในการเปลี่ยนอาหารที่เรารับประทานให้เป็นพลังงานที่ร่างกายนำไปใช้ได้

          โดยวิตามินบีแต่ละชนิดยังมีประโยชน์เฉพาะทาง เช่น วิตามินบี 1, บี 6 และ บี 12 มีส่วนช่วยส่งสัญญาณประสาทและลดความเครียด ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง, วิตามินบี 7 (ไบโอติน) ช่วยให้ผิวพรรณสุขภาพดีและเส้นผมแข็งแรง ส่วนวิตามินบี 9 และ บี 12 ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันภาวะโลหิตจาง

         เวลาที่เหมาะสมในการกินวิตามินบีรวม คือ ช่วงเช้า โดยกินได้ทั้งก่อนอาหารหรือหลังอาหารประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพราะจะช่วยเติมพลังงานให้ร่างกาย และเป็นช่วงที่ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ดีขึ้น แต่ทั้งนี้ควรอ่านฉลากผลิตภัณฑ์เพื่อดูคำแนะนำในการรับประทานที่ถูกต้องของแต่ละยี่ห้อประกอบด้วย

         อย่างไรก็ตาม ไม่ควรกินวิตามินบีรวมก่อนนอน เพราะอาจส่งผลให้ร่างกายตื่นตัว รบกวนการนอนหลับได้

และนี่คือวิตามินบีรวมตัวเต็งในปี 2025 ที่เรารวบรวมมาแนะนำให้พิจารณาคร่าว ๆ

          วิตามินบีคอมเพล็กซ์ รวม 8 ชนิด ยี่ห้อ Swiss Energy เป็นแบรนด์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มาพร้อมนวัตกรรม Sustained Release Capsule ดีไซน์แคปซูลให้ค่อย ๆ ปล่อยวิตามินให้มีช่วงเวลาออกฤทธิ์ได้ถึง 8 ชั่วโมง ร่างกายก็จะดูดซึมวิตามินบีรวมได้ต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง คนที่ต้องลุยงานหรือเรียนทั้งวันก็ให้วิตามินบีรวมไปช่วยบูสต์พลังได้ ของแบรนด์นี้เขาออกแบบแคปซูลเป็นเม็ดเล็ก รับประทานง่าย ขวดก็ไม่ใหญ่ พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก

• วิธีรับประทาน : 1 แคปซูล หลังอาหารเช้า (ถ้ามื้อเช้าดื่มกาแฟ สามารถเลื่อนมาเป็นหลังอาหารเที่ยงได้)

• ราคาปกติ : 1,590 บาท (30 แคปซูล)

          วิตามินบีรวมของยี่ห้อนี้ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะอยู่ในวงการอาหารเสริมมายาวนาน โดยกระปุกนี้ก็เป็นวิตามินบีรวม 8 ชนิด และยังมีโคลีนบิทาเทรต, อิโนซิทอล ที่มีโครงสร้างคล้ายวิตามินบี ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย 

• วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหารมื้อใดก็ได้

• ราคาปกติ : 590 บาท (75 เม็ด)  

          วิตามินบีรวมขององค์การเภสัชกรรม แค่ยี่ห้อก็เพิ่มความน่าเชื่อถือในคุณภาพได้ในระดับหนึ่งแล้ว และของแบรนด์นี้จะเน้นสัดส่วนของวิตามินบี 3 (Nicotinamide) มาอย่างโดดเด่น โดยใส่มา 20 มิลลิกรัม ในขณะที่วิตามินบี 1, วิตามินบี 6, วิตามินบี 2 มีในปริมาณไม่เกิน 5 มิลลิกรัม ดังนั้น ใครที่อยากได้วิตามินบี 3 ในสัดส่วนที่มากหน่อย ลองพิจารณากระปุกนี้ก็ได้ แต่เนื่องจากมีปริมาณวิตามินบี 3 สูง จึงควรระวังการใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน เกาต์ โรคตับ หรือมีแผลในกระเพาะอาหาร

• วิธีรับประทาน : ผู้ใหญ่รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด เด็กรับประทานครั้งละ 1 เม็ด

• ราคาประมาณ : 300-399 บาท (1,000 เม็ด)

          ถ้ามองหาวิตามินบีรวมที่มีวิตามินบีหลากหลาย ขวดนี้ก็จัดว่าใช่ เพราะเป็นอีกยี่ห้อที่มีวิตามินบีรวม 8 ชนิด ตั้งแต่วิตามินบี 1, บี 2, บี 3, บี 5, บี 6, บี 7, บี 9 และบี 12 อัดแน่นมาในเม็ดยาขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ รับประทานง่าย เหมาะกับคนที่กินยายาก 

• วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 แคปซูล หลังมื้ออาหารเช้าหรือเย็น 

• ราคาปกติ : 420 บาท (30 แคปซูล)

          Maxxlife บี คอมเพล็กซ์ พลัส ไบโอฟลาโวนอยด์ กระปุกนี้รวมวิตามินบี 8 ชนิด และโคลีนไบทาร์เทรต ผสานกับเบต้าแคโรทีน ไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งนอกจากจะได้ประโยชน์ของวิตามินบีรวมแล้ว ยังได้สารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นไปด้วยในตัว

• วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 แคปซูล 

• ราคาปกติ : 290 บาท (30 แคปซูล)

          สำหรับคนที่มองหาวิตามินบีรวมและอยากได้สารอาหารชนิดอื่นด้วย แอคทีฟบีพลัส จิงโกะ วิตามินบีรวม กระปุกนี้ก็มีวิตามินบีรวม 7 ชนิด มาพร้อมกับกิงโกะ หรือสารสกัดจากใบแปะก๊วย ช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมองอีกทาง

• วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 เม็ด หลังมื้ออาหารเช้า 

• ราคาปกติ : 490 บาท (30 เม็ด)

          Smooth Life B Complex Plus Lutein & Zeaxanthin อาหารเสริมที่รวมวิตามินหลายชนิดไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบีรวม 10 ชนิด และลูทีน-ซีแซนทิน ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพดวงตา รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้จากบิลเบอร์รี คนที่ใช้สมองหนัก จ้องจอมาก อยากได้วิตามินมาดูแลครบ ๆ กระปุกนี้ก็จบในเม็ดเดียว

• วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 เม็ด หลังมื้ออาหารเช้า 

• ราคาปกติ : 475 บาท (30 เม็ด)

          ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อวิตามินบีรวม ได้แก่ 

• เลือกวิตามินบีรวมที่ให้วิตามินบีชนิดต่าง ๆ มาอย่างครบถ้วน

• เช็กปริมาณวิตามินบีแต่ละชนิด เพราะแต่ละยี่ห้อจะมีสัดส่วนวิตามินบีชนิดต่าง ๆ ไม่เท่ากัน ควรเลือกยี่ห้อที่มีปริมาณวิตามินบีที่ต้องการ 

• เลือกตามความสะดวกในการรับประทาน เพราะวิตามินบีรวมมีทั้งแบบเม็ด แคปซูล เม็ดฟู่ หรือแบบน้ำ 

• วิตามินบีรวมบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น วิตามินซี ไบโอฟลาโวนอยด์ ลูทีน หรือสมุนไพรต่าง ๆ มาด้วย จึงควรศึกษาประโยชน์ของส่วนผสมเหล่านั้นว่าตรงกับความต้องการของเราหรือไม่

• เลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือ พร้อมกับตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ มีเลขทะเบียน อย.

• ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่าปิดสนิท มีฉลากครบถ้วน ระบุบริษัทผู้ผลิต วันผลิต วันหมดอายุ

• เลือกซื้อวิตามินบีรวมจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรคอยให้คำแนะนำ

          แม้จะเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การกินวิตามินบีรวมก็มีข้อควรระวัง เช่น 

• ไม่รับประทานวิตามินบีรวมเพื่อหวังผลในการป้องกันและรักษาโรค

• ควรตรวจสอบส่วนผสมก่อนรับประทาน เพราะบางคนอาจมีอาการแพ้ส่วนผสมบางชนิด ทำให้เกิดผื่นแดงหรืออาการปวดท้อง ในกรณีที่มีอาการผิดปกติควรหยุดรับประทานทันที

• ไม่ควรกินวิตามินบีรวมเกินขนาดที่กำหนด เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ เช่น อาเจียน ผื่นขึ้น วิงเวียน ตับอักเสบ เป็นต้น

• อ่านคำเตือนและข้อควรระวังบนฉลากข้างขวดให้ชัดเจน โดยบางยี่ห้อจะระบุไว้ว่า ใครไม่ควรกิน

• ผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

• หากรับประทานอาหารเสริมหรือยารักษาโรคเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานวิตามินบีรวม

• เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานวิตามินบีรวม

• หญิงตั้งครรภ์ ควรขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนเริ่มรับประทานวิตามินบีรวม

• การรับประทานวิตามินบีรวมจะทำให้ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติ

• วิตามินบีรวมยี่ห้อไหนดี พร้อมเช็กประโยชน์ วิตามินบีรวมช่วยเรื่องอะไร
• วิตามินบีรวม กับประโยชน์จัดเต็ม ที่ชาวออฟฟิศพลาดไม่ได้
• วิตามินบี 6 ได้จากอะไร เลือกกินได้จากอาหารใกล้ตัวเพื่อรับประโยชน์ดี ๆ
• อาหารที่มีวิตามินบี 12 สูง มีอะไรบ้าง เสริมวิตามินจากธรรมชาติด้วยอาหารอร่อย ๆ
• 13 สัญญาณว่าคุณกำลังขาดวิตามินบี 1 รู้ให้ทัน ป้องกันการเสียชีวิต
   

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Swiss Energy & Dr.Frei Mall, Eucerrin Lover, GPO Planet, Biocap, maxxlifethailand.com, Intercare Thailand, smooth-e.com