วิตามินบีรวมยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เพื่อคนวัยทำงานที่เครียด ใช้สมองเยอะ เหนื่อยล้า พักผ่อนน้อย

           วิตามินบีรวมยี่ห้อไหนดี แต่ละชนิดมีประโยชน์อย่างไรกับวัยเรียน วัยทำงาน แล้วถ้าจะซื้อควรเลือกอย่างไรดี
           ทุกวันนี้เราใช้สมองเยอะจนแทบไม่ได้พัก ทั้งวัยเรียนอย่างนักศึกษาที่เรียนหนัก ต้องติว ต้องอ่านหนังสือสอบ หรือคนวัยทำงาน ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์หรือพนักงานออฟฟิศ ก็มีเรื่องงานให้ต้องคิดทั้งวัน แถมยังต้องตื่นเช้า นอนดึก ซึ่งความเครียดและความเหนื่อยล้าเหล่านี้นานวันเข้าย่อมส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้สมองไม่แล่น คิดอะไรไม่ค่อยออก ดังนั้นการเสริมด้วยวิตามินบีรวม สารอาหารที่จำเป็นต่อระบบประสาทและสมอง ช่วยลดความเครียด ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง จึงเป็นอีกทางเลือก วันนี้เราจึงได้รวบรวมวิตามินบีรวมยี่ห้อต่าง ๆ มาแนะนำ พร้อมประโยชน์ ข้อควรระวัง และวิธีการเลือกซื้อรวมมาให้ด้วย  
วิตามินบีรวม

วิตามินบีรวม คืออะไร

          วิตามินบีรวม หรือ Vitamin B Complex เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ประกอบไปด้วยวิตามินบีหลายชนิด ได้แก่ วิตามินบี 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และวิตามินบี 12 จัดเป็นวิตามินละลายน้ำ สามารถขับออกมาทางปัสสาวะได้ถ้ามีปริมาณเกินความต้องการ ดังนั้นจึงไม่สะสมในร่างกาย โดยวิตามินบีแต่ละเม็ดจะมีส่วนผสมของวิตามินบีตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไป  

วิตามินบีรวมช่วยอะไร มีประโยชน์ด้านไหนบ้าง

วิตามินบีรวม

          หลายคนคงอยากทราบว่าวิตามินบีรวมแต่ละเม็ดจะมีประโยชน์ด้านไหนบ้าง ในที่นี้เราจะแยกประโยชน์วิตามินบีแต่ละตัวให้ ตามนี้

  • วิตามินบี 1 หรือไทอามีน (Thiamine) ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการทำงานของเซลล์ประสาทและกล้ามเนื้อ ป้องกันโรคเหน็บชา บรรเทาอาการซึมเศร้า ลดอาการวิตกกังวล และลดความเครียด

  • วิตามินบี 2 หรือไรโบฟลาวิน (Riboflavin) ช่วยเรื่องการเจริญเติบโต บำรุงผิวพรรณ เส้นผม เล็บ ช่วยเรื่องการมองเห็น และป้องกันโรคปากนกกระจอก

  • วิตามินบี 3 หรือไนอาซิน (Niacin) ช่วยดูแลระบบประสาทและสมอง กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดไมเกรน ลดอาการวิงเวียนศีรษะ  

  • วิตามินบี 4 หรือโคลีน (Choline) มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทำให้มีความจำดีขึ้น อีกทั้งมีส่วนช่วยกำจัดไขมันและคอเลสเตอรอลออกจากตับ ลดความเสี่ยงไขมันพอกตับ

  • วิตามินบี 5 หรือกรดแพนโทเธนิก (Pantothenic acid) ช่วยกระตุ้นให้ต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนลดเครียด รักษาอาการชาปลายประสาทจากเบาหวาน ทั้งยังช่วยลดการอักเสบของกระดูกและข้อ

  • วิตามินบี 6 หรือไพริดอกซีน (Pyridoxine) มีประโยชน์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง เสริมความจำ ลดความเครียดและความวิตกกังวล ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ป้องกันโรคโลหิตจาง

  • วิตามินบี 7 หรือไบโอติน (Biotin) หรือวิตามิน H ช่วยในการเจริญเติบโต บำรุงระบบประสาท เส้นผม เล็บ และผิวพรรณ 

  • วิตามินบี 8 หรืออิโนซิทอล (Inositol) มีส่วนช่วยควบคุมการส่งสัญญาณสื่อประสาท ทำให้รู้สึกสงบ จึงช่วยบรรเทาความเครียด ลดความวิตกกังวล ป้องกันภาวะซึมเศร้า

  • วิตามินบี 9 หรือโฟเลต หรือกรดโฟลิก (Folic Acid) ช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ป้องกันภาวะโลหิตจาง ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร และลดความเสี่ยงโรคไขมันอุดตันในตับ

  • วิตามินบี 12 หรือโคบาลามิน (Cobalamin) วิตามินชนิดนี้จะทำงานร่วมกับวิตามินบี 9 ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยเพิ่มสมาธิความจำ

วิตามินบีรวมกินตอนไหน

          วิตามินบีรวม ควรรับประทานในช่วงเช้าตอนท้องว่างเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างเต็มที่ หรือถ้ามีอาการระคายเคืองกระเพาะก็สามารถรับประทานวิตามินบีรวมพร้อมมื้ออาหารหรือหลังอาหารเช้า อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังคือ ไม่ควรรับประทานวิตามินบีรวมก่อนนอน เนื่องจากอาจกระตุ้นให้ร่างกายและสมองตื่นตัว ทำให้นอนหลับยากหรือนอนไม่หลับได้

วิธีเลือกซื้อวิตามินบีรวม

วิตามินบีรวม

  • เลือกวิตามินบีรวมสูตรที่มีวิตามินบีอย่างน้อย 10 ชนิด เนื่องจากวิตามินแต่ละชนิดจะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เลือกวิตามินบีรวมสูตรที่มีปริมาณของวิตามินบีแต่ละชนิดสูงเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย (ปริมาณวิตามินบีแต่ละชนิดที่ร่างกายควรได้รับอยู่ที่ 25-300 มก. ต่อวัน)

  • เลือกวิตามินบีรวมที่เป็นสูตรสมดุล 1:1 มีปริมาณของวิตามินบีแต่ละชนิดเท่า ๆ กัน เพื่อให้วิตามินไม่ขัดขวางการดูดซึมซึ่งกันและกัน ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เลือกตามรูปแบบของการรับประทาน เช่น แบบเม็ด แคปซูล แบบเม็ดฟู่ เป็นต้น 

  • ซื้อวิตามินบีรวมแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.

  • เลือกซื้อวิตามินบีรวมจากร้านที่มีเภสัชกรประจำร้านคอยให้คำแนะนำ

  • ตรวจสอบข้อมูลบนฉลากให้ละเอียด โดยบรรจุภัณฑ์ต้องมีชื่อวิตามิน เลขที่ผลิตภัณฑ์ ชื่อหรือสถานที่ผลิต ปริมาณของสารอาหาร มีเครื่องหมาย อย. แสดงไว้อย่างชัดเจน

  • ตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตและวันเดือนปีที่หมดอายุ

  • ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่าอยู่ในสภาพดี ฝาปิดสนิท ไม่มีรอยฉีกขาด

  • หลีกเลี่ยงวิตามินบีรวมที่มีการแต่งเติมสี กลิ่น สารกันบูด หรือสารสังเคราะห์ต่าง ๆ ที่มากเกินจำเป็น

ข้อควรระวังในการรับประทานวิตามินบีรวม

  • ผู้ที่มีอาการแพ้ส่วนผสมในวิตามินบีรวมหรือแพ้วิตามินบีรวม ควรหลีกเลี่ยง

  • ผู้ป่วยที่รับประทานยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานวิตามินบีรวม

  • สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานวิตามินบีรวม

  • อ่านคำเตือนบนฉลากของผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจนก่อนรับประทาน

  • หากรับประทานเยอะจนเกินไปอาจทำให้ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มและอุจจาระเป็นสีเข้มขึ้นได้ แต่ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เพราะร่างกายขับส่วนเกินออกมา

  • วิตามินบีรวมไม่มีผลในการป้องกันและรักษาโรค ควรกินอาหารหลากหลายให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ

วิตามินบีรวมยี่ห้อไหนดี

1. NAT B (แนทบี)

วิตามินบีรวม

ภาพจาก : megawecare.co.th

          วิตามินบีรวม NAT B ภายใต้แบรนด์ชื่อดังอย่าง MEGA We care เป็นสูตรที่มีปริมาณวิตามินบีสูงและครบถ้วนถึง 10 ชนิดในแคปซูลเดียว ประกอบด้วย วิตามินบี 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และ 12 เพียงพอต่อการช่วยคลายเครียด บำรุงสมองและระบบประสาท อีกทั้งขวดนี้ยังเป็นวิตามินบีรวมสูตรสมดุล มีวิตามินบีแต่ละชนิดในปริมาณเท่า ๆ กัน จึงไม่ขัดขวางการดูดซึมซึ่งกันและกัน ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินบีทุกตัวไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ที่ข้างขวดยังระบุไว้ชัดเจนว่ารักษาอาการขาดวิตามินบีจากภาวะเครียดได้

          
ดังนั้น หากใครรู้สึกเครียดบ่อย ๆ สมองล้า ไม่สดชื่น อย่างนักศึกษาที่เรียนหนัก เครียด อ่านหนังสือไม่ค่อยเข้าหัว หรือวัยทำงาน พนักงานออฟฟิศที่ทำงานหนัก ใช้สมองและความคิดเยอะ เผชิญกับความเครียดเป็นประจำ จนหัวตื้อ คิดงานไม่ออก ขี้หลงขี้ลืม แถมยังไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง อยากได้ตัวช่วยผ่อนคลายความเครียดให้สมองปลอดโปร่งขึ้น สามารถรับประทานวิตามินบีรวม 1 เม็ด หลังอาหารเช้าได้ในทุก ๆ วัน โดยหาซื้อได้ที่ร้าน Boots, Watsons และร้านขายยาชั้นนำทั่วไป

  • วิธีรับประทาน : ครั้งละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร หรือตามแพทย์สั่ง

  • ราคาปกติ : 290 บาท (40 เม็ด)

2. DHC B MIX (ดีเอชซี บี มิกซ์)

วิตามินบีรวม

ภาพจาก : konvy.com

          วิตามินบีรวม DHC จากประเทศญี่ปุ่น เป็นแบบซองพกพาสะดวก ประกอบด้วยวิตามินบี 8 ชนิด ได้แก่ วิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6, 8, 9 และ 12 ที่มีความจำเป็นต่อระบบประสาท เหมาะกับคนที่ได้รับวิตามินบีไม่ครบถ้วน และผู้ที่มีปัญหาสิว

  • วิธีรับประทาน : ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น 

  • ราคาปกติ : 500 บาท (120 เม็ด)

3. Berocca Performance (บีรอคคา เพอร์ฟอร์มานซ์ ชนิดเม็ดฟู่)

วิตามินบีรวม

ภาพจาก : berocca.co.th

         วิตามินบีรวมชนิดเม็ดฟู่ รสส้ม ในแต่ละเม็ดมีทั้งวิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6, 7 และ 12 เหมาะกับผู้ที่ทำงานหนัก มีความอ่อนเพลีย นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี ที่จำเป็นต่อการทำหน้าที่ของเอมไซม์หลายชนิด และแร่ธาตุทั้งแมกนีเซียม สังกะสี แคลเซียม ซึ่งช่วยทำให้วิตามินต่าง ๆ ทำงานได้ดียิ่งขึ้น

  • วิธีรับประทาน : ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า 

  • ราคาปกติ : 290 บาท (15 เม็ด)

4. VISTRA B Complex plus Ginseng (วิสทร้า บี คอมเพล็กซ์ พลัส จินเส็ง)

วิตามินบีรวม

ภาพจาก : vistra.co.th

         วิตามินบีรวมจากแบรนด์วิสทร้า โดยในแต่ละเม็ดมีส่วนผสมของวิตามินบี 1, 2, 6, 7, 9 และ 12 ช่วยเรื่องระบบประสาทและกล้ามเนื้อ พร้อมกับเพิ่มสมุนไพรโสม เพื่อปรับสมดุลร่างกายและฟื้นฟูพลัง แต่วิตามินขวดนี้จะไม่เหมาะกับผู้ที่แพ้ถั่วเหลือง, กลูเตน, ปลา, กุ้ง และนม

  • วิธีรับประทาน : ครั้งละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร 

  • ราคาปกติ : 390 บาท (30 เม็ด)

5. Giffarine Choline B (กิฟฟารีน โคลีน บี)

วิตามินบีรวม

ภาพจาก : gifflife.com

          กิฟฟารีน โคลีน บี เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโคลีน ไบทาร์เทรต ผสมวิตามินบีรวม ทั้งวิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6 และ 12 ซึ่งโคลีนจัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นประสาท ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง ทั้งเรื่องความจำและการทำงานของกล้ามเนื้อต่าง ๆ

  • วิธีรับประทาน : ครั้งละ 1-3 เม็ด พร้อมอาหาร  

  • ราคาปกติ : 280 บาท (30 เม็ด)

6. Blackmores Multi B (แบลคมอร์ส วิตามินบีรวม)

วิตามินบีรวม

ภาพจาก : blackmores.co.th

         แบลคมอร์ส วิตามินบีรวม ประกอบด้วยวิตามินบีชนิดต่าง ๆ ได้แก่ วิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6 และ 12 ช่วยให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายเป็นไปโดยปกติ นอกจากนี้ยังมีกรดโฟลิก สารอาหารที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ไบโอติน หรือวิตามินบี 7 ช่วยดูแลเส้นผม ผิว และเล็บ เหมาะกับผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลีย ผู้ที่รับประทานอาหารไม่ครบหมู่ ผู้ที่รับประทานอาหารเจเป็นประจำ สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่กำลังพักฟื้นจากการเจ็บป่วย

  • วิธีรับประทาน : ครั้งละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร 

  • ราคาปกติ : 320 บาท (60 เม็ด)

7. แบรนด์เม็ด ซุปไก่สกัดผสมวิตามินบีคอมเพล็กซ์ และธาตุเหล็ก

วิตามินบีรวม

ภาพจาก : store.brandsworld.co.th

         อีกยี่ห้อที่คุ้นชื่อกันดีกับวิตามินบีรวมผสมผสานซุปไก่สกัดในรูปแบบเม็ด บรรจุในกระปุกพกพาง่าย ในแต่ละเม็ดประกอบด้วย วิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6, 12 และยังมีโฟเลต ไบโอติน ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง เสริมด้วยวิตามินอี ซึ่งช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีธาตุเหล็ก ช่วยเรื่องของระบบไหลเวียนเลือด เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย   

  • วิธีรับประทาน : ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหาร 

  • ราคาปกติ : 492 บาท (60 เม็ด)

8. Life Vitamin B Complex (ไลฟ์ วิตามินบี คอมเพล็กซ์)

วิตามินบีรวม

ภาพจาก : lazada.co.th

          วิตามินบีรวมจาก Life ในแต่ละเม็ดมีส่วนผสมจากวิตามินบีล้วน ๆ ทั้งวิตามินบี 1, 2, 3, 5, 6, 9 และ 12 มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เหมาะกับคนที่ต้องการเสริมวิตามินบีรวมแบบเพียว ๆ ไม่ต้องการสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเติม แต่สำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน

  • วิธีรับประทาน : หลังอาหารเช้า-เย็น

  • ราคาปกติ : 390 บาท (30 เม็ด)

           สำหรับใครที่ต้องการซื้อวิตามินบีรวมเพื่อช่วยคลายเครียด บำรุงระบบประสาทและสมอง ลองส่องดูยี่ห้อที่ตอบโจทย์ความต้องการได้เลย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากมีโรคประจำตัว หรือแพ้อาหาร แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเพื่อความปลอดภัย

บทความที่เกี่ยวข้องกับวิตามินบี

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิตามินบีรวมยี่ห้อไหนดี ปี 2024 เพื่อคนวัยทำงานที่เครียด ใช้สมองเยอะ เหนื่อยล้า พักผ่อนน้อย อัปเดตล่าสุด 5 มกราคม 2567 เวลา 15:49:40 100,099 อ่าน
TOP