7 ผักไมโครกรีน microgreen ผักจิ๋วประโยชน์เยอะ

ผักไมโครกรีน ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ใครยังไม่รู้จักผักจิ๋วเหล่านี้ มารู้ไปพร้อมกันเลยว่าไมโครกรีนคืออะไร มีชนิดไหนบ้าง

ไมโครกรีน (Microgreen) อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย เป็นเหตุผลที่ใครต่อใครหลงรักเจ้าผักจิ๋ว ยิ่งถ้าได้รู้ประโยชน์ของไมโครกรีน ก็เชื่อได้เลยว่าจะต้องมีคนอยากลองปลูกไว้กินเองที่บ้านแน่ ๆ ดังนั้น เพื่อความอินยิ่ง ๆ ขึ้นไป เราจะพามารู้จักผักชนิดนี้ พร้อมกับเช็กลิสต์ว่าผักจิ๋วมีอะไรบ้าง

ไมโครกรีน คืออะไร

ไมโครกรีน หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Microgreen คือ ต้นอ่อนของพืชผักที่ยังเติบโตไม่เต็มวัย งอกมาจากเมล็ดของพืช เช่น ผัก สมุนไพร หรือธัญพืชชนิดต่าง ๆ ที่เมื่อร่วงลงดินหรือเพาะลงดินก็จะงอกได้ในระยะเวลา 7-10 วัน และเมื่อต้นอ่อนสูงสัก 1-4 นิ้ว มีใบ 1-3 ใบ ก็สามารถเก็บมารับประทานได้แล้ว ดังนั้น หลายคนก็อาจจะเรียกไมโครกรีนว่าผักจิ๋วกันด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไมโครกรีนจะเป็นผักที่ยังไม่โตเต็มวัย แต่กลับอัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์ที่น่าทึ่ง บางสายพันธุ์ก็มีสารอาหารสูงกว่าผักที่โตเต็มวัยเสียอีก เพราะในระยะที่ยังเป็นต้นอ่อนอยู่ พืชจะผลิตสารอาหารสำคัญอย่างวิตามิน แร่ธาตุในปริมาณเข้มข้น เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ไมโครกรีนส่วนใหญ่จึงมีสารอาหารต่าง ๆ ที่ค่อนข้างสูงกว่าผักโตเต็มวัย โดยเฉพาะโพแทสเซียม เหล็ก สังกะสี แมกนีเซียม ทองแดง และสารต้านอนุมูลอิสระ

ไมโครกรีน มีอะไรบ้าง

ไมโครกรีนมีหลากหลายชนิดให้เลือกปลูกและรับประทาน แต่ละชนิดก็จะมีรสชาติและคุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน เช่น ไมโครกรีนกลุ่มกะหล่ำ, ไมโครกรีนกลุ่มผักใบเขียว, ไมโครกรีนกลุ่มหัวหอม, ไมโครกรีนกลุ่มทานตะวัน, ไมโครกรีนกลุ่มธัญพืช เช่น ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ถั่วเลนทิล และยังมีไมโครกรีนจากพืชชนิดอื่น ๆ อย่างแครอต ขึ้นฉ่าย กระเทียม ควินัว บีทรูต เป็นต้น

7 ผักไมโครกรีน
ผักจิ๋ว ประโยชน์จุใจ

ผักไมโครกรีนที่เป็นที่นิยมก็มีหลายชนิดด้วยกัน เช่น

1. ต้นอ่อนทานตะวัน

ไมโครกรีนที่ได้รับความนิยมมานานก็ต้องยกให้ต้นอ่อนทานตะวัน โดยผักจิ๋วชนิดนี้อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เช่น วิตามินบี 1 บี 6 วิตามินอี วิตามินซี ซีลีเนียม แคลเซียม ธาตุเหล็ก กรดไขมันโอเมก้า 3, 6, 9 และมีสารสำคัญอย่างกาบา (GABA) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีสารสื่อประสาทที่ช่วยลดความตึงเครียด ความวิตกกังวล ช่วยให้นอนหลับง่าย นำไปปรุงได้หลายเมนู

ต้นอ่อนทานตะวัน ประโยชน์อนันต์ที่ไม่ควรพลาดจากพืชตัวน้อย

9 เมนูต้นอ่อนทานตะวัน หลากเมนูอร่อยจากผักทางเลือก พร้อมวิธีเพาะแบบง่าย ๆ

2. ต้นอ่อนกะหล่ำปลีม่วง (Red cabbage)

ต้นอ่อน Red cabbage เป็นผักจิ๋วอีกหนึ่งชนิดที่ประโยชน์ฉ่ำมาก ทั้งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระทรงพลังอย่างโพลีฟีนอล และสารกลูโคซิโนเลต (Glucosinolates) ที่พบเฉพาะในผักตระกูลกะหล่ำและผักกาดเท่านั้น ซึ่งสารนี้มีสรรพคุณช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ จึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังอย่างโรคหัวใจและหลอดเลือด

3. ต้นอ่อนหัวไชเท้า

ต้นอ่อนหัวไชเท้า (ผักกาดหัว) หรือ ไควาเระ เป็นต้นอ่อนในกลุ่มพืชตระกูลกะหล่ำ ที่มีสารสำคัญอย่างกลูโคซิโนเลต (Glucosinolates) ที่เป็นสารต้านมะเร็ง และยังมีวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี สารเคมเฟอรอล ไกลโคไซด์ (Kaempferol glycosides) ซึ่งเป็นสารเสริมภูมิต้านทาน และช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้อีกแรง โดยรสชาติของต้นอ่อนชนิดนี้จะซ่า ๆ เผ็ดเล็กน้อย เอาไว้ชูรสอาหารได้ดี

4. ต้นอ่อนบรอกโคลี

บรอกโคลีก็เป็นพืชในตระกูลกะหล่ำ จึงมีสารต้านมะเร็งอย่างกลูโคซิโนเลต (Glucosinolates) และสารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) โดยพบว่ามีอยู่มากกว่าบรอกโคลีที่โตเต็มวัย อีกทั้งในต้นอ่อนบรอกโคลียังอุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น วิตามินซี วิตามินเค เหล็ก แคลเซียม และแมกนีเซียม ซึ่งล้วนเป็นสารที่ดีต่อสุขภาพของเราและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

5. ต้นอ่อนถั่วลันเตา

หรือเรียกอีกชื่อว่า โต้วเหมี่ยว เป็นอีกหนึ่งต้นอ่อนของพืชตระกูลถั่วที่ได้รับความนิยมทั้งในการปลูกและการบริโภค ด้วยรสชาติที่หวาน กรอบ มีคุณค่าทางอาหารสูง เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินเค ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน ลูทีน ซีแซนทิน จัดเป็นผักที่ช่วยบำรุงสายตา มีสารอาหารบำรุงสุขภาพหลายชนิด แถมรสชาติก็อร่อยเด็ดอีกด้วย

6. ต้นอ่อนข้าวสาลี (Wheatgrass)

คุ้นชื่อกันดีเพราะค่อนข้างเป็นที่นิยม โดยต้นอ่อนข้าวสาลีก็อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เพราะมีไฟเบอร์ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามินเค ธาตุเหล็ก คลอโรฟิลล์ รวมไปถึงกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้

ต้นอ่อนข้าวสาลี (Wheatgrass) ประโยชน์ดียังไง มารู้จักพืชที่คนกินได้ แมวก็กินดี

7. อัลฟัลฟา

ต้นอ่อนถั่วอัลฟัลฟา (alfalfa) ค่อนข้างนิยมมากในต่างประเทศ และเริ่มจะมีกระแสแรงมากขึ้นในบ้านเรา โดยเฉพาะคนที่สนใจเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะเป็นต้นอ่อนที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระชนิดไฟโตนิวเทรียนต์ ช่วยส่งเสริมการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย

ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ เช่น วิตามินเค แคลเซียม แมงกานีส ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อการบำรุงกระดูก รวมถึงวิตามินซีและซิงก์ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีสารประกอบจากพืชอย่างซาโปนิน ช่วยในการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้ และด้วยความที่เป็นพืชตระกูลถั่ว จึงมีสารอาหารอย่างโปรตีน ไขมันดี ไฟเบอร์ ที่สำคัญคือมีไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งดีต่อการปรับสมดุลฮอร์โมนในเพศหญิงอีกด้วย

ไมโครกรีนจิ๋วแต่แจ๋วจริง ๆ ลองหามารับประทานกันดูนะคะ ถ้าจะให้ดีควรสลับกินต้นอ่อนหลากชนิด ในหลาย ๆ เมนู ทั้งสลัด ผักสด น้ำผัก จิ้มน้ำพริก ใช้เป็นส่วนผสมในเมนูต่าง ๆ เช่น ไข่เจียว ซุป แกง แต่ควรเลือกรับประทานผักที่สดใหม่ ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้แล้วล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน หรือใครอยากจะลองปลูกไมโครกรีนด้วยตัวเองบ้างก็ลงมือเพาะผักกันเลย

บทความที่เกี่ยวข้องกับผักเพื่อสุขภาพ

ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline.com, medicalnewstoday.com, homemicrogreens.com, draxe.com, ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร

7 ผักไมโครกรีน ประโยชน์อลัง กินผักจิ๋วอะไรได้บ้าง แต่ละชนิดดีต่อสุขภาพยังไง