ต้นอ่อนข้าวสาลี (Wheatgrass) ถือเป็นซูเปอร์ฟู้ดที่อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระ และวันนี้เราจะพามารู้จักพืชชนิดนี้กัน
Wheatgrass หรือต้นอ่อนข้าวสาลี โดยปกติแล้วจะนิยมนำมาคั้นเป็นน้ำสด ๆ ดื่ม หรืออาจจะเคยเห็นต้นอ่อนข้าวสาลีในรูปแบบผงสำเร็จรูปกันมาบ้าง และเหล่าทาสแมวก็คงเคยเพาะต้นสดให้น้อง ๆ กิน เพราะประโยชน์ของต้นอ่อนข้าวสาลีมีอยู่มากมายเลยทีเดียว
ต้นอ่อนข้าวสาลี คืออะไร
ต้นอ่อนข้าวสาลี ภาษาอังกฤษเรียกว่า Wheatgrass คือต้นอ่อนที่เพิ่งงอกออกจากเมล็ดข้าวสาลี เหมือนการงอกของถั่วงอกจากถั่วเขียว โดยต้นอ่อนข้าวสาลีจัดเป็นพืชในวงศ์หญ้า (POACEAE หรือ GRAMINEAE) มีลักษณะเป็นใบหญ้าหนา สีเขียวสดใส คล้ายกับฟางหรือหญ้าแห้ง ซึ่งส่วนนี้จะอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร
ต้นอ่อนข้าวสาลี
อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
ตามข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ผงต้นอ่อนข้าวสาลี ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 8 กรัม) มีสารอาหารดังนี้
- พลังงาน 25 แคลอรี
- โปรตีน 1 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 6 กรัม
- ไฟเบอร์ 4 กรัม
- แคลเซียม 24 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 1 มิลลิกรัม
- วิตามินเค 86 ไมโครกรัม
นอกจากนี้ ต้นอ่อนข้าวสาลียังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี คลอโรฟิลล์ที่พบได้ในพืชสีเขียว รวมไปถึงกรดอะมิโนกว่า 10 ชนิด และเอนไซม์อื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ต้นอ่อนข้าวสาลี ประโยชน์ดียังไง
ประโยชน์ของต้นอ่อนข้าวสาลี มีดีต่อสุขภาพหลายด้าน เช่น
1. อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และสารต้านอนุมูลอิสระ
ต้นอ่อนข้าวสาลี อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน และสารอาหารอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก กรดอะมิโน คลอโรฟิลล์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีสรรพคุณช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย ลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้
2. เป็นแหล่งพลังงาน
เนื่องจากต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นพืชในวงศ์หญ้า จึงมีทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ทำให้มีแรงไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะใครที่อยากเติมพลังหลังออกกำลังกาย ถ้าดื่มน้ำต้นอ่อนข้าวสาลีเข้าไปก็จะรู้สึกสดชื่น ฟื้นจากอาการอ่อนเพลียได้
3. มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ผู้ป่วยเบาหวานกินได้
ต้นอ่อนข้าวสาลีจัดเป็นอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (Low Glycemic Index) กินเข้าไปจึงไม่ค่อยส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด และยังมีการศึกษาในระดับสัตว์ทดลองที่พบว่า ต้นอ่อนข้าวสาลีมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของหนูที่ถูกทำให้เป็นเบาหวานได้ แต่ทั้งนี้ความสามารถในการลดระดับน้ำตาลในคนก็ยังต้องศึกษากันต่อไป
4. ดีต่อระบบทางเดินอาหาร
ต้นอ่อนข้าวสาลีมีใยอาหารสูง จึงมีส่วนช่วยรักษาสุขภาพของลำไส้ อีกทั้งยังมีหลักฐานการใช้ต้นอ่อนข้าวสาลีบรรเทาอาการปวดท้อง อาการท้องเสีย หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร มาตั้งแต่โบราณ และในการศึกษาในกลุ่มวิจัยขนาดเล็กก็พบว่า ผู้เข้ารับการทดลอง 23 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่ดื่มน้ำคั้นต้นอ่อนข้าวสาลี วันละ 100 มิลลิลิตร ทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน เทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาหลอก คนที่กินต้นอ่อนข้าวสาลีมีอัตราการเกิดปัญหาในระบบทางเดินอาหารลดลง และปัญหาถ่ายเป็นเลือดก็ลดลงด้วย
5. ช่วยดีท็อกซ์ลำไส้
มีการศึกษาพบว่า ต้นอ่อนข้าวสาลีมีเอนไซม์ช่วยย่อย และมีส่วนทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้การรับประทานต้นอ่อนข้าวสาลียังช่วยดีท็อกซ์ลำไส้ ทำให้ระบบทางเดินอาหารสะอาด ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ อาการแน่นท้องจากกรดเกิน และยังช่วยป้องกันอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหารได้
6. มีส่วนช่วยลดน้ำหนัก
Wheatgrass เป็นอาหารที่ปราศจากไขมัน และยังมีแคลฯ ต่ำ แถมกินเข้าไปก็ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนาน ช่วยลดความอยากอาหารรสหวานและอาหารไขมันสูงได้อีกทาง
7. ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
ต้นอ่อนข้าวสาลีอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและกรดอะมิโน จึงมีส่วนช่วยป้องกันการอักเสบต่าง ๆ และมีส่วนช่วยเสริมกำลังในการต่อสู้กับเชื้อโรคที่รุกล้ำเข้าร่างกาย ถือเป็นการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไปในตัว
ต้นอ่อนข้าวสาลี กินยังไง
วิธีกินต้นอ่อนข้าวสาลีที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่
- คั้นเป็นน้ำข้าวสาลีสด ๆ โดยนำต้นอ่อนข้าวสาลีสดมาคั้นกับน้ำสะอาดแล้วดื่มเป็นน้ำผัก ซึ่งอาจจะเติมรสชาติด้วยน้ำผึ้ง หญ้าหวาน หรือนำไปผสมกับน้ำผลไม้หรือน้ำผักอื่น ๆ ก็ได้
- ปั่นเป็นสมูทตี้ สูตรที่นิยมจะผสมต้นอ่อนข้าวสาลีกับผลไม้หรือผักชนิดอื่น ๆ เช่น กล้วย แครอต แอปเปิล สับปะรด แก้วมังกร เพื่อเพิ่มรสชาติตามชอบ
- โรยหน้าอาหารเมนูต่าง ๆ โดยสามารถสับต้นอ่อนข้าวสาลีเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปโรยหน้าสลัด เมนูยำ หรือเมนูอื่น ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการก็ได้
- ผสมในเครื่องดื่ม เพียงใส่ผงต้นอ่อนข้าวสาลีสำเร็จรูปลงในน้ำผลไม้ นม หรือโยเกิร์ต ตามต้องการ
- กินเป็นอาหารเสริม ซึ่งมีจำหน่ายในรูปแบบผงอัดแคปซูลหลากหลายยี่ห้อให้เลือกสรร
ต้นอ่อนข้าวสาลี แมวก็กินได้
นอกจากประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์แล้ว แมวก็สามารถกินต้นอ่อนข้าวสาลีได้เช่นกัน โดยต้นอ่อนข้าวสาลีจะช่วยเสริมวิตามินและสารอาหารให้น้องแมว และมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพช่องปากและระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดปัญหาก้อนขนในลำไส้ แถมยังช่วยให้น้องแมวคลายเครียดได้อีกด้วย
ส่วนวิธีให้น้องแมวกินต้นอ่อนข้าวสาลี ก็เพาะจากเมล็ดข้าวสาลี หรือซื้อแบบต้นอ่อนข้าวสาลีที่โตแล้ว มาให้น้องแมวกินสด ๆ เหมือนต้นหญ้าได้เลย
ต้นอ่อนข้าวสาลี ข้อเสียมีไหม
ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง
อาการข้างเคียงที่อาจพบได้หลังกินต้นอ่อนข้าวสาลี เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว ท้องผูก อาหารไม่ย่อย ท้องไส้ปั่นป่วน ซึ่งมักจะเจอในคนที่เริ่มกินต้นอ่อนข้าวสาลี และอาการเหล่านี้มักจะหายไปภายใน 2 สัปดาห์ หรือหลังจากร่างกายปรับตัวกับการย่อยต้นอ่อนข้าวสาลีได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังกินต้นอ่อนข้าวสาลีควรดื่มน้ำตามมาก ๆ หรือดื่มน้ำสัก 1 แก้วปกติ ก็จะช่วยลดอาการข้างเคียงลงได้เช่นกัน
ข้อควรระวังก่อนรับประทาน
ต้นอ่อนข้าวสาลี
- หากสนใจต้นอ่อนข้าวสาลีในรูปแบบอาหารเสริม ควรซื้อจากร้านค้าที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ หรือมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการ เภสัชกร คอยให้คำแนะนำ
- เมื่อเริ่มรับประทานต้นอ่อนข้าวสาลี ควรเริ่มจากปริมาณน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้ร่างกายปรับตัวกับการย่อย
- ระวังอาการแพ้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเซลิแอค แพ้ข้าวสาลี หญ้า หรือแพ้กลูเตน อาจแพ้ต้นอ่อนข้าวสาลีได้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานต้นอ่อนข้าวสาลี
ต้นอ่อนข้าวสาลีจัดเป็นอาหารเสริมชนิดหนึ่งซึ่งมีส่วนช่วยดูแลสุขภาพโดยรวมของเราได้ แต่ทั้งนี้ก็อย่าลืมใส่ใจการดูแลสุขภาพในด้านอื่น ๆ เช่น กินอาหารให้ครบหลักโภชนาการ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพยายามไม่เครียด ซึ่งหากทำตามนี้ได้เป็นกิจวัตรประจำวันก็จะดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมากเลยทีเดียว