เผย จนท.รพ.สหรัฐฯ ติดเชื้ออีโบลารายที่ 2 ใส่ชุดป้องกัน แต่ละเลยหลักปฏิบัติ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก NORTH AMERICA / AFP
เผยผลสอบเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเทกซัส สหรัฐฯ ติดเชื้ออีโบลารายที่ 2 ใส่ชุดป้องกันเต็มที่ ขณะดูแลผู้ป่วยอีโบลาคนแรกของสหรัฐฯ แต่ละเลยหลักปฏิบัติขณะดูแลผู้ป่วย
วันที่ 12 ตุลาคม 2557 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า พยาบาลหญิงของโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสบีเทอเรียน ในเมืองดัลลาส รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อรายที่ 2 ในสหรัฐฯ ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่า พยาบาลหญิงคนดังกล่าวเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่ดูแลนายโทมัส อีริค ดันแคน ผู้ป่วยอีโบลารายแรกของสหรัฐฯ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ ดร.เดวิด เลคีย์ คณะกรรมาธิการสำนักบริการสาธารณสุขรัฐเทกซัส เปิดเผยว่า หลังจากที่พยาบาลหญิงของโรงพยาบาลเทกซัส ได้รับการวินิจฉัยในเบื้องต้นว่าติดเชื้ออีโบลา ก็ถูกแยกตัวเพื่อดูอาการอย่างใกล้ชิดแล้ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังได้เตรียมการรับมือในกรณีที่มีแนวโน้มว่า มีผู้ติดเชื้ออีโบลาเพิ่มขึ้น พร้อมมอบหมายให้ทีมเจ้าหน้าที่ในเมืองดัลลาสช่วยสกัดการแพร่ระบาด และขอให้ดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุด
ล่าสุด วันที่ 13 ตุลาคม 2557 ดร.ทอม ฟรีเดน หัวหน้าศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ หรือ ซีดีซี เปิดเผยผลสอบการติดเชื้ออีโบลาของพยาบาลหญิงของโรงพยาบาลเทกซัสว่า จากการสอบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนซึ่งทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอีโบลาได้ใส่เครื่องป้องกันการติดเชื้อขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย แต่เหตุที่พยาบาลหญิงคนดังกล่าวได้รับเชื้ออีโบลา เนื่องจากละเลยการปฏิบัติตามกฎวิธีปฏิบัติในการป้องกันโรคอย่างชัดเจนขณะดูแลผู้ป่วย สำหรับกระบวนการที่ความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ติดเชื้ออีโบลาขณะดูแลผู้ป่วยมี 2 กระบวนการ ประกอบด้วย
1. การกรองของเสียจากเลือดของคนไข้
2. การใส่ท่อหายใจให้ผู้ป่วย
ขณะที่โรงพยาบาลเทกซัส ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่แพทย์ทุกคนที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยอีโบลาต้องสวมใส่เครื่องป้องกันการติดเชื้อทุกครั้ง แต่ละเลยการปฏิบัติตามกฎจึงทำให้ติดเชื้ออีโบลา และเหตุการณ์ที่มีเจ้าหน้าที่ติดเชื้ออีโบลาระหว่างการดูแลผู้ป่วยอีโบลานั้น ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งที่สเปน เป็นกรณีที่พยาบาลหญิงติดเชื้ออีโบลาระหว่างการดูแลผู้ป่วยอีโบลา เนื่องจากเผลอใช้มือที่สวมถุงมือป้องกันแตะโดนใบหน้าตนเองระหว่างถอดถุงมือออก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก