x close

วันล้างมือโลก อึ้ง คนไทยกว่า 88% เข้าห้องน้ำเสร็จไม่ล้างมือ


          กระทรวงสาธารณสุขเผยในวันล้างมือโลก พบคนไทยกว่า 88% ไม่ยอมล้างมือหลังจากขับถ่าย  เสี่ยงติดเชื้อโรคอันตราย

          วันนี้ (15 ตุลาคม พ.ศ. 2557) นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 15 ตุลาคมของทุกปี องค์การสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UN ได้กำหนดให้เป็นวันล้างมือโลก (Global Hand Washing Day) เพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้คนทั่วโลก หันมาให้ความสนใจกับการล้างมืออย่างถูกวิธี และสร้างวัฒนธรรมการล้างมือที่สะอาดถูกสุขอนามัย เพื่อช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ลดอาการป่วยและการเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อที่สำคัญ อย่างเช่น ปอดบวม อุจจาระร่วง และไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ เป็นต้น โดยองค์การยูนิเซฟระบุว่าในแต่ละปี มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ป่วยและเสียชีวิตจากโรคอุจจาระร่วงและโรคปอดบวมรวมกันมากกว่า 5 ล้านคน มากกว่าการเสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ มาลาเรีย และวัณโรครวมกัน ซึ่งมีผลการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าการล้างมือด้วยน้ำและสบู่อย่างถูกวิธีเพียง 15 วินาที สามารถลดการติดเชื้อได้เกือบ 100%

วันล้างมือโลก

          สำหรับในประเทศไทย สำนักระบาดวิทยารายงานว่าในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโรคติดเชื้อรวมกันจำนวน 1.3 ล้านราย เสียชีวิต 65 ราย และคาดว่าเมื่อสิ้นปีจะมีจำนวนสูงขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน ซึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการล้มป่วยก็เกิดจากการที่ไม่ยอมล้างมืออย่างถูกวิธีก่อนรับประทานอาหาร โดยกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้สำรวจพฤติกรรมล้างมือของคนไทยวัยทำงานที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ระหว่างเดือนมิถุนายน ถึง กรกฎาคม 2557 พบว่า มีการไม่ล้างมือด้วยสบู่หลังจากขับถ่ายสูงถึงร้อยละ 88 ซึ่งทำให้มีโอกาสติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้สูงขึ้น อาทิเช่น เชื้อโรคจากอุจจาระ โดยผลการศึกษาในต่างประเทศพบว่าในอุจจาระคนขนาดน้ำหนัก 1 กรัม จะมีเชื้อแบคทีเรียอยู่ถึง 1 ล้านตัว และพบเชื้อไวรัสมากถึง 10 ล้านตัว หากมีอุจจาระติดมือ เชื้อโรคก็จะติดมาด้วย และเชื้อโรคเหล่านั้นสามารถก่อโรคได้ตลอดเวลา ดังนั้นจึงได้สั่งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ช่วยกันรณรงค์ปลูกฝังให้ประชาชนล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำเพื่อให้ติดเป็นนิสัย ซึ่งการล้างมืออย่างถูกวิธีสามารถป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ถึง 90%

          ทางด้าน ดร.นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ได้กล่าวว่า การล้างมือด้วยน้ำและสบู่ที่ถูกวิธี จะช่วยลดปริมาณเชื้อโรคที่มือได้ดีที่สุด โดยมี 7 ขั้นตอน ได้แก่
 
1. ฝ่ามือถูกัน
 
2. ฝ่ามือถูหลังมือและนิ้วถูซอกนิ้ว
 
3. ฝ่ามือถูฝ่ามือและนิ้วถูซอกนิ้ว
 
4. หลังนิ้วมือถูฝ่ามือ
 
5. ถูนิ้วหัวแม่มือโดยรอบด้วยฝ่ามือ
 
6. ปลายนิ้วมือถูขวางฝ่ามือ
 
7. ถูรอบข้อมือ
 
          โดยทุกขั้นตอนทำ 5 ครั้ง สลับกันทั้ง 2 ข้าง เพียง 15 - 20 วินาที ก็จะช่วยทำให้มือสะอาดถูกสุขอนามัยและปลอดภัยจากเชื้อโรคได้ 

          นอกจากนี้ในระดับครอบครัวยังควรปลูกฝังการล้างมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้ง โดยสร้างนิสัยล้างมือก่อนหรือหลังทำกิจกรรมเหล่านี้ อาทิเช่น ก่อนรับประทานอาหาร ก่อนและหลังการเตรียมปรุงอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และหลังสัมผัสสิ่งสกปรก เช่น หลังการไอ จาม สั่งน้ำมูก หลังจากทำความสะอาดบ้านและบริเวณบ้าน หลังสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง หลังจากออกไปปฏิบัติภารกิจนอกบ้าน และหลังจากสัมผัสสิ่งของที่ใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น ลิฟต์ ราวบันได รถยนต์โดยสารสาธารณะ ที่จับประตูเปิด-ปิด  รถเข็นห้างสรรพสินค้า เป็นต้น เนื่องจากสิ่งของเหล่านั้นเป็นจุดสะสมเชื้อโรคต่าง ๆ ไว้มากมาย ทั้งนี้การล้างมือให้สะอาดนั้น ใช้เพียงน้ำและสบู่ทั่วไปก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ส่วนลักษณะของอ่างล้างมือที่ถูกสุขลักษณะก็ควรระบายน้ำได้ดีและต้องไม่มีน้ำขังในจุดที่วางสบู่ หากไปในที่ไม่มีน้ำล้าง ก็สามารถใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือแทนได้

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วันล้างมือโลก อึ้ง คนไทยกว่า 88% เข้าห้องน้ำเสร็จไม่ล้างมือ อัปเดตล่าสุด 5 มีนาคม 2563 เวลา 22:02:30 3,375 อ่าน
TOP