10 อาหารต้านอ้วน (ไทยโพสต์)
บอกลา "ยาลดความอ้วน" และการ "เบิร์นไขมัน" จากการออกกำลังกายที่หักโหมจนเกินไป สำหรับการลดน้ำหนักที่นับวันจะทวีคูณขึ้น จากอาหารขยะที่ขยันส่งมาล่อใจสาวออฟฟิศ สุดแสนบี่ซี่ทั้งหลายแหล่ เพราะอาหาร 10 ชนิดที่จะกล่าวต่อไปนี้ ไม่ใช่แค่ลดไขมันในเลือด แต่ยังอุดมโปรตีนและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และที่แน่ ๆ ช่วยลดน้ำหนักที่ไม่พึงประสงค์ลงได้อย่างชะงัด...ไม่เชื่อก็ลองไปดูกัน
กระเทียม
พืชสมุนไพรบ้าน ๆ อย่างกระเทียมนั้น เป็นได้มากกว่าเครื่องปรุงรสอาหาร เพราะมันสามารถทำให้หน้าท้องของคุณแบนเรียบปราศจากห่วงยาง นั่นก็เป็นเพราะว่าในกระเทียมประกอบด้วย "สารอัลลิซิน" ซึ่งทำหน้าที่ลดไขมันในเลือดนั่นเอง
เกริ กลาสแมน นักโภชนาการอาหาร กล่าวว่า "สารอัลลิซิจะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อทางเดินอาหาร ซึ่งจะทำให้ลำไส้ของคุณสะอาด และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือความหมายหนึ่งคือ ทำให้ลำไส้ขยายตัวน้อยลง ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้กินน้อยอิ่มเร็ว"
นอกจากนี้ผลการวิจัยจากประเทศเกาหลีใต้ ยังระบุว่า "พืชตระกูลกระเทียมอย่างหอมแดง ยังมีสรรพคุณที่ช่วยต่อต้านโรคอ้วน ที่มีสาเหตุมาจากโปรตีนในตับสูงเช่นกัน" ดังนั้นหากเป็นได้ในทุกมื้ออาหารที่มีส่วนประกอบของสัตว์ปีก หรือพลาสตา หรือการทำน้ำสลัด แนะนำให้บดกระเทียมลงไปคลุกเคล้า แค่นี้โรคอ้วนก็ห่างไกลคุณแล้ว
ถั่ว
หากคุณกำลังอยากหม่ำข้าวสวยร้อน ๆ หรืออาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตนั้น ให้คุณลองมองหาพืชตระกูลถั่ว ราแชล บีเกน นักโภชนาการบอกไว้ว่า "ถั่วไม่ใช่อาหารควบคุมน้ำหนัก ที่ซ้ำกับพืชสมุนไพรอื่น ๆ เพราะถั่วมีทั้งไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร และอุดมไปด้วยโปรตีน โดยถั่วเมล็ดสีดำ 1 ถ้วยนั้น ประกอบด้วยเส้นใยอาหารถึง 17 กรัม และโปรตีนอีก 14 กรัม"
เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า กากใยอาหารและโปรตีนในถั่วนั้น จะช่วยให้อิ่มเร็ว อีกทั้งให้พลังที่สูง ซึ่งจะทำให้คุณบริโภคอาหารในมื้อถัดไปน้อยลง ประกอบกับผลงานวิจัยล่าสุด ที่ตีพิมพ์ลงในวารสารโรคอ้วนนั้น พบว่าสารสกัดที่พบได้จากถั่วสีขาว จะช่วยลดการดูดซึมไขมัน จากการบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต และลดอัตราการดูดซึมน้ำตาลจากขนมหวานให้ลดน้อยลงด้วยเช่นกัน อันเนื่องมาจากเอนไซม์บางชนิดที่มีคุณสมบัติยับยั้งการย่อย ที่พบได้ในถั่วเมล็ดสีขาวนั่นเอง
ถั่วพิสตาชิโอ
ดร.แคทเธอรีน บรูคกิ่ง กล่าวว่า "ถั่วพิสตาชิโอเป็นอาหารคบเคี้ยวที่สามารถควบคุมน้ำหนักได้ เพราะในถั่วพิสตาชิโอ 1 ออนซ์ มีโปรตีนทั้งหมด 6 กรัม และเส้นใยอาหาร 3 กรัม ซึ่งสารอาหารดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคควรให้ความสนใจมากกว่าที่คบเคี้ยวถั่วเมล็ดแข็งดังกล่าว เพื่อความอร่อยเท่านั้น"
นักโภชนาการสาว กล่าวต่อว่า "ถ้าต้องการบริโภคถั่วพิสตาชิโอแทนอาหารว่างอย่างอื่นนั้น แนะนำให้คุณแกะเปลือกถั่วก่อนรับประทาน เพราะนั่นไม่เพียงเป็นการควบคุมไขมันจากการรับประทานถั่วที่ช้าลงแล้ว แต่มันยังช่วยลดการบริโภคน้ำตาลและเกลือจากอาหารคบเคี้ยว หรือจังก์ฟู้ดที่คุณบริโภคเป็นประจำอีกด้วย"
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น จากการศึกษาวิจัยในกลุ่มของผู้ที่รับประทานถั่วพิสตาชิโอ ของมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นอิลลินอยส์พบว่า "การแกะเปลือกก่อนรับประทานถั่วดังกล่าว จะทำให้ผู้บริโภคได้รับปริมาณไขมันลดลงถึงร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานถั่วเปลือกแข็งดังกล่าวทั้งเมล็ด"
สาหร่ายทะเล
สาว ๆ คนไหนที่ไม่ยากพกห่วงยางเดินไปไหนมาไหนแล้วล่ะก็ แนะนำว่าให้ลองบริโภคสาหร่ายทะเล ทริกความอ้วนของสาวๆ ญี่ปุ่น ประเทศที่ถือได้ว่ามีอัตราคนอ้วนน้อยที่สุดในโลกก็ว่าได้ โดยเฉพาะ "สาหร่ายวากาเมะ" สาหร่ายที่อุดมไปด้วยโปรตีนสูง ที่ถือเป็นตัวช่วยในการควบคุมน้ำหนักให้สาวอาทิศอุทัยได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะสารฟิวโคแซนทิน ที่สกัดได้จากสาหร่ายวากาเมะ ซึ่งได้รับการยืนยันและทดลองในสัตว์แล้วว่า ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี และจากการศึกษาค้นคว้าในสาหร่ายลดความอ้วนดังกล่าว ก็เพื่อต้องการหาค้นหา "สารอัลจิเนต" (สารมีลักษณะเหมือนเจลหล่อลื่น) หรือเจลที่พบได้ในกระเพาะอาหาร เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกอิ่มได้ง่ายขึ้น ซึ่งถ้าเป็นได้คุณสาวๆ ควรใส่สาหร่ายทะเลลงในซุป หรือเปลี่ยนจากแซนวิชผักกาดหอมมาเป็นแซนวิชสาหร่ายแทน
พริกจาลาปิโน (พริกหวานเม็กซิโก)
ข่าวดีของผู้ที่ชอบความเผ็ดร้อนจากพริก โดยเฉพาะ "พริกจาลาปิโน" พริกจากประเทศเม็กซิโก ที่ได้รับการวิจัยแล้วว่ามีสรรพคุณต้านการอักเสบและช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดี ซึ่งผลการวิจัยอื่น ๆ ยังพบว่า ผู้ที่รับประทานพริกไทย หรือพืชในตระกูลพริกนั้นจะรู้สึกหิวน้อยลง และหลังจากนั้นพริกไทยก็จะทำการเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น
และหนึ่งผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพอร์ดู ที่สนับสนุนข้อมูลดังกล่าว ได้ระบุไว้ว่า "อาสาสมัครที่บริโภคพริกไทยเป็นประจำนั้น พบว่าน้ำหนักของเขาเริ่มลดน้อย อันเนื่องจากการที่เขารู้สึกหิวน้อยลง หลังการรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของพริกไทย"
มันฝรั่งสีขาว
ลืมคำกล่าวที่ว่าอาหารสีขาว ๆ นั้นเป็นสาเหตุของโรคอ้วนไปได้เลย !!! เพราะล่าสุดนักโภชนาการอย่าง ดร.กลาสแมน ได้กล่าวไว้ว่า มันฝรั่งสีขาวนั้นสามารถลดความอ้วนได้ เพราะเป็นพืชที่อุดมไปด้วยแป้ง ดังนั้นเวลาที่ถูกหมักอยู่ในลำไส้ มันจะสร้างกรดแ"บิวทิเลต" ซึ่งเป็นไขมันที่กระตุ้นให้ร่างกายเกิดเผาผลาญไขมันนั่นเอง ขณะเดียวกันกรดดังกล่าวที่พบได้ในมันฝรั่งสีขาว ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วย
มะม่วง
คุณรู้หรือไม่ว่าผลไม้เนื้อแข็งสีเหลืองสด อย่างมะม่วงครึ่งผลนั้น มีเส้นใยในอาหารถึง 3 กรัม ซึ่งนั่นอาจไม่ใช่เหตุผลที่ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ ผลงานวิจัยใหม่จากมหาวิทยาลัย "โอคลาโฮมา" ชี้ให้เห็นว่า "มะม่วงอาจลดน้ำตาลในเลือด และยังสามารถควบคุมความยากอาหารในกลุ่มผู้บริโภคที่นิยมรับประทานอาหารประเภทแป้ง โดยเฉพาะมะม่วงที่ปลูกในเขตพื้นที่ร้อนทั่วโลก"
โยเกิร์ต
นอกจากคุณประโยชน์เรื่องไขมันต่ำแล้ว คุณสาว ๆ รู้หรือไม่ว่าใน "โยเกิร์ต" ยังมีแคลเซียมที่ไม่เพียงช่วยลดระดับ "ฮอร์โมนคอร์ติซอล" หรือฮอร์โมนความเครียดในร่างกายลง
ขณะเดียวกันก็จะเปลี่ยนจากการลดการเผาผลาญไขมัน โดยหันมาจัดเก็บไขมันแทน และที่น่าสนใจไปกว่านั้น ในโยเกิร์ตยังเป็นแหล่งของ "โปรไบโอติก" หรือเชื้อแบคทีเรียที่ปะปนอยู่ในอาหาร แต่ไม่ก่อให้เกิดโรค ซึ่งแบคทีเรียชนิดดังกล่าวนั้นเป็นปัจจัยกระตุ้นให้กระเพาะอาหาร ทำการย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น
อีกทั้งยังช่วยให้การขับถ่ายดียิ่งขึ้น ซึ่งกรรมวิธีของการทำโยเกิร์ตนั้น ได้มาจากการหมัก และกรรมวิธีดังกล่าวนั้น จะทำให้ได้โปรตีนและวิตามินบีที่มีความเข้มข้นสูง รวมไปถึงโพแทสเซียม แมกนีเซียม เมื่อเทียบกับนมวัวที่ได้ชื่อว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุดก็ตาม
อะโวคาโด
แม้ว่าอะโวคาโดถือได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีปริมาณไขมันสูงถึง ร้อยละ 80 แต่ทว่าผลไม้ขรุขระสีเขียวเข้มดังกล่าว ก็ได้รับการยอมรับว่ามีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่รับประทานอะโวคาโดเป็นประจำนั้น จะมีรูปร่างผอมเพรียวหรืออ้วนน้อยกว่าผู้ที่ไม่รับประทาน และจากผลการศึกษาล่าสุดที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักความน่าสนใจให้กับผลอะโวคาโดนั้น พบว่าการรับประทานผลไม้ดังกล่าวหลังอาหารกลางวัน จะช่วยปรับลดดัชนีมวลกายให้ลดลง ได้ถึงร้อยละ 22 จากคำบอกเล่าของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่เข้าร่วมการวิจัย
อาร์ติโชค
ผักสีเขียวหน้าตาคล้ายลูกแก้วมังกรนี้ ล้วนอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ที่หากผ่าออกเป็น 2 ซีกแล้วนั้น จะอยู่ที่ซีกละ 6 กรัม หนำซ้ำในผักรูปร่างแปลกตาดังกล่าวนั้น ยังอัดแน่นไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยให้ย่อยง่ายอิ่มนานแล้ว ในผักดังกล่าวยังช่วยเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ซึ่งบางผลงานวิจัยยังระบุไว้ว่า ผล "อาร์ติโชค" ยังมีโปรไบโอติกที่คอยกระตุ้นแบคทีเรียชนิดดีให้กับลำไส้ของคุณ ทำให้ย่อยง่ายและขับถ่ายดีอีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับคุณสาว ๆ ที่ต้องการลดไขมันห่วงยางที่หน้าท้อง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก