ลูกโป่งแก๊สหัวเราะ คัมแบ็ค ! ระบาดหนักอีกครั้ง มั่วสุมทั่วข้าวสาร

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ คาหนังคาเขา ThaiTV Online

             ลูกโป่งแก๊สหัวเราะ Laughing gas คัมแบ็ค ! ระบาดอีกครั้ง ขายโจ๋งครึ่มทั่วข้าวสาร สนนใบละ 50-150 บาท แถมสอนวิธีสูดดม แพทย์เผย อันตรายแบบผ่อนส่ง สมองตายทีละนิด หนักสุดเป็นผักและเจ้าหญิงนิทรา บางรายเสียชีวิต

             เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 รายการคาหนังคาเขา ทางช่อง 9 ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับ "ไนตรัสออกไซด์" หรือที่ขาเที่ยวรู้จักกันดีในนามของ "แก๊สหัวเราะ" ที่ขณะนี้กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง แถมผู้ค้ายังวางขายเกลื่อนเต็มสถานที่ท่องเที่ยวแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย

             โดยรายงานระบุว่า ตามแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีทั้งหลาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติอันดับหนึ่งในกรุงเทพฯ อย่าง "ข้าวสาร" มีการติดแผ่นป้ายกันอย่างมากมาย บ้างก็ติดลูกโป่งเอาไว้ที่หน้าร้าน เพื่อเป็นที่รู้กันว่าร้านนี้มีลูกโป่งแก๊สหัวเราะจำหน่าย.. และเมื่อติดตามเฝ้าดูกลุ่มนักท่องเที่ยว จะเห็นว่าจะเดินไปในที่ดังกล่าว เลือกร้านที่ชอบ ก่อนที่จะซื้อขายกัน หลังจากนั้นนักท่องเที่ยวขาประจำก็สูดดมอย่างคล่องแคล่ว ส่วนนักท่องเที่ยวมือใหม่ ก็มีคนขายคอยแนะนำในการสูดดม และหลังจากสูดดมเข้าไปเพียงแต่แป๊บเดียวเท่านั้น เหล่านักท่องเที่ยวก็ดูเคลิบเคลิ้มและระเบิดหัวเราะออกมาสมกับชื่อ "Laughing gas" 
 
            ก่อนหน้านี้ก็มีการกวาดล้างจนหายไปสักพักหนึ่ง แต่ก็กลับมาระบาดใหม่อีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวลูกโป่งแก๊สหัวเราะ ถูกนำเข้ามาโดยชาวต่างชาติ ก่อนที่คนไทยจะเล็งเห็นถึงกำไร เลยนำมาทำเป็นธุรกิจ เนื่องจากอุปกรณ์ในการใช้ทำลูกโป่งหัวเราะนั้นง่ายแสนง่าย เพียงแค่มีตัวบีบและลูกโป่งมัดยางเอาไว้ สนนราคาขาย 50-150 บาท แล้วแต่ขนาดลูกโป่งใบใหญ่ ใบเล็ก แตกต่างกันไป
 
           และเมื่อสอบถามเจ้าของร้านว่าต้องใช้ลูกโป่งกี่ลูกถึงจะเมา ด้านพ่อค้าก็บอกว่าลูกแรกจะยังไม่รู้ผลเท่าไร ต้องใช้สองลูก และเป่าติด ๆ กันเลย..

           ส่วนสาเหตุที่ยังไม่มีการจับกุมอย่างเข้มงวดนั้น เป็นเพราะไม่มีกฎหมายมารองรับ เนื่องจากเจ้าแก๊สตัวดังกล่าว ก่อนหน้านี้ทางการแพทย์นำมาใช้ผสมเพื่อเป็นยาสลบ ยาชา แต่ปัจจุบันนั้นไม่ได้ใช้แล้ว เพราะพบว่ามีอันตราย แต่นำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาบางชนิดเท่านั้น ห้ามครอบครอง เพราะเป็นสารต้องห้าม ตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฐานผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท แต่กระนั้น ในส่วนของแวดวงอื่น ทั้งแวดวงเบเกอรี่ รถยนต์ อุตสาหกรรม สามารถจำหน่ายสารดังกล่าวได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ตรงนี้จึงเป็นช่องว่างในการนำแก๊สดังกล่าวมาใช้ในทางที่ผิด


            ขณะที่ ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศ ผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว ระบุถึงโทษของการสูดดมแก๊ส  "ไนตรัสออกไซด์" ว่า การสูดดมเข้าไปนั้น จะทำให้สมองขาดออกซิเจนชั่วขณะ ถึงจะไม่มาก แต่เมื่อเพิ่มติดต่อกันเล็ก ๆ น้อย ๆ สมองก็ตายที่ละนิด ๆ กลายเป็นจุดที่ใหญ่ขึ้น แล้วหากเกิดที่ตำแหน่งสำคัญซึ่งเป็นตัวสั่งการหรือควบคุมอะไรต่าง ๆ ก็จะมีผลข้างเคียงมากมาย ทำให้แขนขาอ่อนแรง สมองเสื่อม ปัญญาอ่อน หรือหากสูดดมเข้าไปในจนสลบและไม่ถูกเยียวยาแก้ไขในทันที สมองก็จะตาย อาจะมีโอกาสเป็นผัก หรือเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ และหากฟื้นกลับมา ร่างกายก็จะไม่เป็นปกติแล้ว ซึ่งเรื่องแก๊สหัวเราะในลูกโป่งมีที่ต่างประเทศมานานแล้ว บางคนมีผลข้างเคียงสูงมาก บ้างก็เสียชีวิตเลยก็มี แต่ในบ้านเรายังเป็นเรื่องใหม่ และยังไม่มีผู้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงถึงขั้นนั้น และการนำก๊าซมาใช้ก็เป็นเรื่องที่ควบคุมยาก

            อย่างไรก็ดีทางรายการได้ทิ้งท้ายไว้ว่า บางทีธุรกิจดังกล่าวอาจจะมีผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากการค้าขาย "แก๊สหัวเราะ" บนถนนท่องเที่ยวสุดฮิตอย่าง "ข้าวสาร" นั้น เป็นจุดที่ล่อแหลม แต่ทำไมถึงมีผู้ค้าวางขายของผิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้

คลิป คาหนังคาเขา 5Nov2014 part 2 ลูกโป่งแก๊สหัวเราะ โพสต์โดย รายการ คาหนังคาเขา ThaiTV Online