ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยออกโรงเตือน แพ็กเกจสุขภาพทัวร์ล้างพิษ มูลค่านับพันล้านแท้จริงแล้วเป็นแค่โฆษณาลวง เตือนผู้บริโภคไม่ควรหลงเชื่อ หากทำเกิน 3 ครั้ง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา ศ. นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา ประธานคณะอนุกรรมการวิชาการ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการล้างพิษลำไส้ หรือดีท็อกซ์ว่า เป็นหนึ่งในศาสตร์การแพทย์ทางเลือก ที่กำลังกลายเป็นที่นิยมแพร่หลาย เนื่องจากมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์กันในเชิงธุรกิจ ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่าพันล้านบาท โดยในปัจจุบันได้มีศูนย์ล้างพิษลำไส้เกิดขึ้นมากกว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ และส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในรูปแบบของแพ็กเกจท่องเที่ยวพร้อมกับบริการล้างพิษไปในตัว
โดย ศ. นพ.ปิยะมิตร ได้กล่าวว่า แม้วิธีการล้างพิษลำไส้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การที่มีโฆษณาออกมามาก ๆ ก็อาจจะทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิด และใช้วิธีดังกล่าวมากเกินความจำเป็น นอกจากนี้ การสวนล้างลำไส้ ยังทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกว่าลำไส้ของตนเองสะอาด ทั้งที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่การสวนให้อุจจาระออกมาคราวละมาก ๆ เท่านั้น และการสวนลำไส้บ่อย ๆ จะทำให้ลำไส้เกิดการบีบรัดตัวมากกว่าปกติ ถ้าหากอาการรุนแรงก็อาจเกิดอาการลำไส้ทะลุ โดยอาการเหล่านี้พบได้ประมาณ 1 ใน 4,000 คน นอกจากนี้การล้างลำไส้ยังทำให้สูญเสียแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะแบคทีเรียชนิดที่มีความจำเป็นต่อการขับถ่ายและร่างกาย ซึ่งวิธีล้างพิษที่ดีและปลอดภัยที่สุดก็คือการรับประทานผักและผลไม้ เพราะเส้นใยอาหารจะช่วยในการขับถ่ายตามธรรมชาตินั่นเอง
ทั้งนี้ ศ. นพ.ปิยะมิตร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การล้างพิษลำไส้ หากทำเกิน 3 ครั้ง จะทำให้เกิดอาการติด เนื่องจากทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น แต่ก็จะทำให้ร่างกายไม่สามารถขับถ่ายได้เอง และต้องพึ่งวิธีการดีท็อกซ์ไปตลอด ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต จึงมีความจำเป็นที่ต้องควบคุมให้การใช้ศาสตร์การแพทย์ทางเลือกดังกล่าวเป็นไปอย่างถูกต้อง และไม่มีการโฆษณาที่เกินจริง นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการใดพิสูจน์ได้ว่าการล้างพิษตับสามารถทำได้จริงดังที่มีปรากฏในโฆษณา และเมื่อมีการพิจารณาการล้างพิษตับดังกล่าวก็พบว่าสิ่งที่ใช้ล้างพิษมีเพียงน้ำมันมะกอก และดีเกลือ โดยดีเกลือมีคุณสมบัติในการช่วยขับถ่ายอยู่แล้ว และน้ำมันมะกอก เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว หากร่างกายดูดซึมไม่ทัน ก็จะขับถ่ายออกมาปนกับอุจจาระ ทำให้ผู้ที่ทำการล้างพิษคิดว่าสามารถล้างพิษได้จริงตามที่โฆษณา ซึ่งไม่เป็นความจริง แถมยังเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุอีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
