กระทรวงสาธารณสุข ออกโรงเตือน ห้ามนำปลาปักเป้าที่จับได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็มมาบริโภคโดยเด็ดขาด ชี้มีพิษร้ายแรง ถึงนำไปผ่านความร้อนสูงก็ทำลายพิษไม่ได้ เผยล่าสุดชาวบ้านที่นำมาทำอาหารกินเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย
จากกรณีชาวบ้านหัวเรือ จ.มหาสารคาม แบ่งปลาปักเป้าเพื่อนบ้านมาต้มกิน จนเกิดอาการแพ้อย่างหนัก ก่อนช็อกเสียชีวิต 1 ราย และยังมีไก่ที่เลี้ยงไว้ตาย 11 ตัว และแมวอีก 1 ตัว เนื่องจากกินเศษอาหารที่เจ้าของนำไปเททิ้งให้กิน ส่วนเพื่อนบ้านอีกคนที่แบ่งปลาปักเป้าไปทำอาหารก็อาการโคม่าเข้าไอซียู ตามที่ข่าวรายงานไปแล้วนั้น
ล่าสุด (24 กุมภาพันธ์ 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายที่อยู่ในอาการโคม่านั้น ได้เสียชีวิตลงแล้ว รวมเป็นมีผู้เสียชีวิต 2 รายจากการบริโภคปลาปักเป้าในครั้งนี้ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนได้รับประทานปลาปักเป้าในปริมาณที่มากเกินไป ประกอบกับดื่มสุราเข้าไปด้วย ทำให้พิษจากตัวปลากระจายไปยังระบบประสาทอย่างรวดเร็ว ทำให้แขนขาอ่อนแรงและหัวใจหยุดเต้น ก่อนจะเสียชีวิตในที่สุด
ขณะเดียวกันทางอำเภอวาปีปทุม ได้สั่งการผ่านกำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้ประกาศเตือนประชาชนห้ามนำปลาปักเป้าที่จับได้นำมารับประทานโดยเด็ดขาด เพราะถึงแม้ว่าจะใช้ความร้อนถึง 170 องศาเซลเซียส ก็ไม่สามารถทำลายพิษที่อยู่ในตัวปลาได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอันตรายจนเสียชีวิต
สำหรับปลาปักเป้าสามารถพบได้ทุกพื้นที่ ซึ่งทุกชนิดถือว่ามีพิษ ห้ามนำมาบริโภค เพราะปลาชนิดนี้มีพิษที่เรียกว่า เทโทรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) จะสะสมอยู่ในไข่ ตับ และเครื่องใน กรณีที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ที่นำมาบริโภคนั้น ไม่ได้ผ่าล้างเอาเครื่องในปลาออก และนำมารับประทาน ทำให้ได้รับสารพิษเข้าไปเต็ม ๆ อีกทั้งผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย มีอายุเยอะแล้ว ประกอบกับมีการดื่มสุราเข้าไปอีก ทำให้พิษกระจายอย่างรวดเร็วและเสียชีวิตในที่สุด
ทั้งนี้หากได้รับสารพิษจากการบริโภคปลาปักเป้า วิธีรักษาเบื้องต้นควรทำให้อาหารออกจากร่างกายโดยเร็ว ด้วยการทำให้อาเจียน และนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด