
คงไม่มีใครที่ไม่เคยเจอปัญหารถติดใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนช้ากว่าเดิมหลายเท่า แถมยังต้องติดอยู่บนรถจะทำอะไรก็ไม่สะดวก แล้วรู้กันหรือเปล่าว่าระยะเวลาในการเดินทางที่นานเกินไปสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่มากขึ้นหรือสภาวะทางอารมณ์ อย่างที่เว็บไซต์ The Huffington Post ได้หยิบยกมาฝากกัน ใครที่ยังนึกไม่ออกว่าการเดินทางนาน ๆ จะส่งผลเสียอย่างไร ลองมาดูคำตอบกันค่ะ

การศึกษาซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร Journal Of Health Economics เมื่อปี 2014 แสดงให้เห็นว่าการเดินทางไปทำงานในทุก ๆ วันสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตผู้หญิงได้มากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีลูกอยู่ในวัยก่อนวัยเรียนจะมีความเสี่ยงที่จะพบเจอกับความเครียดในการเดินทางมากกว่าผู้ชายมาก ซึ่ง Dr. Jennifer Roberts แห่ง University of Sheffield ได้อธิบายว่าอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเนื่องจากระยะเวลาในการเดินทาง เพราะต้องใช้เวลาในช่วงเช้าดูแลและไปส่งบุตรหลาน ทำให้เวลาที่เหลือในการเดินทางไปทำงานลดลง ส่งผลให้ความเครียดที่กลัวว่าจะไปทำงานไม่ทันเพิ่มขึ้นและส่งผลให้สุขภาพจิตเสียไปทั้งวันนั่นเองค่ะ

การศึกษาในปี 2011 ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร BMC Public Health แสดงให้เห็นว่า การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะหรือแม้แต่การใช้รถส่วนตัวมีความเชื่อมโยงถึงความเครียดที่มากเป็นพิเศษ รวมทั้งอาการอ่อนเพลียและการพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยในการศึกษายังพบด้วยว่าคนที่ใช้ยานพาหนะมักจะมีปัญหาสุขภาพมากกว่าผู้ที่เดินทางไปทำงานด้วยการเดินหรือการขี่จักรยานค่ะ
3. เสี่ยงหัวใจวายจากมลพิษทางจราจร
จากการศึกษาในวารสาร British Medical Journal พบว่าการหายใจเอาควันมลพิษที่มาจากการจราจรที่ติดขัดนั้นสามารถเพิ่มความเสี่ยงหัวใจวายสูงขึ้นภายในเวลา 6 ชั่วโมง แต่หลังจากนั้นความเสี่ยงหัวใจวายจะค่อย ๆ ลดลง ซึ่งนักวิจัยได้เปิดเผยว่ามลพิษทางอากาศนั้นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหัวใจวายแต่เป็นปัจจัยที่ช่วยเร่งให้อาการหัวใจวายเกิดเร็วขึ้นได้ค่ะ
4. น้ำหนักขึ้น

การวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (Washington University) ในเมืองเซนต์หลุยส์ พบว่าคนที่ต้องเดินทางไกลกว่า 15 ไมล์ (ประมาณ 24 กิโลเมตร) เป็นประจำทุกวันมีแนวโน้มว่าจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพราะการที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางที่ยาวนานส่งผลให้คนเรามีเวลาออกกำลังกายลดลง นอกจากนี้ผู้ที่เดินทางไกลยังมีแนวโน้มที่จะมีความดันโลหิตสูงอิกด้วย โดย Christine M. Hoehner ได้อธิบายว่านี่อาจจะเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญแคลอรีซึ่งจะลดลงเมื่อเรานั่งอยู่กับที่เป็นเวลานานนั่นเอง
5. เพิ่มความเสี่ยงในการหย่าร้าง
เอ๊ะ...ฟังดูไม่น่าจะเกี่ยวกัน แต่ก็เป็นเรื่องจริงค่ะ โดยนักวิจัยชาวสวีเดนจากมหาวิทยาลัย Umea University พบว่าการใช้เวลาในการเดินทางนาน ๆ มีความเชื่อมโยงกับการหย่าร้าง โดยในการศึกษาพบว่าคู่รักที่ต้องเดินทางเป็นระยะทางไกล ๆ มีความเสี่ยงถึง 40% ที่จะเกิดการหย่าร้างมากกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ยังพบอีกว่าการช่วงเวลาที่เสี่ยงมากที่สุดก็ในช่วงเวลา 2 - 3 ปีแรกที่จะต้องเดินทางร่วมกันค่ะ
6. ความรู้สึกอยากมีส่วนร่วมลดลง
การศึกษาในปี 2008 ได้แสดงให้เห็นว่าระยะทางในการเดินทางสามารถส่งผลต่อความรู้สึกอยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมได้ โดยจากการรวบรวมข้อมูลจากกว่า 2,001 ครัวเรือน พบว่า หากการเดินทางเพื่อไปทำกิจกรรมต่าง ๆ นั้นยาวนานกว่า 20 นาที ความรู้สึกที่อยากจะเป็นส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ก็จะยิ่งลดลง และหากนานกว่า 90 นาที ก็อาจจะทำให้ความรู้สึกอยากทำกิจกรรมเหล่านั้นหมดไปเลยก็เป็นได้ค่ะ
7. ความเครียดเพิ่มขึ้น

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แต่การศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการเดินทางสามารถเพิ่มความเครียดให้สูงขึ้นได้ ซึ่งการที่จะต้องใช้เวลาในการเดินทางนาน ๆ โดยไม่สามารถทำอะไรได้ ส่งผลให้คนเรารู้สึกอึดอัดและเครียดมากขึ้น เมื่อทำการตรวจวัดระดับการเต้นของหัวใจในกลุ่มอาสาสมัครที่ใช้เวลาการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนก็จะพบว่าพวกเขามีอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงกว่าคนปกติทั่วไปอีกด้วยค่ะ
แม้เราจะไม่สามารถหาทางเลี่ยงการเดินทางที่ใช้ระยะเวลานานอย่างเช่นการเดินทางไปเรียนหรือไปทำงานได้ แต่ก็ใช่ว่าเราต้องยอมรับกับปัญหาสุขภาพที่ตามมานะคะ แทนที่เราจะใช้เวลาไปเปล่า ๆ บนรถระหว่างรถติดก็ลองหากิจกรรมเล็ก ๆ น้อย อย่างเช่นยืดกล้ามเนื้อแขน หรือบิดตัวไปทางซ้ายทีขวาที เพื่อยืดกล้ามเนื้อสักนิด ก็สามารถช่วยผ่อนคลายและลดความเครียดได้มากเลยทีเดียวล่ะค่ะ อย่าปล่อยให้สุขภาพและเวลาในช่วงรถติดเสียเปล่ากันเลยดีกว่าเนอะ