ยิ้มแล้วดียังไง นอกจากได้บุคลิกภาพที่ดีแล้ว การยิ้มยังให้ประโยชน์ด้านสุขภาพที่น่าเซอร์ไพรส์มากนะขอบอก
รอยยิ้มเป็นมิตรภาพอย่างแรกที่ใครเห็นก็ต้องประทับใจ
แต่ล่าสุดยังมีผลวิจัยช่วยการันตีอีกเสียงว่าแค่ยิ้มคุณก็ได้รับโชคเป็นสุขภาพดีเต็มกระบุง
ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น เราได้สืบข้อมูลจาก Huffington Post มารอเสิร์ฟคุณตรงนี้แล้ว
แน่นอนว่ารอยยิ้มบนใบหน้าบ่งบอกได้ถึงอารมณ์ชนิดบวก ทว่าแม้คุณจะยิ้มด้วยความไม่จริงใจออกมา นักวิจัยกลับบอกว่า จากที่อารมณ์บูด ๆ อยู่คุณจะรู้สึกดีขึ้นได้เพราะรอยยิ้มนั้น อธิบายให้เข้าใจก็คือ แม้สมองจะเป็นฝ่ายผลิตอารมณ์ความรู้สึก แต่กล้ามเนื้อบนใบหน้าที่ทำหน้าที่สื่อสีหน้าของบุคคลสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงอารมณ์ที่สมองสั่งการมาได้ ดังนั้น แม้คุณจะรู้สึกกดดันแค่ไหน ทว่าเพียงแค่ฉีกยิ้มออกมาก็จะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว
ลดความเครียดก็ได้
ผลการทดลองจากคณะวิทยาศาสตร์จิตวิทยาของมหาวิทยาลัยแคนซัส ได้ทดลองให้กลุ่มอาสาสมัครราว 170 คน คาบตะเกียบไว้ที่ปากเป็น 3 รูปแบบที่กำหนดไว้ จากนั้นก็ทำให้อาสาสมัครยิ้มโดยไม่ต้องกังวลกับตะเกียบที่คาบอยู่ในปาก ซึ่งผลการทดลองก็พบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่ยิ้มได้กว้างมากกว่าใคร มีอัตราการเต้นของหัวใจที่สม่ำเสมอขึ้น ในขณะที่อารมณ์ที่สื่อถึงความตึงเครียดกลับลดระดับลงเมื่อเทียบกับอาสาสมัครที่ไม่ค่อยยิ้ม เพราะมัวกังวลกับตะเกียบที่คาบอยู่
ดูเป็นมิตร
เรื่องรอยยิ้มไม่ใช่เรื่องกิ๊กก๊อกเลยจริง ๆ เพราะขนาดมหาวิทยาลัยเพนน์ สเตท ยังทำการศึกษาทางจิตวิทยาขึ้นมาเลยว่า พนักงานบริษัทที่ให้บริการต่าง ๆ ที่ยิ้มบ่อย จะมีอัตราขายงานได้มากกว่าคนที่ยิ้มน้อยหลายเท่า ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่ารอยยิ้มช่วยเปิดทางให้คุณดูน่าคบหา สร้างทัศนคติที่ดีแก่ผู้ที่พบเห็นได้ง่าย ๆ
เพิ่มความน่าไว้วางใจ
ในมุมมองของนักจิตวิทยา รอยยิ้มจะช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดูน่าไว้วางใจมากขึ้น ซึ่งมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กก็ตอกย้ำข้อมูลนี้ด้วยผลการทดลองกับนางแบบ 45 ชีวิต เพื่อเทียบระหว่างความมีเสน่ห์กับความน่าไว้วางใจเมื่อพวกเธอยิ้ม ซึ่งผลการทดลองก็พบว่า นางแบบที่ยิ้มได้กว้างและดูจริงใจกลับมีบุคลิกบางอย่างที่บ่งบอกว่าเธอน่าไว้วางใจมากกว่าน่าดึงดูดในแบบสวยเซ็กซี่สะดุดตา
ฝึกสมองให้ดีกว่าเดิม
การทำงานของสมองเป็นส่วนที่ซับซ้อนและเข้าใจไม่ง่ายนัก แต่ ฌอร์น อาเชอร์ นักเขียนชื่อดัง เจ้าของหนังสือ The Happiness Advantage ได้กล่าวว่า แค่เพียงยิ้มทุกวันก็เหมือนได้เทรนสมองให้เข้าใกล้ขีดความสุขมากขึ้น แม้ในช่วงเวลาที่พบกับความเครียดหรือเมื่อสมองสั่งการให้คิดอะไรในแง่ลบ สมองจะได้จดจำว่าการยิ้มจะช่วยลดความคิดแง่ลบเหล่านั้น แล้วแทนที่ด้วยระดับความสุขที่มากขึ้น
ยิ้มเป็นโรคติดต่อที่ดี
ใครแสดงความรู้สึกอย่างไรมาเราก็แสดงความรู้สึกชนิดเดียวกันกลับไป ปรากฏการณ์นี้มีนักประสาทวิทยา มาร์โค อิอาโกบอนิ ให้ความรู้ว่า ร่างกายเราจะมีตัวสะท้อนเซลล์ประสาท นั่นก็คือ เยื่อหุ้มสมองส่วนหน้า (Premotor Cortex) และกลีบข้างของสมอง (Inferior Parietal Cortex) คอยทำหน้าที่รับ-ส่งข้อมูลที่ได้รู้เห็น และกระตุ้นให้ร่างกายพยายามเลียนแบบสิ่งที่เห็นและเข้าใจ ดังนั้น หากเราเห็นรอยยิ้มเราก็จะยิ้มตอบโดยอัตโนมัติ หรือหากเรายิ้มคนอื่นก็จะยิ้มตามเช่นกัน
รอยยิ้มช่วยฟื้นฟูการทำงานของเซลล์
ซอนดรา บาร์เรตต์ ศิลปินผู้เป็นเจ้าของหนังสือ Secrets of Your Cells ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในหนังสือของเธอว่า เซลล์ในร่างกายทั้งหมดมีส่วนสำคัญในการสร้างสมดุลความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลในร่างกายมนุษย์ ซึ่งก็เท่ากับว่าทุกความรู้สึกนึกคิดของเราส่งผลกระทบโดยตรงไปยังเซลล์ในร่างกายตลอดเวลา ดังนั้น เมื่อเรายิ้มก็เหมือนได้ช่วยลดความตึงเครียดของเซลล์ในร่างกาย ต่อสู้กับความเครียดอันเป็นต้นเหตุใหญ่ของปัญหาเซลล์เปลี่ยนแปลงจนเป็นสาเหตุของโรคความดันและโรคมะเร็งต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูสภาพของเซลล์ให้พร้อมทำงานอย่างเต็มที่
ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน
เมื่อปี 2010 นักวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ได้ทำการวิจัยและพบว่า รอยยิ้มสามารถสร้างความสุขในร่างกายและมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพในการทำงานของตัวบุคคล โดยคนที่ยิ้มง่ายและอารมณ์ดีมีแนวโน้มจะทำงานเก่งและเป็นคนมีศักยภาพในการทำงานที่เปี่ยมล้นกว่าเสือยิ้มยากทั้งหลาย ซึ่งมีแนวโน้มสูญเสียศักยภาพการทำงานทีละเล็กละน้อยหากยังยิ้มยากเหมือนเดิม
หัวสมองเร็วกว่าแค่คุณยิ้ม
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก เผยผลวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการยิ้มกับระดับอารมณ์ของบุคคลเมื่อปี 2013 ว่าคนที่มีความสุขและยิ้มแย้มเป็นประจำมีแนวโน้มจัดการกับปัญหาและความยากลำบากต่าง ๆ ได้ดีกว่าคนที่มีระดับความสุขน้อย แถมยังมีความสามารถในการหาทางออกของปัญหาได้หลากหลายมากกว่า เนื่องจากเมื่อเรามีความสุข ร่างกายจะหลั่งโดพามีนออกมาเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยส่งเสริมกระบวนการคิดและการตัดสินใจที่แม่นยำมากขึ้นนั่นเอง
จะหาของฟรีที่แสนดีในโลกนี้ได้จากที่ไหน ซึ่งรอยยิ้มสามารถตอบโจทย์ข้อนี้ของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเพราะรอยยิ้มเป็นสิ่งที่อยู่ติดกับตัวเรา อารมณ์ก็เช่นกัน ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ร่างกายของเราสร้างขึ้นมาได้เองทั้งหมด ดังนั้น เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เรามายิ้มกันเถอะนะคะ
อย่างที่บอกว่ายิ้มเป็นของฟรีที่เราทำได้ทุกที่ทุกเวลา ฉะนั้นถ้ารู้ข้อดีของการยิ้มแบบนี้แล้วยังทำหน้านิ่งเป็นประจำอยู่อีกละก็ เอาที่คุณสบายใจเลยละกันเนอะ