วิธีลดน้ำหนัก สำหรับสาวอ้วนทั้งหลายที่กำลังมองหาวิธีลดน้ำหนัก แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนหรือต้องทำอย่างไรบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมมีเคล็ดลับที่ทำแล้วได้ผลจริงมาฝากกันค่ะ
หลายครั้งที่รู้สึกว่าอ้วนเกินไปแล้วอยากลดน้ำหนัก ทำเอาสาว ๆ หลายคนต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากตรงไหนดี ทั้งนี้สำหรับใครที่อยากรู้คำตอบ วันนี้กระปุกดอทคอมมีวิธีลดน้ำหนักจากคุณ the Holiday สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม พร้อมกับเคล็ดลับ 3 วิธีที่เธอคนนี้เคยลองทำแล้วได้ผลจริงมาฝากกัน โดยเธอได้เริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนวิธีคิด เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และสุดท้ายก็คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้เคล็ดลับทั้ง 3 วิธีของเธอคนนี้ หากใครที่อยากจะรู้ว่าต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง รีบตามมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แบ่งปันวิธีลดน้ำหนักที่ได้เคยศึกษามาและจากประสบการณ์ของตัวเอง แต่เอามาเขียนรวบรวมให้คนที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงได้อ่านกัน ข้อมูลพวกนี้จริง ๆ แล้วเป็นข้อมูลที่มีคนเคยเอามาแชร์เยอะแยะมากมายในพันทิป ข้อมูลส่วนใหญ่ก็ได้จากเพื่อน ๆ ในพันทิปนี่แหละค่ะ
จริง ๆ แล้วการลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเราปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่ยึดติดกับการลดน้ำหนักแบบผิด ๆ หรือถ้าคุณเคยอดอาหารหรือกินยาลดความอ้วนมาแล้ว ลองเปิดใจใช้วิธีนี้ดูบ้างก็ได้ค่ะ
มาดูรูปปัจจุบันกันก่อน
เปรียบเทียบตอนน้ำหนัก 57 กิโลกรัม Vs 55 กิโลกรัม
3 ข้อง่าย ๆ ในการลดน้ำหนักแต่ได้ผลจริง
ข้อ 1 ปรับเปลี่ยนความคิด
อยากผอมไม่มีทางลัด ยอมรับว่าการลดน้ำหนักต้องใช้เวลา
กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว ลดความอ้วนก็ไม่ได้ใช้เวลาเป็นวันหรืออาทิตย์ ไขมันที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิต จะสลัดให้หลุดภายในไม่กี่วันเป็นไม่ได้หรอกค่ะ สำหรับคนที่ถามหาวิธีลดความน้ำหนักแบบเร่งด่วน สูตร 7 วัน 10 วันไม่มีจริงค่ะ การลดน้ำหนักที่ถูกวิธีใช้เวลาเป็นเดือน ๆ กว่าจะเห็นผลลัพธ์ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความมีวินัยทั้งการกินและการออกกำลังกาย
ถ้าไม่นับ 1 แล้วเมื่อไหร่จะถึง 10
บางคนนั่งหาวิธีลดความอ้วนมาตั้งนานสองนานแต่ก็ยังไม่เคยได้เริ่มทำสักที แต่พอรู้ว่าการที่จะผอมด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหารใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะเห็นผลก็ยอมแพ้ซะแล้ว ลองคิดว่าเราอยากผอมมานานเท่าไรแล้ว กี่เดือน กี่ปี ถ้าเริ่มออกกำลังกายตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว ตอนนี้ก็คงกำลังนั่งมีความสุขกับไขมันที่หายไปและสุขภาพที่ดีขึ้น สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการเริ่มนี่ล่ะค่ะ แต่ถ้าไม่เริ่มเดินแล้วเมื่อไรจะถึงเส้นชัย
สิ่งสำคัญคือความตั้งใจที่จะเปลี่ยนตัวเองไปในทางที่ดี ทุกคนรักตัวเอง แต่อยากให้รักเพิ่มขึ้นอีกนิด ให้พอที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย ไปฟิตเนส ไม่มีใครลากใครไปได้หรอกค่ะ อย่างมากก็ได้แค่ชวน ฉะนั้นอยู่ที่ความตั้งใจล้วน ๆ
อย่าหักดิบ
สำหรับการเริ่มต้นลดน้ำหนัก บางคนก็คึกมาก เคร่งซะจนเครียดเพราะอยากเห็นผลไว้ หรือบางคนก็อาลัยอาวรณ์กับอาหารโปรดอย่ากลัวว่าจะไม่ได้กินเค้ก กินไอติมอีกแล้ว ต้องไปสวาปามทุกอย่างให้พอก่อนจะเริ่มลดน้ำหนักจริงจัง บางคนเครียด ท้อเพราะคิดว่าต่อไปนี้ต้องกินข้าวกล้องตลอดชีวิต
โปรดหยุดคิด ยังกินได้อยู่ค่ะ เมื่อไรที่คุณอยากกิน คุณก็ยังกินได้ เพียงแค่ค่อย ๆ ลดความบ่อยลง เลือกกินให้มากขึ้น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วค่ะ
อย่าหักโหม
ก้าวช้า ๆ บางวันเดินไม่ถึงก้าวแต่ก็ยังดีกว่าหยุดเดินใช่ไหมคะ อ่านเสร็จแล้วค่อย ๆ นำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองค่ะ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องนับวันนับคืน โฟกัสแต่ผลลัพธ์ เช่น ฉันจะต้องลดเดือนละ 5 กิโลกรัม หรือฉันจะต้องมีซิกแพคภายใน 3 เดือน แค่ตั้งเป้าหมายก็เครียดละ หรือไม่ต้องกังวลว่า อุ้ย วันนี้ไม่ได้ทำอย่างนี้ วันนี้ไม่ได้ทำอย่างนั้น หรือวันนี้กินไอ้นี่เข้าไป กินไอ้นั่นเข้าไป ไม่เป็นไรค่ะ ค่อย ๆ ทำไปทีละเล็กทีละน้อย เราเริ่มวันใหม่ให้ดีกว่าเดิมได้ทุกวัน
challenge ตัวเองด้วยเป้าหมายเล็ก ๆ ก่อน
การตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินไปอาจจะทำให้ท้อได้ เพราะจะเป็นการกดดันตัวเองเกินไป ทำให้เครียดและไม่อยากทำต่อ มี challenge แนะนำสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มนะคะ ลองเลือกดูว่าอันไหนพอจะทำสำเร็จ แล้วค่อย ๆ ตั้งเป้าหมายให้ยากขึ้นค่ะ
7 day challenge กินอาหาร healthy ให้ได้ 1 มื้อทุกวัน ในหนึ่งอาทิตย์
7 day challenge กินอาหาร healthy ทุกมื้อวันเว้นวัน ในหนึ่งอาทิตย์
7 day challenge ออกกำลังกายให้ได้ 3 วัน ในหนึ่งอาทิตย์
แต่ถ้าทำไม่ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ก็ไม่ต้องนั่งร้องห่มร้องไห้เสียใจไป พยายามทำให้ครบตามเป้าก็พอ
ข้อ 2 การเลือกทานอาหาร ปัจจัยสำคัญของการลดน้ำหนัก
อาหารที่ควรงด น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ พวกน้ำหวานต่าง ๆ อาหารที่มีโซเดียมสูง ของทอด ของมัน ของพวกนี้ค่อย ๆ ลดปริมาณ ลดความถี่ที่กิน แล้ววันหนึ่งเราจะเลิกอยากไปเองค่ะ
ดื่มน้ำเยอะ ๆ ความดีงามของน้ำมีมากมายสาธยายไม่หมด ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว ทำยากใช่ไหมคะ เดี๋ยวมีเคล็ดลับการดื่มน้ำมาฝากค่ะ
อดอาหารไม่ได้ทำให้ผอม เลือกกินอาหารไม่ทำให้อ้วน
ทำไมอดอาหารถึงไม่ได้ทำให้ผอม บางคนอาจจะเถียงว่าไม่จริง ฉันอดข้าว ฉันยังผอมเลย ใช่ค่ะ แต่ก็ดูผอมหรือน้ำหนักลดลงเฉพาะช่วงที่อด เพราะสิ่งที่หายไปคือน้ำและมวลกล้ามเนื้อ ส่วนไขมัน ร่างกายยังเก็บไว้เหมือนเดิม เพราะไขมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ร่างกายจะนำไปใช้ เมื่อไรที่กลับมากินเหมือนเดิม ร่างกายจะรีบสะสมพลังงานไว้ ไม่ค่อยเผาผลาญ เพราะมันกลัวจะต้องอดอีก นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่าโยโย่ ฉะนั้นการอดอาหารไม่ว่าอดเองหรือใช้ยาลดความอ้วน ก็ไม่ได้ทำให้ไขมันหายไป อดอาหารไม่ได้ลดไขมัน ถ้าจะลดไขมันต้องเบิร์นออกโดยการออกกำลังเท่านั้นค่ะ
กินอาหารให้ครบทุกมื้อ
สำหรับคนที่บอกตัวเองว่าฉันกินอาหารทุกมื้อ คุณต้องดูปริมาณและประเภทของอาหารด้วย ว่าเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายหรือเปล่า ไข่ต้มหนึ่งฟองตอนเช้า เที่ยงกินแต่ผักต้มหรือสลัดหรือกินแต่กับ ไม่กินแป้ง แอปเปิ้ลหนึ่งลูกตอนเย็น ทั้งหมดทั้งมวลนี่นับจริง ๆ ยังไม่ได้หนึ่งมื้อเลย เราอาจจะหลอกตัวเองว่ากินครบ 3 มื้อแต่หลอกร่างกายไม่ได้หรอกค่ะ เมื่อร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอมันจะจำไว้ เมื่อไรที่เรากลับไปกินแบบเดิมผลก็คือ โยโย่ เหมือนกัน ยิ่งคนที่ออกกำลังกายด้วย คุณอาจจะผอมลง เพราะเบิร์นไขมันออกด้วยก็จริง แต่เวลาที่คุณออกกำลังกายไม่ใช่แค่ไขมันที่ถูกเบิร์น แต่กล้ามเนื้อก็ถูกทำลายด้วย ฉะนั้นถึงคุณจะเวท คุณก็ไม่เฟิร์ม เพราะคุณไม่ได้กินอาหารเพื่อไปซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
หมู่ 1 โปรตีน ได้จากการทานเนื้อสัตว์ เนื้อปลา ไข่ ถั่วชนิดต่าง ๆ นม เลือกทานเนื้อสัตว์ส่วนที่มีไขมันน้อย เช่น อกไก่ แทนเนื้อน่องหรือเนื้อสะโพก เนื้อปลา เลือกทานนมจืด 0% หรือน้ำเต้าหู้หวานน้อย
หมู่ 2 คาร์โบไฮเดรต หรือพวกแป้ง การลดน้ำหนักแบบงดแป้งเป็นวิธีที่ผิดนะคะ เพราะร่างกายเรายังต้องการพลังงานจากแป้ง เพราะฉะนั้นควรเลือกทานคาร์โบไฮเดรตที่ดี เช่น ข้าวกล้อง หรือแป้งโฮลวีท ส่วนปริมาณปรับตามการใช้พลังงานของแต่ละคน เช่น คนที่ไม่ค่อยได้ใช้พลังงานหรือออกกำลังกายน้อย ก็อาจจะลดปริมาณลง แต่อย่างดไปเลย
หมู่ 3 เกลือแร่ ได้จากการทานผักชนิดต่าง ๆ และอาหารทะเล ในอาหารหนึ่งมื้อควรมีผักอยู่ด้วยครึ่งหนึ่ง เช่น สลัด ผักต้ม ผักนึ่ง แต่ถ้าไม่สะดวกทุกมื้อ ก็พยายามทานให้ได้ในหนึ่งวัน
หมู่ 4 วิตามิน ได้จากการทานผลไม้ชนิดต่าง ๆ เลือกผลไม้ที่หวานน้อยหน่อยก็ดีค่ะ
หมู่ 5 ไขมัน ถึงแม้เราควรจะงดของทอด ของมัน แต่ไขมันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย อย่างช่วยในเรื่องของผิวพรรณและเส้นผม รวมทั้งยังช่วยให้ขนาดหน้าอกของสาว ๆ ที่ชอบออกกำลังกายไม่ลดฮวบทีเดียว แหล่งไขมันที่ดี ได้แก่ ปลาแซลมอน ไข่ อโวคาโด ถั่ว และน้ำมันมะกอก ส่วนไขมันที่ควรเลี่ยงก็คือไขมันจากสัตว์ รวมถึงส่วนหนังของเนื้อต่าง ๆ ด้วยค่ะ
สรุปเรื่องอาหาร
คนที่ควบคุมอาหารและไม่ได้ออกกำลังบ่อย นอกจากทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่แล้วก็อาจจะลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตและเพิ่มปริมาณผัก ผลไม้ให้มากขึ้น
คนที่ออกกำลังกายหนัก เน้นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เช่น เวทเทรนนิ่ง ควรเพิ่มปริมาณโปรตีน เพราะร่างกายต้องการนำไปซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย
เมื่อไรที่ปรับเปลี่ยนอาหารการกินจนเริ่มอยู่ตัวแล้ว ขั้นต่อไปก็ค่อยศึกษาเรื่อง cal, BMR, TDEE ค่ะ
ข้อ 3 ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายมีหลายเป้าหมายแตกต่างกันไป ซึ่งมีทั้งลดไขมันและเน้นสร้างกล้ามเนื้อ
ประเภทที่ 1 ลดไขมัน คนที่มีเป้าหมายลดไขมันควรเน้น cardio หรือ fat burn ง่าย ๆ คือการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องในอัตราการเต้นของหัวใจที่เหมาะสมต่อการ burn ไขมัน ต่อเนื่องในทีนี้อาจจะประมาณ 20-40 นาทีขึ้นไป แล้วแต่คนและประเภทการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายแบบ cardio หรือ fat burn ถ้าเป็นสมาชิกฟิตเนสอยู่แล้ว ก็สามารถวิ่งบนลู่วิ่ง ปั่นจักรยานหรือเครื่อง Elliptical แต่ถ้าไม่มีเครื่องเล่นพวกนี้สามารถวิ่งหรือเดินเร็ว หรือจะเปิดวิดีโอจากยูทูบทำเองที่บ้านก็ยังได้ โดยใส่คำว่า cardio workout เข้าไป อย่างเช่นคลิปนี้ค่ะ
สำหรับคนที่น้ำหนักตัวมากควรเริ่มออกกำลังกายแบบ cardio หรือ fat burn ควบคู่กับการควบคุมอาหาร เพื่อให้น้ำหนักตัวน้อยลงประมาณหนึ่งก่อนเพื่อความปลอดภัยทั้งกับเข่าและพวกข้อต่อต่าง ๆ และควรเริ่มจากเครื่อง Elliptical เพราะเครื่องนี้จะมีแรงกระแทกน้อย พอน้ำหนักตัวลดลงแล้ว ค่อยเปลี่ยนมาเดินเร็วหรือจักรยานแล้วค่อยวิ่ง เมื่อลดน้ำหนักได้ถึงระดับหนึ่งแล้ว ควรเริ่มเล่นเวทเพื่อสร้างกล้ามเนื้อซึ่งมันจะช่วยให้เนื้อตัวกระชับ เพิ่มกล้ามเนื้อ และช่วยให้ผิวหนังไม่ย้วยหลังจากที่ลดไขมันออกไปแล้ว
ประเภทที่ 2 คนที่เน้นเสริมสร้างกล้ามเนื้อ คนที่มีเป้าหมายอยากสร้างกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เช่น แขน หน้าท้อง หรือก้น ควรเน้นออกกำลังกายแบบ เวทเทรนนิ่ง แต่การที่จะเห็นกล้ามเนื้อชัดเจน ไม่ใช่แค่เล่นเวทแล้วจะเห็นทันที นอกจากจะเป็นคนที่ผอมและมีเปอร์เซ็นต์ body fat น้อยอยู่แล้ว เพราะกล้ามเนื้อมันอยู่ใต้ไขมัน ถ้าเรายังมีไขมันสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ก็ต้องเวท ควบคู่กับ cardio ไปด้วย เพื่อลดไขมันถึงจะค่อย ๆ เห็นกล้ามเนื้อชัดขึ้น
ถ้าออกกำลังกาย 2 แบบนี้ควบคู่กัน จะทำให้เห็นผลเร็วกว่าทำอย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ
จริง ๆ การออกกำลังกายแบบไหนก็เป็นการช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและช่วยเบิร์นไขมันได้ อย่างตีแบดมินตัน ตีเทนนิส ว่ายน้ำ บาสเกตบอล ฟุตบอล เลือกออกกำลังที่เราชอบจะได้ทำได้นาน ๆ ค่ะ เพราะความสม่ำเสมอสำคัญกว่าออกกำลังกายหนัก ๆ แต่นาน ๆ ทีนะคะ ถ้าใครอ่านแล้วยังมึนงงอยู่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็สามารถเลียนแบบการกินอาหารกับการออกกำลังกายของเราได้เลยค่ะ
รูปอาหารบางส่วนที่กินในเดือนนี้ ซึ่งเป็นช่วง 30 day challenge กินอาหาร healthy อยู่ ตอนนี้ก็กินมาได้เกือบ 3 อาทิตย์แล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ก็กินบ้างแต่ก็ยังตามใจปากอยู่เรื่อย ๆ เดือนนี้มีเวลาก็เลยพยายามลองกินให้ได้ทุกวัน ทุกมื้อ แต่ก็ไม่ได้ทุกมื้อเป๊ะ ๆ ค่ะ
มื้อเช้า
ส่วนมากมื้อเช้ากินมูสลี่ ซีเรียล โฮลวีท กับผลไม้ หรือไม่ก็แซนด์วิชโฮลวีทที่ทำง่าย ๆ กับนมหนึ่งแก้ว เป็นนม not fat หรือนมถั่วเหลืองหวานน้อย หรือบางทีก็นมเปรี้ยว 0% หวานน้อย
มื้อบ่าย/เย็น
มื้อบ่ายส่วนใหญ่ก็จะกินข้างนอก จะมีร้านประจำที่เป็นร้านผัก Organic กับข้าวกล้องค่ะ แต่รูปที่ลงคืออาหารที่ทำเอง
snack
ของกินเล่นก็จะมีประมาณนี้ ส่วนมากก็จะทำ frozen yogurt แช่ไว้กิน เพราะเราชอบกินไอติมมาก
ส่วนเคล็ดลับการกินน้ำให้ได้ 8 แก้ว ซื้อแก้วที่สวย ๆ สักใบ เลือกใบที่ใหญ่ ๆ หน่อย คอยใส่น้ำไว้ให้เต็ม วางไว้ข้าง ๆ ตัว ธรรมชาติของคน อะไรอยู่ใกล้ไม้ใกล้มือนี่หยิบมากินมาดื่มทั้งนั้นค่ะ สำหรับคนที่ไม่ชอบกินน้ำ มีอีกวิธีมาแนะนำให้ลองทำกันดู ทุกคนคงจะรู้จัก infused water ที่เป็นกระแสฮิตฮอตอยู่พักใหญ่ ๆ แต่เนื่องจากกังวลเรื่องการล้างผักผลไม้ให้สะอาดเลยไม่เคยลองทำ แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว ใส่ผลไม้เข้าไปเลยค่ะ ผลไม้อะไรก็ได้ที่ชอบ เลือกผลไม้ที่มีน้ำเยอะหน่อยก็ดีค่ะ ทุเรียนงี้ก็ไม่แนะนำให้แช่นะ ทำง่ายด้วยแค่ซื้อผลไม้ตามรถเข็นมาแล้วใส่เข้าไปเลย ส่วนรสชาติน้ำก็จะเป็นรสหวานอ่อน ๆ ได้กลิ่นผลไม้ ยิ่งใส่กับน้ำเย็นหรือแช่เย็นไว้ก็ยิ่งชื่นใจค่ะ
ตารางการออกกำลังกาย
จันทร์ *upper body (หลัง,ไหล่)/cardio
อังคาร *abs (หน้าท้อง)/cardio
พุธ break
พฤหัสบดี yoga/cardio/*lower2 (ขา)
ศุกร์ yoga/cardio/*abs
เสาร์ break
อาทิตย์ yoga/cardio/*lower1 (ขา)
ดอกจันคือเวทเทรนนิ่งนะคะ การเล่นเวทหาดูท่าต่าง ๆ ได้ในอินเทอร์เน็ตเลยนะคะ ควรเล่นท่าละ 3 เซต เซตละ 8-14 ครั้ง
ส่วน cardio วิ่งอย่างเดียว ประมาณ 45 นาที จะวิ่งระดับ 6.5 ให้ครบ 10-15 นาที แล้วปรับความเร็วลงมาเดิน 3-5 นาที แล้วค่อยปรับไปวิ่งใหม่อีก 10 นาที ทำแบบนี้ 3 รอบแล้ว cool down ส่วนมากเราจะ cardio ก่อนค่อยเล่นเวท เพราะเวทเสร็จหมดแรง
สำคัญมาก
ก่อนและหลังออกกำลังกายทุกครั้งอย่าลืม warm up, cool down แล้วก็ strecth (คลายกล้ามเนื้อ) นะคะ ช่วยลดการบาดเจ็บและการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อค่ะ
ป.ล. เราไม่ได้กินอาหารเสริมใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้กินเวย์ หรือเชคนะคะ ถ้าถามเรื่องพวกนี้ตอบไม่ได้เพราะไม่ได้กินเลยค่ะ ปกติออกกำลังกายมาเรื่อย ๆ วิ่งอย่างเดียว เพิ่งมาเริ่ม cardio กับเวทเทรนนิ่งจริงจัง เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว กล้ามท้องเริ่มเห็นตั้งแต่ 3 เดือน แต่ตอนนี้เราก็ยัง cardio หลายวันอยู่เพราะยังมีไขมันส่วนอื่นที่ต้องเบิร์นอยู่ค่ะ
สำหรับคุณสาว ๆ ที่อยากจะมีหุ่นดีและอยากให้น้ำหนักลดลงอย่างได้ผล เชื่อว่าเรื่องราวของเธอคนนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดีสำหรับสาว ๆ ได้อย่างมากเลยทีเดียว ทั้งนี้เมื่อรู้กันแล้วว่าจะต้องเริ่มลดน้ำหนักจากตรงไหนดี ก็ถึงเวลาที่จะเริ่มลงมือทำอย่างจริงจังแล้วล่ะค่ะ รับรองหุ่นดี ๆ ฟิตเปรี๊ยะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ the Holiday สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม