x close

อย่าเชื่อ ! แพทย์เตือน ดื่มน้ำลิตรครึ่งรวดเดียว ไม่ได้ช่วยรักษาโรค


ดื่มน้ำ

          ชาวเน็ตแชร์ดื่มน้ำอุ่นอย่างน้อย 1 ลิตรครึ่ง ช่วยรักษาโรค แพทย์รีบออกโรงเตือนอย่าหลงเชื่อ น้ำไม่ช่วยรักษาโรค ดื่มมากไปอาจเป็นโทษ

          จากกรณีที่โลกไซเบอร์แชร์ข้อความเรื่องการดูแลสุขภาพ โดยมีการแนะนำให้ดื่มน้ำอุ่นอย่างน้อย 1 ลิตรครึ่ง หรือมากกว่านั้นภายใน 1 ชั่วโมง โดยดื่มรวดเดียวหมดภายใน 2-3 อึดใจ จะส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจ เพราะน้ำจะเข้าไปชำระล้างสิ่งสกปรกในร่างกายออก อีกทั้งยังช่วยขยายหลอดเลือดและเพิ่มอัตราการไหลเวียนเลือด ส่งผลดีต่อโรคเกาต์ ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล รักษาโรคมะเร็งได้ด้วยนั้น

          ข้อมูลนี้ทำเอาชาวเน็ตสับสนไม่น้อย เพราะไม่แน่ใจว่าการดื่มน้ำอุ่นในปริมาณที่มากภายในเวลาสั้น ๆ จะส่งผลดีต่อร่างกายได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ซึ่งล่าสุดวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 แพทย์ได้ออกมาปฏิเสธข้อมูลดังกล่าวแล้ว

          โดย นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ชี้แจงว่า ไม่ควรเชื่อข้อมูลเรื่องนี้ เพราะตามหลักแล้วควรดื่มน้ำวันละปริมาณ 50 ซีซี ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ดังนั้นเราควรดื่มน้ำมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของแต่ละคน ทั้งนี้การดื่มน้ำอย่างเดียวไม่สามารถรักษาโรคแน่นอน โดยเฉพาะโรคมะเร็ง เพราะน้ำมีหน้าที่ช่วยหล่อเลี้ยงเซลล์ และปรับสมดุลของร่างกาย หากดื่มน้ำมาก ๆ ก็จะถูกขับออกมาทางปัสสาวะ ขณะที่คนป่วยโรคไตต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะการดื่มน้ำมากอาจเกิดอาการบวมน้ำ หรือผู้ป่วยโรคหัวใจก็เสี่ยงหัวใจวายได้

          เช่นเดียวกับ นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย ที่เตือนว่าการดื่มน้ำมาก ๆ ในครั้งเดียวจะทำให้จุกมากกว่า และที่บอกดื่มน้ำจะช่วยรักษาโรคมะเร็ง โรควัณโรค ก็เป็นข้อมูลเกินจริงไป แต่น้ำจะช่วยลดภาวะท้องผูกได้ โดยไปทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น เมื่อดื่มไปประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากนั้นก็จะรู้สึกอยากขับถ่าย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อย่าเชื่อ ! แพทย์เตือน ดื่มน้ำลิตรครึ่งรวดเดียว ไม่ได้ช่วยรักษาโรค อัปเดตล่าสุด 21 มิถุนายน 2564 เวลา 15:23:28 4,343 อ่าน
TOP