อาการหนาวง่ายเกินไป ทั้งที่ก็ไม่ได้มีไข้หรือรู้สึกไม่สบายเลยสักนิด รู้สึกหนาวตลอดเวลาแบบนี้ ป่วยหรือเปล่านะ ?
ถ้าใครเคยรู้สึกว่าตัวเองหนาวง่ายเกินไป
แต่ทำไมคนรอบข้างดูเป็นคนขี้ร้อนไปกันหมด
มีเรารู้สึกหนาวแทบจะตลอดเวลาอยู่คนเดียว
เคสแบบนี้คงทำให้คุณอดสงสัยร่างกายตัวเองไม่ได้ว่า รู้สึกหนาวแบบนี้
นี่เราป่วยหรือเปล่า ? ถ้าอย่างนั้นอย่ามัวแต่เดาไปเรื่อยเปื่อย
เรามาดูคำตอบจาก Health กันค่ะว่า อาการหนาวตลอดเวลาเกิดจากอะไรกันแน่
คุณผอมบางเกินไป
Maggie Moon นักโภชนาการเชี่ยวชาญแห่งสำนักโภชนาการลอสแองเจลิส กล่าวว่า หากค่า BMI ในร่างกายเราต่ำกว่า 18.5 นั่นแปลว่าเรามีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถสร้างคามอบอุ่นได้เพียงพอจนทำให้รู้สึกหนาวง่าย อีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อเราผอมเพราะไม่ค่อยได้กินอาหารสักเท่าไร ก็ยิ่งลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญให้อยู่เฉยจนความร้อนในกระบวนการเผาผลาญไม่เกิด ดังนั้นคนที่ตัวผอมบางจึงมักจะรู้สึกหนาวง่ายหรือหนาวตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งวิธีเพิ่มความอบอุ่นให้ตัวเองก็ไม่ยากค่ะ Maggie Moon แนะนำให้คุณรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเยอะ ๆ โดยเน้นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันชนิดดี
ถ้าคุณมักจะรู้สึกหนาวเป็นพัก ๆ รวมทั้งผมเริ่มบาง ผิวแห้งมากขึ้น
แถมยังรู้สึกอ่อนเพลียด้วย ลักษณะอาการเช่นนี้อาจเข้าข่ายภาวะขาดไทรอยด์
ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์ไม่หลั่งไทรอยด์ฮอร์โมนออกมาในปริมาณที่พอเพียง
จนส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง ความร้อนในร่างกายจึงลดน้อยลงไปด้วย
ดังนั้นหากพบว่าตัวเองมีสัญญาณเหล่านี้ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษานะคะ
ขาดธาตุเหล็ก
ในภาวะที่ร่างกายมีธาตุเหล็กน้อยก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึกหนาวง่ายด้วยเช่นกัน
เนื่องจากธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง
มีหน้าที่ช่วยขนส่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง
นำพาความร้อนและสารอาหารที่สำคัญเข้าสู่กระบวนการทำงานของเซลล์ทุกแขนงในร่างกาย
ดังนั้นหากขาดธาตุเหล็กไป กระบวนการตามที่ว่าก็คงสะดุดกันบ้าง
คราวนี้ความอบอุ่นในร่างกายก็จะลดน้อยลง
ทั้งนี้ Maggie Moon นักโภชนาการเชี่ยวชาญแห่งสำนักโภชนาการลอสแองเจลิสได้แนะนำว่า คุณสามารถเสริมธาตุเหล็กชนิดอาหารเสริมได้ ทว่าหากเลือกรับธาตุเหล็กจากอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ไข่ ผักใบเขียว กะหล่ำ ผักโขม และอาหารทะเลจะเวิร์กกว่า
ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
สำหรับคนที่มักจะมือเย็นเท้าเย็นบ่อย ๆ แต่ร่างกายโดยรวมไม่ได้ผิดปกติอะไร เคสนี้แพทย์หญิง Margarita Rohr แห่ง NYU Langone Medical Center นิวยอร์ก วินิจฉัยว่า อาจเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายของคุณทำงานไม่ปกติ โดยไม่สามารถไหลเวียนเลือดได้สะดวกไปทั่วทั้งร่างกาย หรืออาจจะมีภาวะของโรคหลอดเลือดอุดตันตามตำแหน่งต่าง ๆ ที่อาจขัดขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังมือและเท้าได้
นอกจากนี้ยังมีโรคเรย์นอยด์ (Raynaud\'s Disease) ซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดบริเวณมือตีบ ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่ดี ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วมือ ร่วมกับอาการนิ้วมือนิ้วเท้าเย็นตามมาด้วย ซึ่งก็ควรต้องรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาอาการกันต่อไป
พักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับที่ไม่เพียงพออาจส่งผลให้เคมีในสมองรวมไปถึงระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานผิดปกติได้ ซึ่งก็นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง รวมทั้งอาการหนาวง่ายก็เป็นผลพวงที่ตามมาด้วยเช่นกัน ฉะนั้นพยายามพักผ่อนให้เต็มที่ไว้ก่อนดีกว่า
ดื่มน้ำน้อยเกินไป
กว่า 60% ในร่างกายมนุษย์ที่มีการเจริญเติบโตอย่างเต็มวัยคือน้ำล้วน ๆ เลยเชียวล่ะ และน้ำก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ โดย Maggie Moon นักโภชนาการเชี่ยวชาญแห่งสำนักโภชนาการลอสแองเจลิสก็ให้ข้อมูลว่า ร่างกายที่ไม่ได้รับน้ำสะอาดเพียงพออาจเกิดได้ทั้งภาวะอุณหภูมิที่ร้อนจัดและเย็นจัด เนื่องจากภาวะขาดน้ำจะทำให้ระบบควบคุมอุณหภูมิของร่างกายปรวนแปร รวมไปถึงเมื่อขาดน้ำ ระบบเผาผลาญก็ทำงานไม่สะดวกด้วย ฉะนั้นเราจึงควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันนะคะ
ร่างกายขาดวิตามินบี 12
วิตามินบี 12 มีหน้าที่สำคัญพอ ๆ กับธาตุเหล็กตรงที่ช่วยลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งหากร่างกายไม่ได้รับวิตามินบี 12 ที่พอเพียงก็คงทำให้หลอดเลือดแดงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อการไหลเวียนของเลือดติดขัด ความหนาวเย็นเหน็บชาก็มักจะมาเยี่ยมเยือนนั่นเองนะคะ ฉะนั้นใครทั้งรู้สึกหนาวง่ายบวกกับอาการเหน็บชามาหาบ่อย ๆ ในช่วงนี้ ต้องรีบเติมเต็มวิตามินบี 12 จากอาหารประเภทปลาและผลิตภัณฑ์จากนมให้ร่างกายโดยด่วนซะแล้ว
คุณเป็นผู้หญิง
อาการหนาวง่ายก็ขึ้นอยู่กับเพศด้วยเหมือนกัน โดยแพทย์หญิง Margarita Rohr แห่ง NYU Langone Medical Center นิวยอร์ก ชี้ว่า เพศหญิงจะถูกกำหนดให้ต้องการความอบอุ่นในร่างกายมากกว่าเพศชาย ด้วยเหตุนี้กลไกร่างกายของผู้หญิงจึงต้องคงความสมดุลของการไหลเวียนเลือดในสมองและหัวใจอย่างเต็มที่ ดังนั้นการไหลเวียนเลือดในส่วนประสาทมือและเท้าจึงถูกลดความสำคัญลงไปโดยปริยาย เป็นเหตุให้คุณรู้สึกหนาวที่มือและเท้าซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาทจนทำให้รู้สึกหนาวไปทั้งร่างนั่นเอง
เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานที่ไม่รู้ตัวและไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปลายประสาทอักเสบได้ ซึ่งอาการนี้จะส่งผลให้มือและเท้าของคุณไวต่อสิ่งเร้าและการสัมผัส จนอาจทำให้รู้สึกหนาวเย็น ณ บริเวณนี้ได้ อีกทั้งปลายประสาทยังจะส่งสารบางอย่างไปยังสมองในส่วนที่ควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้รู้สึกถึงความหนาวเย็นด้วยนะคะ ดังนั้นหากคุณรู้สึกเย็นมือเย็นเท้า รวมถึงปวดปัสสาวะบ่อย ๆ อ่อนเพลีย และรู้สึกคอแห้งถี่ขึ้น สัญญาณเหล่านี้คืออาการเริ่มต้นของโรคเบาหวาน ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วนแล้วล่ะ
กล้ามเนื้ออ่อนแอเกินไป
กล้ามเนื้อนับเป็นเสมือนผ้าห่มส่วนตัวของเราเลยนะ รู้ยัง ? ดังที่แพทย์หญิง Margarita Rohr แห่ง NYU Langone Medical Center นิวยอร์ก ได้บอกไว้ว่า กล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยคงอุณหภูมิร่างกายของเราให้สมดุล ดังนั้นเราจึงควรเพิ่มมวลกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยบำรุงระบบเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไปในตัว และช่วยรักษาความอบอุ่นของร่างกายได้เป็นอย่างดี
อาการหนาวง่ายของคุณเกิดจากสาเหตุไหน ก็ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและบำรุงร่างกายให้มีความสมบูรณ์แข็งแรงให้มากขึ้นดูนะคะ ร่างกายจะได้มีความอบอุ่นไม่รู้สึกหนาวง่ายอีกต่อไป
คุณผอมบางเกินไป
Maggie Moon นักโภชนาการเชี่ยวชาญแห่งสำนักโภชนาการลอสแองเจลิส กล่าวว่า หากค่า BMI ในร่างกายเราต่ำกว่า 18.5 นั่นแปลว่าเรามีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถสร้างคามอบอุ่นได้เพียงพอจนทำให้รู้สึกหนาวง่าย อีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อเราผอมเพราะไม่ค่อยได้กินอาหารสักเท่าไร ก็ยิ่งลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญให้อยู่เฉยจนความร้อนในกระบวนการเผาผลาญไม่เกิด ดังนั้นคนที่ตัวผอมบางจึงมักจะรู้สึกหนาวง่ายหรือหนาวตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งวิธีเพิ่มความอบอุ่นให้ตัวเองก็ไม่ยากค่ะ Maggie Moon แนะนำให้คุณรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเยอะ ๆ โดยเน้นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมันชนิดดี
ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
ทั้งนี้ Maggie Moon นักโภชนาการเชี่ยวชาญแห่งสำนักโภชนาการลอสแองเจลิสได้แนะนำว่า คุณสามารถเสริมธาตุเหล็กชนิดอาหารเสริมได้ ทว่าหากเลือกรับธาตุเหล็กจากอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ไข่ ผักใบเขียว กะหล่ำ ผักโขม และอาหารทะเลจะเวิร์กกว่า
สำหรับคนที่มักจะมือเย็นเท้าเย็นบ่อย ๆ แต่ร่างกายโดยรวมไม่ได้ผิดปกติอะไร เคสนี้แพทย์หญิง Margarita Rohr แห่ง NYU Langone Medical Center นิวยอร์ก วินิจฉัยว่า อาจเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายของคุณทำงานไม่ปกติ โดยไม่สามารถไหลเวียนเลือดได้สะดวกไปทั่วทั้งร่างกาย หรืออาจจะมีภาวะของโรคหลอดเลือดอุดตันตามตำแหน่งต่าง ๆ ที่อาจขัดขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังมือและเท้าได้
นอกจากนี้ยังมีโรคเรย์นอยด์ (Raynaud\'s Disease) ซึ่งเป็นสาเหตุให้เส้นเลือดบริเวณมือตีบ ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่ดี ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วมือ ร่วมกับอาการนิ้วมือนิ้วเท้าเย็นตามมาด้วย ซึ่งก็ควรต้องรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาอาการกันต่อไป
พักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับที่ไม่เพียงพออาจส่งผลให้เคมีในสมองรวมไปถึงระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานผิดปกติได้ ซึ่งก็นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง รวมทั้งอาการหนาวง่ายก็เป็นผลพวงที่ตามมาด้วยเช่นกัน ฉะนั้นพยายามพักผ่อนให้เต็มที่ไว้ก่อนดีกว่า
ดื่มน้ำน้อยเกินไป
กว่า 60% ในร่างกายมนุษย์ที่มีการเจริญเติบโตอย่างเต็มวัยคือน้ำล้วน ๆ เลยเชียวล่ะ และน้ำก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ โดย Maggie Moon นักโภชนาการเชี่ยวชาญแห่งสำนักโภชนาการลอสแองเจลิสก็ให้ข้อมูลว่า ร่างกายที่ไม่ได้รับน้ำสะอาดเพียงพออาจเกิดได้ทั้งภาวะอุณหภูมิที่ร้อนจัดและเย็นจัด เนื่องจากภาวะขาดน้ำจะทำให้ระบบควบคุมอุณหภูมิของร่างกายปรวนแปร รวมไปถึงเมื่อขาดน้ำ ระบบเผาผลาญก็ทำงานไม่สะดวกด้วย ฉะนั้นเราจึงควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวันนะคะ
ร่างกายขาดวิตามินบี 12
วิตามินบี 12 มีหน้าที่สำคัญพอ ๆ กับธาตุเหล็กตรงที่ช่วยลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งหากร่างกายไม่ได้รับวิตามินบี 12 ที่พอเพียงก็คงทำให้หลอดเลือดแดงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อการไหลเวียนของเลือดติดขัด ความหนาวเย็นเหน็บชาก็มักจะมาเยี่ยมเยือนนั่นเองนะคะ ฉะนั้นใครทั้งรู้สึกหนาวง่ายบวกกับอาการเหน็บชามาหาบ่อย ๆ ในช่วงนี้ ต้องรีบเติมเต็มวิตามินบี 12 จากอาหารประเภทปลาและผลิตภัณฑ์จากนมให้ร่างกายโดยด่วนซะแล้ว
คุณเป็นผู้หญิง
อาการหนาวง่ายก็ขึ้นอยู่กับเพศด้วยเหมือนกัน โดยแพทย์หญิง Margarita Rohr แห่ง NYU Langone Medical Center นิวยอร์ก ชี้ว่า เพศหญิงจะถูกกำหนดให้ต้องการความอบอุ่นในร่างกายมากกว่าเพศชาย ด้วยเหตุนี้กลไกร่างกายของผู้หญิงจึงต้องคงความสมดุลของการไหลเวียนเลือดในสมองและหัวใจอย่างเต็มที่ ดังนั้นการไหลเวียนเลือดในส่วนประสาทมือและเท้าจึงถูกลดความสำคัญลงไปโดยปริยาย เป็นเหตุให้คุณรู้สึกหนาวที่มือและเท้าซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาทจนทำให้รู้สึกหนาวไปทั้งร่างนั่นเอง
เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานที่ไม่รู้ตัวและไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปลายประสาทอักเสบได้ ซึ่งอาการนี้จะส่งผลให้มือและเท้าของคุณไวต่อสิ่งเร้าและการสัมผัส จนอาจทำให้รู้สึกหนาวเย็น ณ บริเวณนี้ได้ อีกทั้งปลายประสาทยังจะส่งสารบางอย่างไปยังสมองในส่วนที่ควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้รู้สึกถึงความหนาวเย็นด้วยนะคะ ดังนั้นหากคุณรู้สึกเย็นมือเย็นเท้า รวมถึงปวดปัสสาวะบ่อย ๆ อ่อนเพลีย และรู้สึกคอแห้งถี่ขึ้น สัญญาณเหล่านี้คืออาการเริ่มต้นของโรคเบาหวาน ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วนแล้วล่ะ
กล้ามเนื้อนับเป็นเสมือนผ้าห่มส่วนตัวของเราเลยนะ รู้ยัง ? ดังที่แพทย์หญิง Margarita Rohr แห่ง NYU Langone Medical Center นิวยอร์ก ได้บอกไว้ว่า กล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยคงอุณหภูมิร่างกายของเราให้สมดุล ดังนั้นเราจึงควรเพิ่มมวลกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยบำรุงระบบเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไปในตัว และช่วยรักษาความอบอุ่นของร่างกายได้เป็นอย่างดี
อาการหนาวง่ายของคุณเกิดจากสาเหตุไหน ก็ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและบำรุงร่างกายให้มีความสมบูรณ์แข็งแรงให้มากขึ้นดูนะคะ ร่างกายจะได้มีความอบอุ่นไม่รู้สึกหนาวง่ายอีกต่อไป