อะโวคาโด สรรพคุณมีมากมาย แล้วรู้ไหมว่าเมล็ดอะโวคาโดก็กินได้ แต่ต้องสกัดเป็นน้ำมันเมล็ดอะโวคาโดก่อน
ผลไม้อย่างอะโวคาโดอุดมไปด้วยประโยชน์และสารอาหารที่ให้คุณกับร่างกายอยู่หลายอย่าง จนหลายคนอยากจะเก็บเกี่ยวประโยชน์ของอะโวคาโดไว้ทุกเม็ดทุกหน่วย และถึงกับต้องค้นข้อมูลว่าเมล็ดอะโวคาโดกินได้ไหม เมล็ดอะโวคาโดกินยังไง ซึ่งวันนี้เราก็มีวิธีกินเมล็ดอะโวคาโดมาบอกต่อด้วยค่ะ แถมยังรู้มาด้วยว่า เจ้าเมล็ดอะโวคาโดพอสกัดออกมาเป็นน้ำมันเท่านั้นแหละ…ประโยชน์ไม่ใช่ย่อยเลย เอาล่ะ ! มาดูกันเถอะว่า น้ำมันสกัดจากเมล็ดอะโวคาโดจะมีดีขนาดไหนกันเชียว
ป้องกันเซลล์ถูกทำลายจนเป็นเนื้อร้าย
จากผลการวิจัย Phytochemical analysis of avocado seeds พบว่า เมล็ดอะโวคาโดมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าส่วนเนื้ออะโวคาโดถึง 70% ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระก็มีคุณสมบัติช่วยป้องปกเซลล์จากการถูกทำลาย ลดโอกาสเป็นเนื้องอกหรือโรคร้ายอย่างมะเร็งได้
ช่วยส่งเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท
นิตยสารสมาคมอะโวคาโดแห่งแคลริฟอร์เนีย แสดงผลการวิจัยว่า ภายในเมล็ดอะโวคาโดอุดมไปด้วยโพแทสเซียม แร่ธาตุสำคัญที่มีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานในระบบกล้ามเนื้อและเส้นประสาท อีกทั้งโพแทสเซียมยังช่วยคงระดับความดันโลหิตได้อีกด้วย
แก้อาการอักเสบ ปวด บวม
สารต้านอนุมูลอิสระในเมล็ดอะโวคาโดที่ชื่อว่าคาเตชิน (Catechins) และโปรไซยานิดินส์ (Procyanidins) มีคุณสมบัติช่วยลดความเจ็บปวด อาการบวม ลดอาการเพลียกล้ามเนื้อ ลดการอักเสบบริเวณข้อต่อและกระดูก รวมไปถึงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย
แก้อาการท้องผูก
ไม่ใช่แค่เนื้ออะโวคาโดเท่านั้นที่มีไฟเบอร์สูง ทว่าเมล็ดอะโวคาโดก็เช่นกัน ดังนั้นไฟเบอร์เหล่านี้จึงสามารถช่วยฟื้นฟูระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายได้ และเมื่อระบบย่อยอาหารและการขับถ่ายดี ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายก็แข็งแรงไปพร้อมกันด้วยนะคะ
ช่วยให้การควบคุมน้ำหนักเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม
ด้วยความที่เมล็ดอะโวคาโดมีไฟเบอร์ค่อนข้างสูง เมื่อร่างกายได้รับไฟเบอร์จากเมล็ดอะโวคาโดเข้าไป ความรู้สึกอิ่มท้องก็จะอยู่ได้นานขึ้น ลดความอยากความหิวขนมจุบจิบไปได้ ที่สำคัญเมื่อความรู้สึกอิ่มท้องกินเวลาได้นานขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดก็มีโอกาสเกิดความสมดุลมากขึ้น ส่งผลให้เราไม่รู้สึกหิวบ่อย ๆ หรือมีความอยากกินของหวาน ๆ เหมือนแต่ก่อน
ชะลอริ้วรอยแห่งวัย
คอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังของเราต้องการสารต้านอนุมูลอิสระมาเป็นกำลังเสริม ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ และชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นแห่งวัยให้เกิดช้า ๆ ซึ่งก็อย่าลืมนะคะว่า ในเมล็ดอะโวคาโดก็มีสารต้านอนุมูลอิสระที่คอลลาเจนต้องการอยู่ถึง 70% เลยเชียว
ช่วยลดคอเลสเตอรอล
คอเลสเตอรอลเป็นตัวการร้ายที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรัง ทั้งโรคหัวใจ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคอ้วน และโรคอื่น ๆ ซึ่ง ดร.ทอม วู นักฟิสิกส์และนายกสมาคมโรคมะเร็งแห่งชาติอเมริกา ได้แนะนำว่า ในเมล็ดอะโวคาโดก็มีไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ ซึ่งเป็นฮีโร่ของการลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกทางหนึ่ง
มีคุณสมบัติต้านเชื้อโรค
งานวิจัยจากหอสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกัน ชูให้เห็นถึงคุณสมบัติต้านเชื้อรา ต่อต้านจุลินทรีย์ และความสามารถในการกำจัดแมลงของเมล็ดอะโวคาโด ทั้งยังแสดงให้เห็นว่า ในเมล็ดอะโวคาโดมีฤทธิ์ทางชีวภาพ สามารถบำรุงสุขภาพได้หลายอย่าง
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจมีคำถามว่า แล้วเราจะนำน้ำมันสกัดจากเมล็ดอะโวคาโดออกมาได้ด้วยวิธีไหน ซึ่งจริง ๆ น้ำมันสกัดจากเมล็ดอะโวคาโดก็มีจำหน่ายอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ควรตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่า น้ำมันสกัดจากอะโวคาโดนั้นเป็นน้ำมันที่สกัดมาจากเมล็ดอะโวคาโดจริง ๆ ไม่ใช่น้ำมันสกัดจากผลอะโวคาโดนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Fitlife.tv
หอสมุดแพทย์แห่งชาติอเมริกัน
Live Strong