กินเจตามช่วงวัย แบบนี้ล่ะถึงได้สุขภาพดีจริง ๆ

          หากอายุยังไม่ถึง 5 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรให้กินเจเด็ดขาด เพราะเด็กวัยนี้ต้องการสารอาหารที่เป็นประโยชน์ค่อนข้างมาก เพื่อบำรุงสมองและทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ดังนั้นจึงควรทานโปรตีนเป็นสำคัญ แต่การทานอาหารเจจะทำให้เด็กเสี่ยงขาดสารอาหารได้

เด็กวัยเรียน
          สำหรับเด็กที่มีอายุ 6 ขวบขึ้นไปจนถึงอายุประมาณ 14 ปี สามารถทานอาหารเจได้ แต่ต้องไม่เคร่งครัดจนเกินไป ที่สำคัญคือควรทานโปรตีนให้มากและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเลือกรับโปรตีนได้จากถั่วเหลือง เต้าหู้ ผักผลไม้ต่าง ๆ หรือจะทานเป็นอาหารมังสวิรัติ คือทานนมและไข่เข้าไปด้วยก็ดีค่ะ เพราะเป็นแหล่งโปรตีนที่ช่วยเรื่องการเจริญเติบโต

วัยรุ่น
          เด็กอายุ 14 ปีขึ้นไป สามารถทานอาหารเจได้ตามปกติ แต่เนื่องจากวัยนี้ใช้พลังงานค่อนข้างมาก จึงควรทานคาร์โบไฮเดรตให้มากขึ้น โดยเลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนหรือแป้งที่ไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ และธัญพืชต่าง ๆ เช่น ข้าวโพด ถั่วเขียว เผือก แทนข้าวขาวหรือของทอดต่าง ๆ และในระหว่างมื้อ อาจทานของว่าง เช่น น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลืองไปด้วยค่ะ

วัยทำงาน
          คนกลุ่มนี้ใช้กำลังสมองค่อนข้างมาก และมักไม่ค่อยมีเวลา แนะนำให้กินนมถั่วเหลืองอุ่น ๆ แทนกาแฟ ส่วนช่วงบ่ายถ้าเกิดหิว ๆ ให้ทานของว่างเพื่อสุขภาพอย่างงาขาวอัดแท่ง ถั่วลิสง ถั่วปากอ้า เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน เพราะธัญพืชเหล่านี้มีมีโปรตีนและไขมันชนิดดีช่วยทำให้อยู่ท้องเช่นกัน แล้วรู้ไหมว่าการเคี้ยว ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพกระบวนการคิดในการทำงานให้ดีขึ้นอีกด้วย

ผู้สูงอายุ
          ผู้สูงอายุมักมีปัญหาท้องอืดจากการทานผักผลไม้ที่มีกากใยมากเกินไป และมีปัญหาเรื่องแก๊สในกระเพาะอาหารจากการทานผักสด ดังนั้นแนะนำให้เลี่ยงการทานผักผลไม้ที่มีกากใยมาก ๆ รวมทั้งผักสด เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดหอม หันมาปรุงผักต่าง ๆ ให้สุกก่อนทาน และเลือกทานอาหารเจที่ย่อยง่าย ๆ ขณะที่บางคนอาจมีปัญหาดื่มนมถั่วเหลืองแล้วท้องอืดด้วย ดังนั้นก็อาจต้องเลี่ยงนมถั่วเหลือง แล้วหันไปดื่มน้ำธัญพืช อย่างเช่น น้ำงาดำ น้ำลูกเดือยแทน

          อีกข้อคือแนะนำให้ผู้สูงอายุทานอาหารว่างเสริมเข้าไปด้วย เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน ควรเลือกทานอาหารนิ่ม ๆ เช่น ผัดเต้าหู้สามรส จับฉ่ายเห็ดหอมเต้าหู้ เต้าหู้ผัดเปรี้ยวหวานสับปะรด โดยเอนไซม์จากสับปะรดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหารให้ดีขึ้น และควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด

          หากเลือกทานอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะล้มป่วยหลังหมดเทศกาลเจ
 
ขอบคุณข้อมูลจาก