x close

เปิดรับอาสาสมัคร 424 คน ทดสอบวัคซีนหวัด 2009

วัคซีนหวัด 2009




สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          นพ.ประเสริฐ เอื้อวรากุล ภาคจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากที่ประเทศไทยได้สั่งนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งจะส่งมาถึงในปลายปีนี้นั้น เป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อตาย จากการติดตามพบว่า ยังไม่มีการรายงานผลข้างเคียงทางระบบประสาทอย่างที่มีตั้งข้อสังเกต ทั้งนี้แม้ว่าเป็นวัคซีนใหม่ แต่เชื่อว่าความปลอดภัยน่าจะเหมือนเดิม ส่วนในเรื่องประสิทธิภาพป้องกันนั้น เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ การกระตุ้นภูมิคุ้มกันอาจยังไม่ได้เท่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ป้องกันสายพันธุ์ตามฤดูกาล ดังนั้นอาจต้องฉีดมากกว่า 1 เข็มเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงาน แต่หากเป็นการผลิตจากเชื้อเป็น ฉีดพ่นจมูกใช้เพียงแค่โดสเดียวน่าจะเพียงพอ

          ขณะที่ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาการศึกษาวิจัยในคน กล่าวว่า จะมีการเปิดรับอาสาสมัครเพื่อทดลองวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดพ่นทางจมูกที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรัสเซีย โดยในระยะที่ 1 จะเปิดรับอาสาสมัครที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 24 คน จะเป็นหญิงหรือชายก็ได้ อายุระหว่าง 18 - 49 ปี เป็นคนแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไวรัสตับอักเสบบี โรคเอดส์ และไม่มีภูมิต้านทานต่อโรคนี้มาก่อน คือ เมื่อเปิดรับสมัครจะต้องเจาะเลือดดูก่อนว่ามีภูมิต้านทานต่อโรคนี้หรือไม่ เพราะบางคนอาจจะเคยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 มาก่อน แต่อาจจะไม่มีอาการ ก็ถือว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ ถ้าเป็นหญิงต้องไม่ตั้งครรภ์ เพราะไม่รู้ว่าวัคซีนจะส่งผลกระทบต่อตัวเด็กหรือไม่

          โดยในอาสาสมัคร 24 คนจะให้มีการให้วัคซีนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ให้วัคซีนในปริมาณที่ต่ำ และวัคซีนในปริมาณที่สูง เพื่อดูว่าการให้วัคซีนในปริมาณเท่าใดจะได้ผลมากกว่ากัน โดยใน 24 คนนี้จะได้รับวัคซีนชนิดพ่น 2 ครั้ง ครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรก 21 วัน ส่วนระยะที่ 2 จะทดลองในอาสาสมัครจำนวน 400 คน แบ่งเป็น อายุ 12 - 18 ปี 100 คน อายุ 18 - 49 ปี  200 คน และอายุ 50 - 59 ปี 100 คน การทดลองในกลุ่มนี้จะใช้สูตร 3 ต่อ 1 คือ ใน 100 คน 75 คนจะได้รับวัคซีนจริง ส่วนอีก 25 คนจะได้รับวัคซีนหลอก โดยช่วงที่มีการทดลองในอาสาสมัครกลุ่มนี้จะมีการนัดมาตรวจร่างกาย 5 - 6 ครั้ง 

          สำหรับค่าตอบแทนอาสาสมัครนั้นการนัดมาแต่ละครั้งจะมีค่าตอบแทนให้ประมาณ 500 บาท แต่อาสาสมัครในกลุ่มแรกต้องมาพักค้างคืนประมาณ 1 สัปดาห์ของการทดสอบที่ศูนย์ทดสอบวัคซีน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะมีค่าตอบแทนให้ประมาณ 5,000 บาท

          อย่างไรก็ตาม นพ.วิชัย ยอมรับว่า การโจมตีเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนอาจมีผลต่ออาสาสมัครที่จะสมัครเข้ามาร่วมโครงการ แต่ขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีประสบการณ์สูง และเคยทดลองวัคซีนเอดส์มาแล้ว ดังนั้นคิดว่าเมื่อทำความเข้าใจกับอาสาสมัครแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยการเข้ามาร่วมโครงการจะใช้วิธีสมัครใจไม่บังคับ ซึ่งการทดลองวัคซีนในครั้งนี้จะมีหลัก 3 ข้อ คือ ปลอดภัยหรือไม่ กระตุ้นภูมิคุ้มกันหรือไม่มากน้อยเพียงใด และวัคซีนที่ใช้กระตุ้นนั้น ใช้ปริมาณสูงหรือต่ำดีกว่ากัน อย่างไรก็ตามกระบวนการทดลองวัคซีนในระยะที่ 1 และ 2 นั้นจะใช้เวลาอย่างละ 2 เดือน แต่ทั้ง 2 ระยะสามารถทำคาบเกี่ยวกันได้

          นพ.วิชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ก่อนจะไปถึงขั้นตอนการทดลองในคน ระยะที่ 1 ต้องรอผลการทดลองในสัตว์ก่อน หากพบว่ามีความปลอดภัยแล้วก็สามารถเริ่มกระบวนการได้ทันที โดยคณะกรรมการพิจารณาการศึกษาวิจัยในคน จะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 11 สิงหาคม คาดว่าจะนำผลการทดลองในสัตว์เข้าที่ประชุมและเริ่มกระบวนการได้ทันทีโดยการเปิดรับอาสาสมัครหลังจากนั้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดรับอาสาสมัคร 424 คน ทดสอบวัคซีนหวัด 2009 อัปเดตล่าสุด 28 กรกฎาคม 2552 เวลา 15:22:32
TOP