วิธีลดหน้าท้อง ที่ช่วยลดพุงได้จริง เชื่อไหมว่าหลายคนเข้าใจกันผิด คิดว่าการซิทอัพนี่แหละที่ช่วย ทั้งที่จริงแล้วถ้าอยากลดหน้าท้อง ต้องพึ่งการออกกำลังกายเหล่านี้ต่างหาก !
พุงป่อง ๆ ย้อยไปด้วยไขมันสะสม เชื่อสุดใจค่ะว่าใครก็ไม่อยากมีหน้าท้องแน่ ๆ แต่ด้วยปัจจัยหลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอายุที่มากขึ้น พฤติกรรมบริโภค หรือนิสัยขี้เกียจออกกำลังกาย ในที่สุดก็ทำให้ไขมันมาอย่างทะลักทลายกลายเป็นพุงกะทิที่ไม่น่ามองบนตัวเรา
เอาล่ะ ! ได้เวลาลดหน้าท้อง สลายพุงย้วย ๆ กันแล้ว แต่ขอบอกก่อนเลยนะคะว่าท่าออกกำลังกายลดหน้าท้องต่อไปนี้ไม่มีการซิทอัพแน่ ๆ เพราะในความเป็นจริงแล้วการซิทอัพแค่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องเท่านั้น ไม่สามารถลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้ ดังนั้นหากอยากลดพุงให้ได้ผล ต้องทำตามนี้ต่างหาก
1. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอก็มีทั้งวิ่งจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เล่นบาส เล่นฟุตบอล เป็นต้น และหากต้องการลดหน้าท้องจริง ๆ ควรคาร์ดิโออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันออกไป นอกจากนี้ยังอาจพ่วงการซิทอัพควบคู่ไปด้วยก็ได้ กล้ามเนื้อหน้าท้องจะได้สตรองสุด ๆ ไปเลย
2. โยคะ
รู้ยังว่าโยคะท่านอนหงาย มือประสานกันใต้ศีรษะ วางเท้าชิด จากนั้นหายใจเข้า หายใจออก ยกลำตัว ยกขาซ้ายขึ้น 45 องศา ขาตรง ไม่งอเข่า เกร็งหน้าท้อง ไม่กลั้นหายใจ ค้างไว้ แล้วหายใจเข้า-ออก 5–10 วินาทีก่อนวางขาลง
จากนั้นให้ทำสลับกับขาขวาเช่นเดียวกัน ทำซ้ำไปมา 2-3 ครั้ง แล้วให้หายใจเข้า หายใจออก ยกทั้งสองขาและลำตัวค้างไว้ หายใจเข้า-ออก 10 วินาที แล้วลดลง ก็ช่วยลดหน้าท้องให้ได้ด้วย แถมยังช่วยเพิ่มสมดุลให้ร่างกายอีกต่างหาก หรือหากอยากเพิ่มประโยชน์ด้านช่วยลดต้นขาอาจหาลูกบอลขนาดกลางมาหนีบไว้ตรงขาดังรูปก็ได้ค่ะ
3. เต้น
ออกสเต็ปเต้นเพียง 1 ชั่วโมงก็ช่วยเบิร์นได้มากถึง 400 แคลอรี ได้ทั้งความสนุกหรรษา และได้ทรวดทรงที่เป๊ะมากขึ้น หรือถ้าใครอยากลดหน้าท้องจริง ๆ อาจลองหัดระบำหน้าท้องไปเลยก็ได้
4. กระโดดเชือก
การกระโดดเชือกถือเป็นการแอโรบิกชนิดหนึ่ง ซึ่งจะช่วยเผาผลาญแคลอรีได้มากถึง 1,300 กิโลแคลอรีต่อการกระโดดเชือก 1 ชั่วโมง แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าการกระโดดเชือกจะช่วยสลายไขมันที่สะสมบริเวณพุงและส่วนอื่น ๆ ในร่างกายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
5. ท่าครันช์ (Crunches)
เริ่มต้นให้นอนลงกับพื้นก่อนแล้วยกเข่าขึ้นมา ขณะที่เอามือทั้งสองข้างประสานท้ายทอยไว้ แล้วยกตัวช่วงบนขึ้นมา ทำค้างไว้ 2-3 วินาที แล้วค่อย ๆ ทิ้งตัวลงสู่ท่าเริ่มต้นอีกครั้ง โดยจุดสำคัญของท่านี้อยู่ที่การเกร็งจังหวะเป็นรูปตัวซี (C) และบอกเลยว่าสำหรับการออกกำลังกายลดหน้าท้องแล้วนั้น ไม่มีอะไรที่ง่ายและเป๊ะปังไปกว่าท่าครันช์เลย
6. ท่าปีนเขา (Mountain climbers)
ท่านี้จะช่วยบริหารหน้าท้องได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่างแบบเน้น ๆ โดยเริ่มจากนอนคว่ำตัว แขนทั้งสองข้างเหยียดพื้น เท้าเหยียดตรง ดันปลายเท้าขึ้น จากนั้นงอเข่าขวาขึ้นมาค้างไว้ที่ระดับอกให้พอเมื่อย แล้วสลับไปงอเข่าซ้าย ทำต่อเนื่องให้ได้ประมาณ 30 วินาที ทำแบบนี้ทุกวันรับรองพุงหายแน่นอน
7 ท่า Leg Raises
อีกหนึ่งท่าลดหน้าท้องที่ทำง่ายมาก ๆ เพียงนอนหงายราบไปกับพื้น แขนวางอยู่แนบลำตัว จากนั้นเกร็งหน้าท้องขณะที่ยกขาทั้งสองข้างขึ้นชี้ฟ้า ค้างท่าไว้สักพักแล้วลดขาลง จากนั้นทำซ้ำเซตละ 15 ครั้ง หรือถ้าอึดกว่านี้จะทำมากกว่า 15 ครั้งก็ตามสะดวกเลยจ้า
นอกจากนี้คุณหมอผิง พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล ยังแนะนำมาด้วยว่า ถ้าอยากจะลดพุงให้ได้ต้องออกกำลังกายด้วยการคาร์ดิโอ และควบคุมอาหารไปพร้อม ๆ กัน แต่นอกจากคำแนะนำของคุณหมอแล้ว การแขม่วท้องก็ถือเป็นการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ตลอดเวลา แถมยังช่วยบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานตลอดเวลาด้วยนะคะ ยังไงก็ลองหยิบคำแนะนำไปปรับใช้กันดู
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Cleveland Clinic
live strong
My Health Tips
