แพทย์เตือนภัยสุขภาพสาว ๆ ยกเคสผู้ป่วยหญิง อายุ 40 ปี ปวดท้องน้อย คลื่นไส้ อาเจียน เอกซเรย์ช่องท้องเจอก้อนเนื้อ เต็มไปด้วยผม กระดูก หรือเรียกว่า โรคถุงน้ำเดอร์มอยด์ อันตรายถึงขั้นต้องตัดมดลูกทิ้ง
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 มีรายงานว่า นายแพทย์อารักษ์ วงศ์วรชาติ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล ได้โพสต์ภาพการรักษาโรคถุงน้ำเดอร์มอยด์
ที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยหญิง อายุ 40 ปี คนหนึ่ง ลงใน เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat
โดยระบุว่า หญิงคนดังกล่าว มีอาการปวดท้องมา 10 วัน ที่ผ่านมากินยาเอง
จนกระทั่งทนไม่ไหวจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
โดยพบว่ามีอาการปวดที่ท้องน้อย ปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ อืดท้อง คลื่นไส้
อ่อนเพลีย จากนั้น แพทย์ได้ทำการอัลตราซาวด์ เอกซเรย์ช่องท้อง
พบก้อนขนาดใหญ่ มีชิ้นส่วนของกระดูกอยู่ด้วย จึงได้ส่งผ่าตัดฉุกเฉิน พบว่า
ก้อนขนาดใหญ่ที่เจอใกล้แตก ขั้วบิด ผ่าก้อนเนื้อออก เจอเส้นผม ไขมัน
ชิ้นส่วนกระดูก และฟัน เต็มไปหมด สูติแพทย์จึงแนะนำให้คนไข้ตัดมดลูกทิ้ง
เพราะคนไข้มีลูกเพียงพอแล้ว ซึ่งทางผู้ป่วยก็ไม่เข้าใจว่าชิ้นส่วนเส้นผม
กระดูก เข้าไปอยู่ในท้องได้อย่างไร
แพทย์จึงได้อธิบายว่า
ที่เห็นเป็น โรคถุงน้ำเดอร์มอยด์ (Dermoid Cyst)
เกิดจากเซลล์ที่มีความสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่าง ๆ
มาอยู่ที่บริเวณรังไข่ตั้งแต่แรกเกิด
แล้วพัฒนาหรือถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยบางอย่าง ให้เจริญไปเป็นเซลล์ไขมัน
เส้นผม กระดูกอ่อน หรือฟัน จนเกิดเป็นถุงน้ำโตขึ้นเรื่อย ๆ
บางคนพบตั้งแต่อายุ 20 ปี แต่บางคนก็มาพบตอนอายุมากแล้ว