น้ำผลไม้สกัดเย็นดีไหม พร้อมทริกดื่มยังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุด

น้ำผลไม้สกัดเย็น ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะดื่มแล้วสดชื่น และเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ถ้ารู้เคล็ดลับอีกนิดก็จะได้ประโยชน์ของน้ำผลไม้สกัดเย็นอย่างเต็มที่ที่สุด

น้ำผลไม้สกัดเย็น เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่หลายคนติดใจ เพราะสามารถนำผลไม้มาสกัดเอาเฉพาะน้ำมาดื่มได้หลากหลายชนิด และปัจจุบันก็มีวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เกตหรือท้องตลาดทั่วไป เข้าถึงได้ง่าย วันนี้เราจะพามาดูว่าน้ำผลไม้สกัดเย็นดีจริงไหม ดื่มแล้วอ้วนหรือไม่ พร้อมแจกเคล็ดลับดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็นให้ได้ประโยชน์สูงสุด

น้ำผลไม้สกัดเย็น คืออะไร

น้ำผลไม้สกัดเย็น หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Cold pressed juice คือ น้ำผลไม้ที่ได้จากการนำผลไม้มาสกัดเย็นด้วยการใช้เเรงบีบอัดเพื่อคั้นน้ำผลไม้ออกมา หรือการคั้นน้ำผลไม้แบบแยกกาก แยกน้ำผลไม้ออกมาจากส่วนต่าง ๆ ของผล ทำให้ได้น้ำผลไม้คั้นสดที่ยังคงมีสารอาหาร เช่น วิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ และสารต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงรสชาติผลไม้ชนิดนั้น ๆ อย่างเต็มที่

น้ำผลไม้สกัดเย็น ดีไหม
ประโยชน์มีอะไรบ้าง

ด้วยกระบวนการสกัดเย็นที่จะไม่ผ่านความร้อน น้ำผลไม้สกัดเย็นจึงยังคงคุณค่าทางสารอาหารได้ค่อนข้างจะครบถ้วน และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ เช่น

1. อุดมไปด้วยวิตามิน เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แร่ธาตุ เอนไซม์ สารพฤกษเคมี สารต้านอนุมูลอิสระ ต่างจากการคั้นผลไม้ด้วยเครื่องปั่นหรือต้ม ที่อาจทำให้วิตามินต่าง ๆ ถูกความร้อนทำลายได้ หรือน้ำผลไม้สำเร็จรูปที่ผ่านกระบวนการพาสเจอไรซ์ จนทำให้วิตามินและเอนไซม์บางส่วนเสื่อมสลายไป

2. ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ภูมิคุ้มกัน เพราะมีวิตามินแร่ธาตุหลากหลายชนิด โดยเฉพาะหากดื่มน้ำผลไม้สกัดที่มีวิตามินซีสูง

3. เพิ่มความสดชื่น ได้รสชาติหวานจากน้ำตาลธรรมชาติ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นได้ทันที

4. ช่วยดีท็อกซ์ร่างกาย เอนไซม์ในน้ำผลไม้สกัดเย็นช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงอาการท้องผูก

5. ได้สารต้านอนุมูลอิสระไปช่วยดูแลผิวพรรณ ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ

อย่างไรก็ตาม น้ำผลไม้สกัดเย็นแม้จะรักษาสารอาหารในผลไม้ไว้ได้มาก แต่ก็ยังจะมีส่วนที่สูญเสียไป เช่น กากใยอาหาร เป็นต้น ดังนั้น คุณค่าทางโภชนาการของน้ำผลไม้สกัดเย็นก็ยังไม่เทียบเท่าการรับประทานผลไม้สดซะทีเดียวนะคะ

น้ำผลไม้สกัดเย็น อ้วนไหม
ลดน้ำหนักได้หรือเปล่า

แม้จะจัดอยู่ในหมวดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทว่าน้ำผลไม้สกัดเย็นก็มีน้ำตาลธรรมชาติจากผลไม้ชนิดนั้น ๆ เป็นส่วนประกอบ อีกทั้งการดื่มแต่น้ำผลไม้สกัดเย็นก็ไม่ได้รับไฟเบอร์ไปช่วยให้อิ่มอยู่ท้องเท่าไร ดังนั้น หากจะดื่มให้รู้สึกอิ่มอาจต้องดื่มในปริมาณมากและดื่มบ่อย ๆ ซึ่งก็เสี่ยงต่อการได้รับปริมาณน้ำตาลเพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อน้ำหนักตัวและความอ้วนได้ไม่มากก็น้อย

แต่หากเป็นคนที่ควบคุมอาหารอื่น ๆ หรือออกกำลังกายอยู่แล้ว และอยากเติมความสดชื่น ความหวานระหว่างวันด้วยน้ำผลไม้สกัดเย็นในปริมาณที่เหมาะสม เลือกผลไม้ที่น้ำตาลต่ำ แคลอรีต่ำ แบบนี้ก็ถือว่าน้ำผลไม้สกัดเย็นมีส่วนช่วยสนับสนุนการลดน้ำหนักได้อีกทาง

น้ำผลไม้สกัดเย็น
กินยังไงให้ได้ประโยชน์สูงสุด

1. เลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย

หากคั้นน้ำผลไม้สกัดเย็นเองที่บ้านควรเลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ แคลอรีน้อย ให้คุณค่าทางโภชนาการเยอะ เช่น แอปเปิล ฝรั่ง สับปะรด ทับทิม ส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี แก้วมังกร แตงโม มะละกอ ชมพู่ เป็นต้น หลีกเลี่ยงผลไม้น้ำตาลสูง เช่น ขนุน กล้วย ทุเรียน มะขามหวาน

2. เลือกผลไม้ที่สดใหม่

ผลไม้ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่จะมีปริมาณวิตามิน แร่ธาตุ และเอนไซม์ที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะยังไม่สลายตัวไปตามกาลเวลา หากนำมาสกัดเย็นจะได้น้ำผลไม้สกัดเย็นที่มีรสชาติอร่อย กลิ่นหอมสดชื่น และยังคงสารอาหารเอาไว้อย่างครบถ้วน

3. เพิ่มผักและสมุนไพรเข้าไปด้วย

ไม่จำเป็นต้องรับประทานแต่ผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่ควรเลือกชนิดผลไม้และผักให้หลากหลาย โดยควรให้มีทั้งผลไม้ ผักใบเขียว และสมุนไพรอย่างขิง ใบมินต์ โหระพา เพื่อเพิ่มรสชาติ และช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่แตกต่างกันมากยิ่งขึ้น

4. ไม่ต้องเติมน้ำตาลเพิ่ม

ผลไม้มีน้ำตาลจากธรรมชาติอยู่แล้ว เราไม่จำเป็นต้องเติมน้ำตาล น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง ฯลฯ ผสมลงไปอีก ร่างกายจะได้ไม่รับน้ำตาลมากเกินไป อีกทั้งการไม่เติมส่วนผสมใด ๆ เพิ่มเติม เราจะได้สัมผัสรสชาติที่เข้มข้นของผลไม้นั้นได้โดยตรง

5. ดื่มน้ำผลไม้ทันที

ควรดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็นที่คั้นสดใหม่ หรือถ้าสกัดแล้วดื่มเลยได้ยิ่งดี เพราะจะได้สารอาหารครบถ้วนที่สุด แต่หากสกัดแล้วทิ้งไว้นาน สารอาหารอาจค่อย ๆ สลายไปกับปัจจัยแวดล้อมได้ เช่น แสงแดด ความร้อน อากาศ

6. ดื่มพอประมาณ

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าน้ำผลไม้สกัดเย็นก็มีน้ำตาลจากผลไม้แฝงอยู่ไม่น้อย ขึ้นอยู่กับชนิดของผลไม้ที่เลือก ดังนั้น ควรดื่มพอประมาณ เช่น ไม่เกิน 1-2 แก้วต่อวัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย น้ำหนักตัว เพศ อายุ และระดับกิจกรรมทางกายที่ใช้ในแต่ละวันด้วย เพื่อไม่ให้น้ำตาลสะสมในเลือดมากเกินไป

7. รับประทานผลไม้สดร่วมด้วย

น้ำผลไม้สกัดเย็นไม่ค่อยมีกากใยไฟเบอร์ ใครดื่มแล้วก็ควรรับประทานผลไม้สด ๆ เพิ่มด้วย เพื่อให้ร่างกายได้รับไฟเบอร์ จะได้รู้สึกอิ่มมากขึ้น พร้อมกับช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงขึ้นเร็วเกินไป และยังเป็นการเพิ่มปริมาณกากอาหารในลำไส้ที่ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรดื่มแต่น้ำผลไม้เป็นหลัก แต่ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตามหลักโภชนาการ

8. เลือกซื้อน้ำผลไม้สกัดเย็นที่มีคุณภาพ

สำหรับคนที่อยากซื้อน้ำผลไม้สกัดเย็นมารับประทานเองควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำผลไม้นั้นผ่านกระบวนการสกัดเย็นจริงหรือไม่ ใช้ผลไม้ที่สดใหม่ ปลอดสารพิษ มีกระบวนการผลิตที่น่าเชื่อถือหรือไม่ นอกจากนี้ยังควรเลือกน้ำผลไม้ที่ไม่เติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวานอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่เติมสารกันเสีย สีสันของน้ำผลไม้เป็นธรรมชาติ บรรจุในภาชนะที่สะอาด ไม่มีรอยบุบหรือรั่ว และตรวจสอบส่วนผสม วันผลิต วันหมดอายุ ข้อมูลทางโภชนาการให้ละเอียด เพื่อเลือกน้ำผลไม้ที่มีคุณภาพมากที่สุด

น้ำผลไม้สกัดเย็น ข้อเสียมีไหม
ควรระวังอะไรบ้าง

เนื่องจากน้ำผลไม้สกัดเย็นคั้นมาจากผลสด ดังนั้น ควรล้างผลไม้ให้สะอาดก่อนนำมาสกัดน้ำผลไม้ หรือหากซื้อจากร้านค้า ควรซื้อจากร้านที่สะอาด ถูกสุขอนามัย ผ่านมาตรฐาน อย.

น้ำผลไม้สกัดเย็นมีปริมาณน้ำตาลโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้น ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

คนที่แพ้อาหาร แพ้เกสรดอกไม้ ควรระมัดระวังการซื้อน้ำผลไม้สกัดจากร้านค้าต่าง ๆ เพราะอาจมีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการแพ้ได้ หรือทางที่ดีควรสกัดน้ำผลไม้ดื่มเองที่บ้าน

ผู้มีโรคประจำตัว หรือรับประทานยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็น

น้ำผลไม้สกัดเย็นก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่หากเราดื่มอย่างเหมาะสมร่วมกับดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ ไปด้วยก็จะได้ความเฮลธ์ตี้อย่างเต็มที่ไปเลย

บทความที่เกี่ยวข้องกับน้ำผลไม้

ขอบคุณข้อมูลจาก : SciMath, โรงพยาบาล MedPark, shape.com